×

เจาะลึกเทรนด์ผิวล่าสุดด้วย Filler Belotero Revive และเทคนิคจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ ‘Sowon Clinic’ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
18.04.2023
  • LOADING...
Sowon Clinic

HIGHLIGHTS

  • แค่นวัตกรรมที่ทันสมัย หัตถการครบครัน คงไม่ใช่เหตุผลในการเลือกคลินิกของคนยุคนี้อีกต่อไป 
  • Sowon Clinic คลินิกน้องใหม่ที่แม้จะบุกตลาดความงามไม่ถึง 5 ปี แต่สามารถครองใจลูกค้า จนได้รับความไว้วางใจอย่างรวดเร็ว ปัจจัยสำคัญคือ การยึดมั่นในพันธกิจที่ต้องการส่งมอบโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีให้กับผู้คนด้วยความใส่ใจ 
  • เทรนด์ผิวกระจก ผิวใส ดูแวววาว สุขภาพดี คือเทรนด์ผิวปี 2023 ที่คนในแวดวงความงามและอินฟลูเอ็นเซอร์ทุกคนให้ความสนใจ โดยมีนวัตกรรม Filler Belotero Revive มาตอบโจทย์เทรนด์ความงามนี้

ท่ามกลางการแข่งขันของคลินิกความงาม แค่นวัตกรรมที่ทันสมัย หัตถการครบครัน คงไม่ใช่เหตุผลในการเลือกคลินิกของคนยุคนี้อีกต่อไป เพราะโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลข่าวสาร เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถอ่านรีวิวหลังเข้ารับบริการได้ทันที 

 

เท่ากับว่าคลินิกที่ยังติดอยู่ในท็อปลิสต์ทุกครั้งที่มีการค้นหาบนโลกโซเชียล ย่อมสะท้อนถึงมาตรฐานของทีมแพทย์และความประทับใจจากผลลัพธ์ที่พึงพอใจโดยผู้ใช้บริการตัวจริง  

 

Sowon Clinic คลินิกน้องใหม่ที่แม้จะบุกตลาดความงามไม่ถึง 5 ปี แต่สามารถครองใจลูกค้า จนได้รับความไว้วางใจอย่างรวดเร็ว พญ.ชฎาภัณฑ์ มารัตนะ บอกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Sowon Clinic ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการได้ เป็นเพราะพันธกิจที่ต้องการส่งมอบโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีให้กับผู้คนด้วยความใส่ใจ

  

 

“4 ปีก่อนเราเป็นเพียงคลินิกเล็กๆ ที่เริ่มต้นด้วยพนักงานเพียง 10 คน แต่ปัจจุบันเราขยายออกไปได้ 4 สาขา และมีพนักงานรวมถึงทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกว่า 200 ชีวิต” 

 

พญ.ชฎาภัณฑ์ ยังบอกด้วยว่า คีย์หลักของธุรกิจความงามคือ ‘แพทย์’ Sowon Clinic จึงให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานการรักษา โดยแพทย์ทุกท่านจะต้องเป็นแพทย์ประจำของคลินิก เพื่อพร้อมให้คำแนะนำและการรักษาที่ทันท่วงที 

 

“ไม่ว่าคุณจะไปสาขาไหน มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการรักษาและบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทุกเดือนจะมีการจัดเทรนแพทย์ที่สำนักงานใหญ่ เพื่ออัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ที่แพทย์แต่ละท่านได้ไปอบรมหรือเข้าฟังงานสัมมนามา รวมถึงนำเคสต่างๆ มาแชร์กัน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคนิค” 

 

ผิวใส-แวววาว-สุขภาพดี เทรนด์ผิวมาแรงปี 2023 

เมื่อถามถึงเทรนด์ความงามที่กำลังมาแรงในตอนนี้ พญ.ชฎาภัณฑ์ อธิบายให้เห็นภาพว่า เทรนด์ความงามส่วนใหญ่จะอิงจากต่างประเทศเป็นหลัก เมื่อมีผลวิจัยรองรับและศึกษาแล้วว่าเหมาะกับคนไทย จึงค่อยเลือกนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับความต้องการของคนไทยเข้ามา 

 

“จะรู้ได้อย่างไรว่าเทรนด์ไหนเหมาะกับคนไทยเดี๋ยวนี้ง่ายมาก เราสามารถทำ Social Listening ดูว่าตอนนี้ผู้บริโภคพูดถึงอะไร ประกอบกับการพูดคุยกับคนไข้โดยตรงว่ามีอะไรที่เขาต้องการ วิธีการทำงานแบบนี้เป็นสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด ทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงตั้งแต่ต้นปีคือ เทรนด์ผิวใส แวววาว และดูสุขภาพดี หรือในวงการเรียกว่า ‘ผิวกระจก’ เพราะคนยุคใหม่ชอบออกกล้อง ชอบถ่ายรูป และต้องการโชว์ผิวสวย ดูสุขภาพดี

 

 

“คนในแวดวงความงามและอินฟลูเอ็นเซอร์ทุกคนให้ความสนใจเรื่องผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากบางหัตถการไม่สามารถจัดการริ้วรอยในบางตำแหน่งได้ จึงเกิดนวัตกรรมใหม่ Filler Belotero Revive มาช่วยแก้เคสยากๆ เช่น กลุ่มลูกค้าอายุเยอะ แม้จะฉีดโบท็อกซ์แต่ก็ยังมีริ้วรอยหลงเหลืออยู่ หรือบางคนผิวไม่เฟิร์ม ไม่กระชับ มีลักษณะของผิวยับ Belotero Revive มีผลวิจัยแล้วว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาได้”

 

พญ.ชฎาภัณฑ์ ยังแนะนำด้วยว่า “Belotero Revive มีไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำที่มีอยู่ในฟิลเลอร์ทุกตัว ยังมีกลีเซอรอล (Glycerol) เป็นสารที่อยู่ในครีมทาผิว ทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว เมื่อฉีดลงไปที่ผิว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าฟิลเลอร์ เหมาะกับผิวแห้ง, ผิวขาดน้ำ, ผิวขาดความยืดหยุ่น, ผิวไม่กระชับ, มีริ้วรอย, มีร่องลึกแบบตื้น, ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด, รูขุมขนกว้าง, ผิวไม่เรียบเนียน หรือมีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด โดยมากคนไข้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปจะเห็นผลชัดเจนขึ้น ช่วยให้ผิวเนียนเด้ง อิ่มฟู ชุ่มชื่น และฉ่ำวาว” 


‘ฉีดได้’ กับ ‘ฉีดเป็น’ อาจหมายถึงผลลัพธ์ที่ต่างกัน 

เรื่องความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่ พญ.ชฎาภัณฑ์ แนะว่าควรหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจฝากหน้าไว้ในมือแพทย์ เพราะต่อให้เครื่องมือล้ำสมัย นวัตกรรมดี แต่ทำโดยแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือไม่มีเทคนิคที่ดี ก็อาจเกิดปัญหาหรือผลกระทบที่ไม่ตรงตามความต้องการ 

 

“เหมือนคุณมีอาวุธที่ดี คนใช้ก็ต้องใช้เป็นและเก่งด้วย ถึงจะใช้ประโยชน์จากมันได้สูงสุด นอกจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญแล้ว ทีมแพทย์ของเราจะต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่คนไข้ต้องการและประเมินปัญหาที่แท้จริงของคนไข้ได้ 

 

“สิ่งที่เราทำกันมาตลอดคือ เมื่อมีนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องมือใหม่เข้ามา แพทย์ทุกคนจะต้องทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริง อย่างฟิลเลอร์ก็ต้องลองฉีดเพื่อให้รู้ว่าเวลาฉีดมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเคสแบบไหนบ้าง และจะอธิบายให้คนไข้ฟังอย่างไร ผลลัพธ์แบบไหนที่เขาคาดหวังได้ แพทย์จะต้องมีความเข้าใจก่อน ด้วยการจัดเทรนนิ่งภายในเดือนหนึ่งอย่างน้อย 2 ครั้ง ทุกครั้งจะให้คุณหมอได้ประเมินและทำเคสจริง เพื่อเรียนรู้ทั้งงานวิจัยและประสบการณ์จริง” 

 

พญ.ชฎาภัณฑ์ ยกตัวอย่างให้ฟังว่า บางเคสแม้ผิวภายนอกจะดูดี แต่เมื่อแพทย์ประเมินโครงสร้างหน้าอาจพบว่ามีปัญหาที่คนไข้เองไม่ทันสังเกตซ่อนอยู่ การประเมินโครงสร้างหน้าจึงเป็นสิ่งที่ Sowon Clinic ให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อค้นให้เจอต้นตอที่แท้จริงของปัญหา 

 

“การให้คำปรึกษาจะเน้นไปที่ปัญหาของคนไข้เป็นหลัก รวมไปถึงลำดับการทำหัตถการก็มีความสำคัญมากๆ ที่คนไข้จะต้องรู้ เช่น คนไข้อยากมีรูปปากที่สวย แต่หมอประเมินแล้วพบว่า คุณต้องแก้ระดับโครงสร้าง ต้องฉีดหน้าแก้มก่อน เพราะกล้ามเนื้อบนหน้าสัมผัสกันหมด ถ้าแก้ที่ปากอย่างเดียว คนไข้อาจได้ปากที่สวยแต่ดูทั้งหน้าแล้วไม่สวย 

 

“อีกปัญหาที่พบบ่อยคือ คนไข้ไม่รู้ว่าต้นตอของปัญหาคืออะไรและต้องใช้นวัตกรรมอะไรแก้ปัญหา หรือตำแหน่งที่ต้องแก้อาจไม่ใช่จุดที่คนไข้คิดว่าเป็นปัญหาก็ได้ ที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ เพราะต้องการมอบความสวยที่เป็นธรรมชาติให้กับคนไข้ ต้องสวยแบบที่ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา” 

 

 

ดูแลกันจนกว่าลูกค้าจะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ 

ที่ขาดไม่ได้คือ เรื่องการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับคำปรึกษา พญ.ชฎาภัณฑ์ บอกว่า การทำหัตถการความงามไม่ใช่ทำเสร็จแล้วจบ 

 

“บางทีคุณอาจเจอปัญหาหลังการรักษา เช่น หน้าบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ จึงต้องการการดูแลหลังการทำหัตถการ การติดตามคนไข้ยังทำให้เขารู้สึกอุ่นใจว่าเราจะคอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ”  

 

มาตรฐานทั้งหมดที่ทำอย่างเนื่อง ส่งผลให้ Sowon Clinic กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล THE GOLD AWARD FOR MERZ FILLER, รางวัล THE PLATINUM AWARD FOR MERZ FILLER 2021 และ 2022 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจผู้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ ‘Belotero’ มาก ประจำปี 2020-2022 จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand 

 

นอกจากนั้นยังได้รางวัล EXCLUSIVE CUSTOMER AWARD 2020, รางวัล Aestox Top Spender Awards 2021-2022 รางวัลยอดซื้อโบท็อกซ์ยี่ห้อ Aestox สูงสุดระดับประเทศ การันตีการฉีดโบท็อกซ์มากว่า 3 ปีซ้อน และรางวัล Diamond Awards ที่มอบให้กับคลินิกที่มียอดซื้อฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็อกซ์ Allergan มากกว่า 10 ล้าน ประจำปี 2021 จาก The Future of Aesthetics รวมถึงรางวัล The Certified Partner Award for German Toxin จากโบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin อีกด้วย 

 

“รางวัลที่เราได้รับ ไม่เพียงตอกย้ำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าเราเป็นคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าถูกต้องผ่าน อย. ทุกตัว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ เพราะเรามั่นใจว่าการบริการที่ดีจะถูกบอกกันปากต่อปาก ทำให้เรามีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” 

 

ตั้งเป้า 5 ปี ขยายสาขาต่อไม่หยุดยั้ง

พญ.ชฎาภัณฑ์ เผยเป้าหมายต่อไปของ Sowon Clinic ว่า ต้องการจะขยายสาขาต่อเนื่องภายใน 5 ปี ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสร้างฐานรากที่มั่นคง

 

“การบริหารงานของเรานอกจากเรื่อง Hard Skill เรายังให้ความสำคัญกับ Soft Skill ตอนนี้เรามีทีมงานที่เติบโตมาพร้อมกับเรา มีคนที่เริ่มต้นจากระดับโอเปอเรชันมาเป็นระดับหัวหน้า สะท้อนว่าเราเป็นองค์กรที่มี Career Path ให้กับทุกคนที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน 

 

“และเพื่อให้องค์กรเราเติบโตอย่างมั่นคง เราจึงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาบุคลากรทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill ควบคู่กันไป เพื่อทำให้โครงสร้างองค์กรแข็งแรง โดยเน้นพัฒนาคนในองค์กรให้เติบโต ก่อนที่จะรับคนจากภายนอกเข้ามาในตำแหน่งสูงๆ ทำให้ช่วงแรกเราอาจขยายไม่เร็วมาก 

 

“แต่เมื่อไรที่รากฐานมั่นคง เราจะไปได้อย่างรวดเร็วแน่นอน ส่วนเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะสร้างแพทย์ที่ดีอย่างไรและส่งมอบคุณค่าให้กับคนไข้”  

 

โดยยุทธศาสตร์ของ Sowon Clinic นั้นจะเริ่มขยายจากกรุงเทพฯ ออกไปจับกลุ่มเป้าหมายโซนกรุงเทพฯ รอบนอก แล้วค่อยขยายไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ 

 

“ทุกสาขาเราจะดูไปตามกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่นั้นๆ เพราะกลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นคนที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อไปทำอะไรบางอย่าง เช่น ต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน หรืออีกกลุ่มคือ คุณแม่วัยใส ฟื้นฟูความงามมอบเป็นของขวัญให้กับตัวเอง” 


เลือกคลินิกความงามอย่างไร

“สิ่งแรกที่ต้องดูคือแพทย์ต้องเก่งจริง คำว่าเก่งหมายถึงต้องมองคนไข้ขาดว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง และอะไรคือความต้องการของคนไข้ ส่วนที่สองคือมาตรฐานคลินิก ผู้บริหารคลินิกมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน บริหารองค์กรอย่างไร สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการให้บริการกับลูกค้าด้วย หรือถ้าให้ชัวร์ ลองถามเพื่อนที่เคยไปทำมาก็ได้ว่าที่ไหนดี ส่วนใหญ่เพื่อนแนะนำเพื่อนจะจริง ลองถามเพื่อนว่า แพทย์ที่รักษาให้คำแนะนำอะไรไหม หรือเข้าไปถึงบอกว่าอยากฉีดหน้าก็ฉีดให้เลยโดยไม่ให้คำปรึกษาหรือถามข้อมูลอะไรจากเรา หรือถ้าไม่มีเพื่อนใกล้ตัวเคยทำ ลองหารีวิวจากคนที่เคยทำจริงที่ไม่ใช่หน้าม้า สุดท้ายคือลองปรึกษาก่อนตัดสินใจทำ” 

 

พญ.ชฎาภัณฑ์ ยืนยันว่า ทุกนัดที่เข้ามาปรึกษาก่อนรักษาจริงไม่มีค่าใช้จ่าย 

 

“เราเชื่อว่าถ้าคำแนะนำของเราที่ให้ไปเขาเห็นว่าดี สุดท้ายเขาก็ทำเอง แต่ถ้าเคสไหนประเมินแล้วทำไม่ได้อย่างที่คนไข้ต้องการ เพราะดูแล้วว่าจะมีอันตรายหรืออาจได้ผลลัพธ์ไม่ตอบโจทย์คนไข้ เช่น อยากจมูกพุ่งแต่เนื้อจมูกน้อย ไม่สามารถทำได้ ก็จะแนะนำตรงๆ เราจะทำเฉพาะสิ่งที่มันสร้างอิมแพ็กให้กับลูกค้า ดีกว่าทำเพราะต้องการลูกค้าเยอะๆ หรือต้องการกำไรโดยไม่นึกถึงสิ่งที่ลูกค้าควรจะได้รับ 

 

“เพราะเราต้องการมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดให้กับลูกค้าของเรา” พญ.ชฎาภัณฑ์ กล่าวทิ้งท้าย

FYI

Sowon Clinic เปิดให้บริการ 4 สาขา คือ

  • สาขาวิสุทธานี ลาดพร้าว 101/3 ศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร จมูก ปาก คาง ตาสองชั้น
  • สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร จมูก ปาก คาง ตาสองชั้น ดูแลผิวพรรณและปรับรูปหน้าครบวงจร (ชั้น 1 โซนเซ็นทรัล)
  • สาขารัชดาภิเษก 22 ศูนย์ผิวพรรณและปรับรูปหน้าครบวงจร (ติด MRT รัชดาภิเษก ทางออก 4)
  • สาขาราม 24 ศูนย์ผิวพรรณ ปรับรูปหน้า และเลเซอร์ ครบวงจร (ชั้น 1 โรงแรม Bangkok Inter Place)
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising