วันนี้ (15 มกราคม) โค้งสุดท้ายก่อนเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง เลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในจังหวัดสงขลาและชุมพร ยังคงแข่งกันอย่างคึกคัก หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่ก่อนประชาชนกาบัตรในวันพรุ่งนี้ (16 มกราคม)
เริ่มต้นที่บรรยากาศการหาเสียงวันสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 6 จังหวัดสงขลา ของพรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแกนนำคนอื่นๆ ยังคงร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ ธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เบอร์ 2 โดยมีคาราวานรถแห่กระจายไปเป็น 4 สาย ตระเวนไปทุกพื้นที่ของเขต 6 ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ตลอดสองข้างทางมีประชาชนร่วมโบกไม้โบกมือให้ และรวมถึงขอถ่ายรูปด้วย โดยการสื่อสารสำคัญที่พยายามส่งไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือ เลือกพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เพื่อส่งเสียงความไม่พอใจในการบริหารงานผิดพลาดของพรรคจากรัฐบาล
พิธากล่าวว่า ถึงวันนี้ตนมีความมั่นใจในผู้สมัครของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ตาม หรือ ธิวัชร์ ดำแก้ว เป็นผู้ช่วยของตนในสภา อยู่เบื้องหลังการอภิปรายของตนในสภามากว่า 3 ปี เขียนกฎหมายเป็น อภิปรายเป็น ตรวจสอบงบประมาณเป็น ดังนั้นหากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสงขลาเข้าคูหาแล้วเลือกธิวัชร์ในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้ มั่นใจว่าวันที่ 17 มกราคม เขาจะสามารถทำงานได้ทันที เขารู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี ครบเครื่องทั้งบู๊ทั้งบุ๋น ทั้งที่สภาและที่สะเดาที่คลองหอยโข่ง และที่ 3 ตำบลของหาดใหญ่ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในคนคนเดียวกัน คือ ธิวัชร์ ดำแก้ว คนนี้ วันนี้ตนมาสงขลา เป็นการมาหาเสียงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีต และไม่มีเวลาไหนเหมาะสมเท่ากับเวลานี้อีกแล้ว กับ 2 ปีของความปั่นป่วนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคายาง เรื่องเศรษฐกิจชายแดน เวลานี้สงขลาต้องการผู้นำที่ทันสมัย ผู้นำที่เข้าใจ และผู้นำที่ทำให้คนสงขลาเท่าเทียมกันและเท่าทันโลก ตนมั่นใจในตัวธิวัชร์ จึงยอมสละและตัดมือขวาคนนี้ เอาคนสะเดาจากสภามาคืนคนสะเดาในวันนี้
“ผมฝากถึงพี่น้องทุกคนว่า ถ้าอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ เราต้องออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันเยอะๆ เปลี่ยนธิวัชร์ ดำแก้ว จากม้านอกสายตา ให้เป็นม้ามืดเข้าวินให้ได้ ท่ามกลางความขัดแย้งและไม่มีเอกภาพของรัฐบาลที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผมพอที่จะสัมผัสได้ว่าพี่น้องประชาชนอึดอัด และต้องการระบายความอึดอัดต่อการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลผ่านคูหาเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นบริสุทธิ์ยุติธรรม ผมคิดว่าพรรคก้าวไกลมีสิทธิที่จะเป็นม้ามืดที่เข้าวิน จากที่ผ่านมานั้นเราเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด สงขลาจะเปลี่ยนได้ ไม่ได้อยู่ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่อยู่ที่พี่น้องประชาชนทุกคน เพราะทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งคือสิทธิและเป็นอำนาจของประชาชน ซึ่งพี่น้องสงขลา เขต 6 ได้รับโอกาสนั้นเดี๋ยวนี้ อย่าให้เสียงของท่านสูญเปล่า เดิมพันครั้งนี้สูงเกินไปที่ท่านจะนอนหลับทับสิทธิ” พิธากล่าว
ด้านธิวัชร์กล่าวว่า เชื่อมั่นในตัวพี่น้องประชาชนที่บ้านเกิดของตนเอง เชื่อว่าชาว อำเภอสะเดา อำเภอคลองหอยโข่ง และอีก 3 ตำบลใน อำเภอหาดใหญ่ ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะนับตั้งแต่ที่จำความได้ ล่วงเลยมาจนวันนี้ กว่า 30 ปีแล้วที่พื้นที่สงขลาเขต 6 ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากแต่วันนี้ตนรับรู้ถึงความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงของประชาชน และด้วยประสบการณ์ในสภา ด้วยอุดมการณ์แนวคิดของพรรคก้าวไกล และด้วยความมุ่งมั่นของตน มั่นใจว่าจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้ ขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ทุกคน ให้ตนได้เป็นตัวแทนของคนที่อยากเปลี่ยนแปลง ได้ทำงานและปักธงทางความคิดของคนในเขตนี้ ถ้าเราไม่ลงมือทำงาน เราจะไม่รู้เลยว่ามีคนอยากเปลี่ยนแปลงจำนวนเท่าไร เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้ คือการนับจำนวนคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง
ด้าน ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเช้านี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ได้ปล่อยขบวนรถหาเสียงโค้งสุดท้าย ตระเวนหาเสียงรอบพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับ น้ำหอม-สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์
โดยในวันนี้มีตัวแทนของพรรคจากกรุงเทพฯ มาร่วมช่วยรณรงค์ตลอดทั้งวัน นำโดย องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดร.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรค และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้การแต้ม พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม.
น้ำหอม สุภาพร ได้กล่าวย้ำเพื่อเชิญชวนพี่น้องชาวเขต 6 สงขลา ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขอกำลังใจให้ช่วยสนับสนุนตนเองให้ได้เป็น ส.ส. หญิงคนแรกของจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และบอกถึงความตั้งใจในการทำงาน และความพร้อมในการเริ่มต้นทำงานได้ทันที เพราะมีประสบการณ์ในการทำงาน
โดยบรรยากาศการรณรงค์หาเสียงที่จังหวัดสงขลามีความคึกคักตั้งแต่ในช่วงเช้า มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูมือให้ความมั่นใจเลือกเบอร์ 1 ตลอดเส้นทาง
ด้าน สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่จังหวัดชุมพร พรรคพลังประชารั ได้เสนอ ชวลิต อาจหาญ หรือทนายแดง ผู้สมัครเลือกตั้งเบอร์ 4 ซึ่งเป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีคุณภาพ เป็นคนดี มีประวัติขาวสะอาด ผ่านประสบการณ์งานการเมืองท้องถิ่นมากว่า 20 ปี ทั้งการเป็น สจ. นายก อบต. มีความเข้าใจ เข้าถึงความต้องการของคนในพื้นที่ มีความรู้ด้านกฎหมายที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนกระบอกเสียงให้กับพี่น้องประชาชน และร่วมทำงาน กับ ส.ส. พปชร. ในสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับจังหวัดสงขลา พรรคได้ส่ง อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือน้องโบ๊ต ผู้สมัครเบอร์ 3 ซึ่งมีประวัติการศึกษาดี เป็นนักเรียนนอก เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม ไม่มีประวัติด่างพร้อย และเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะทำงานพัฒนาพื้นที่ ลงเป็นตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ตนอยากขอให้พี่น้องประชาชนทั้งสองจังหวัดได้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อแสดงตัวว่าไม่กลัวการใช้อิทธิพลข่มขู่ ไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง เลือกผู้สมัครที่พร้อมจะทำหน้าที่ ส.ส. เป็นกระบอกเสียงตัวแทนส่งต่อปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการของพี่น้องประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายบริหารนโยบายคือรัฐบาล
สำหรับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะเป็นตัวแทนรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะเพียงภาคใต้เท่านั้น กว่า 2 ปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ส.ส. พปชร. เข้าถึงง่าย พร้อมทำงานให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างเต็มกำลังสุดความสามารถ
