วานนี้ (19 มกราคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ยุนซุกยอล ต้องการผลักดันกฎทำงานล่วงเวลารูปแบบใหม่ ที่จะอนุญาตให้ผู้คนสามารถทำงานล่วงเวลาเพิ่มเพื่อแลกวันหยุดได้ โดยจะเพิ่มชั่วโมงการทำงานขึ้นจาก 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มาเป็น 69 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ทำงานปกติ 40 ชั่วโมง + ทำงานล่วงเวลาได้สูงสุดไม่เกิน 29 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) หวังกระตุ้นอัตราการเกิดในประเทศ
รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเสนอแผนการนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ พร้อมระบุว่า แผนการนี้จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับตลาดแรงงานภายในประเทศ โดยภาพรวมแล้วแรงงานจะทำงานน้อยลง หวังสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นให้พวกเขาสร้างครอบครัวกันมากยิ่งขึ้น และเพิ่มอัตราการเจริญพันธ์ุที่คาดว่าจะแตะระดับต่ำที่ 0.7 ในปี 2024
โดยเกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่อัตราการเจริญพันธ์ุอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่สุดของโลกและกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในปี 2019 ที่ผ่านมา มีประชากรวัยทำงานสูงสุดถึง 38 ล้านราย ซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวนี้จะลดลงกว่า 9 ล้านรายภายในปี 2040
ด้านกระทรวงการจ้างงานและแรงงานเกาหลีใต้ชี้ว่า กฎหมายแรงงานปี 2018 ที่จำกัดชั่วโมงการทำงานไว้ที่ 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ทำงานปกติ 40 ชั่วโมง + ทำงานล่วงเวลา 12 ชั่วโมง) อาจไม่ตอบโจทย์สภาพสังคมตามกาลเวลา พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่า ถ้าคุณทำงานในโรงงานไอศกรีม คุณจะทำงานล่วงเวลาได้เพียงบางฤดูกาลเท่านั้น ในขณะที่ร่างกฎหมายที่ปฏิรูปใหม่จะช่วยให้คุณเก็บจำนวนชั่วโมงการทำงานและมีช่วงวันหยุดที่ยาวนานขึ้น
ข้อเสนอของรัฐบาลจะอนุญาตให้นายจ้างและแรงงานตกลงกันว่าจะนับชั่วโมงการทำงานอย่างไร โดยในช่วง 1 ปีเต็มอนุญาตให้ทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกิน 440 ชั่วโมง และไม่เกิน 29 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งการทำงานล่วงเวลาจะสามารถและเปลี่ยนเป็นวันหยุดได้ภายหลัง เบื้องต้นยังไม่มีการประกาศวิธีคิดคำนวณวันหยุดที่จะได้รับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่ข้อมูลเชิงสถิติเผยว่า ในปี 2021 ที่ผ่านมา มีชาวเกาหลีเพียง 14% เท่านั้นที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการปกป้องแรงงานจากชั่วโมงการทำงานที่มากจนเกินไป หรือการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง
โดยร่างกฎหมายใหม่นี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาแห่งชาติ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านของรัฐบาล ยุนซุกยอล ครองเสียงข้างมากอยู่ในขณะนี้ และเริ่มเกิดกระแสต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ทั้งยังชี้ว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ต่างจากเส้นทางลัดที่จะนำไปสู่การสูญพันธ์ุของประชากรประเทศนี้ ก่อนที่รัฐบาลจะออกมาชี้แจ้งว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับตลาดแรงงานเท่านั้น
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เผยว่า ในปี 2021 ชาวเกาหลีใต้มากกว่า 18% ทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 5 รองจากตุรกี เม็กซิโก โคลอมเบีย และคอสตาริกา
ในขณะที่ร่างกฎหมายดังกล่าวก็สร้างความกังวลใจให้กับกลุ่มคนบางกลุ่มไม่น้อย โดย อีมินอา ศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยจุงอังของเกาหลีใต้ ตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงาน แม้เพียงระยะสั้นๆ จะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในมิติของงานภายในบ้าน โดยเมื่อสามีทำงานมากยิ่งขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้หญิงก็อาจมีแนวโน้มลดลงและมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ดูแลลูกๆ มากยิ่งขึ้น
ด้าน อียุนซูน พนักงานบริษัทวัย 29 ปี ชี้ว่า การโหมทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้วันหยุดพักที่ยาวขึ้นนั้น อาจทำให้มีความเหนื่อยตกค้างและนำไปสู่รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่ปกติ ส่งผลต่อการตัดสินใจมีลูกและการจัดสรรเวลาในการดูแลพวกเขา
ภาพ: Metamorworks / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/south-korean-government-proposes-flexible-overtime-rules-some-fear-workers-may-2023-01-19
- https://www.koreanlaborlaw.com/overtime-under-the-korean-labor-law/
- https://money.usnews.com/investing/news/articles/2023-01-18/as-south-korean-government-proposes-flexible-overtime-rules-some-fear-workers-may-suffer
