สมัชชาใหญ่ของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) เลือก มีรยานา สปอลจาริก เอกเกอร์ จากสหประชาชาติ (UN) เป็นประธานหญิงคนแรก โดยจะมาดำรงตำแหน่งต่อจาก ปีเตอร์ เมาเรอร์ ซึ่งได้แจ้งลาออกหลังทำงานกับ ICRC มากว่า 10 ปี
ปัจจุบัน สปอลจาริก เอกเกอร์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ ผู้ช่วยธุรการ และผู้อำนวยการของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ภูมิภาคยุโรปและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช โดยจะมาเริ่มทำหน้าที่ประธาน ICRC ในวันที่ 1 ตุลาคม 2022 และมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี
เมาเรอร์ซึ่งเป็นประธานสมัชชาใหญ่ ICRC โดยตำแหน่ง กล่าวว่า “สปอลจาริก เอกเกอร์ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และมีประสบการณ์การทำงานด้านระหว่างประเทศและการทูตที่เข้มข้นและกว้างขวาง ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ประกอบเหล่านี้บวกกับความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ จะทำให้ สปอลจาริก เอกเกอร์ สามารถทำหน้าที่คอยสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและความรุนแรงได้อย่างมีพลังและเข้าอกเข้าใจ”
ด้าน สปอลจาริก เอกเกอร์ กล่าวว่า ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สานต่อความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการดำรงตำแหน่งประธานขององค์กรที่ดิฉันชื่นชมมาตลอด ด้วยพันธกิจสำคัญระดับโลกที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน ดิฉันจะทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อนำแนวทางด้านมนุษยธรรมที่องค์กรได้สั่งสมและยึดมั่น เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและความรุนแรง ในส่วนของการเป็นตัวแทนองค์กรนั้น ดิฉันจะมุ่งมั่นเน้นย้ำให้เห็นถึงความต้องการของกลุ่มผู้เปราะบางที่สุดในสังคม รวมทั้งผลของงานที่เจ้าหน้าที่ ICRC ทำอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งทั่วโลกด้วย
สำหรับ สปอลจาริก เอกเกอร์ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิส และตำแหน่งอื่นๆ ในกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิสประจำกรุงเบิร์น, ไคโร และนิวยอร์ก รวมถึงสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (Office of the United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees in the Near East: UNRWA) เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบาเซิลและมหาวิทยาลัยเจนีวา โดยได้รับปริญญาโทสาขาปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย ปัจจุบันสปอลจาริกสมรสแล้วและมีลูกสองคน
ขณะที่เมาเรอร์จะยังคงทำหน้าที่ประธาน ICRC จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2022 เพื่อดูแลการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ขององค์กร การดำเนินกิจกรรมด้านการทูตเชิงมนุษยธรรม และการส่งมอบภารกิจให้ประธานคนใหม่
