เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่อง 19 ซึ่งใช้บริการโครงข่ายภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (MUX) ของ อสมท. ค้างชำระค่าบริการเป็นเงิน 104 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่รวมค่าปรับและดอกเบี้ยแล้ว โดยทาง อสมท. ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อขอยุติการให้บริการ ซึ่งทาง กสทช. ก็มีมติอนุมัติตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2561 และทาง อสมท. ได้ส่งหนังสือแจ้งแก่ทางสปริงนิวส์ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา และจะยุติการให้บริการในวันที่ 16 มิ.ย. นี้ ซึ่งทำให้กระแสข่าว ‘จอดำ’ เกิดขึ้น และเป็นที่สนใจของสังคม
ต่อมามีเอกสารชี้แจงจากทางสปริงนิวส์อ้างอิง วทันยา วงษ์โอภาสี กรรมการบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ซึ่งให้ข้อมูลว่า ทางบริษัทพยายามเจรจากับทาง อสมท. มาโดยตลอดทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ราคาเช่าโครงข่าย รวมถึงการขอผ่อนชำระหนี้เช่นเดียวกับผู้เช่าโครงข่ายรายอื่น ล่าสุดเสนอจ่ายค่าเช่าโครงข่ายนับถึงสิ้นปี 2560 ให้เกินครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ภายในปี 2561 นี้ แต่ทาง อสมท. กลับปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งทางสปริงนิวส์ย้ำว่าไม่มีเจตนาไม่จ่ายเงิน และไม่ต้องการย้ายไปใช้บริการโครงข่ายอื่นแต่อย่างใด
สปริงนิวส์ตั้งประเด็นว่าการเก็บค่าบริการของ อสมท. ไม่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ตามที่กำหนด นอกจากนี้ยังพบว่า อสมท. เรียกเก็บค่าบริการผู้เช่าโครงข่ายแต่ละรายไม่เท่ากัน (ปัจจุบันทีวีดิจิทัลที่ใช้บริการโครงข่ายของ อสมท. ได้แก่ MCOT HD MCOT Family ไทยรัฐทีวี สปริงนิวส์ และวอยซ์ทีวี) จึงเห็นว่าการเรียกเก็บค่าบริการของ อสมท. ไม่เป็นธรรม และอาจจะดำเนินการตามกฎหมายกับ อสมท. ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สปริงนิวส์แจ้งว่าได้ประสานงานกับ กสทช. ในเรื่องดังกล่าวแล้ว หากไม่ได้ข้อยุติ และ อสมท. หยุดให้บริการ ก็จะช่วยประสานงานกับผู้ให้บริการโครงข่ายอื่นเพื่อให้การออกอากาศยังดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
วงการสื่อทราบกันดีว่าสปริงนิวส์อยู่ภายใต้อาณาจักรธุรกิจของ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ซึ่งขณะนี้มีสื่อทุกรูปแบบอยู่ในมือหลังจากที่เข้ามาถือหุ้นส่วนใหญ่และเปลี่ยนรูปโฉมของเครือเนชั่น ทำให้ปัจจุบัน NEWS มีสถานีโทรทัศน์ถึง 3 ช่องได้แก่ สปริงนิวส์ เนชั่นทีวี และ NOW26 นอกจากนี้ยังมีสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก และ The Nation ด้วย จึงต้องจับตาความเคลื่อนไหวขององค์กรสื่อขนาดใหญ่ระดับนี้ จะปรับตัวอย่างไรในก้าวต่อไป และจะถือไพ่ในมือแบบนี้ทั้งหมดเอาไว้ได้อีกนานแค่ไหน