เรียกว่าเป็นตำนานบทใหม่ที่ช็อกชาวเกาหลีใต้และทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อประธานาธิบดียุนซอกยอล ผู้นำขวาจัด ประกาศกฎอัยการศึกในช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา และลงมติยกเลิกประกาศในทันที
เกาหลีใต้เผชิญปัญหาในหลายๆ มิติ โดยปีนี้เกาหลีใต้เข้าสู่ช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิตและโครงสร้างประชากรที่มีอัตราการเกิดต่ำ ผู้สูงอายุล้นเมือง ในอนาคตอันใกล้ เกาหลีใต้จะเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการดุลการค้า
นับเป็นเหตุการณ์ช็อกชาวเกาหลีใต้และทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อประธานาธิบดียุนซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึกในช่วงกลางดึกวันที่ 3 ธันวาคม แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา รัฐสภาเกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินและลงมติยกเลิกประกาศของประธานาธิบดี ทำให้สถานการณ์ดูเหมือนจะกลับคืนสู่ความปกติอีกครั้ง
เช้าวันนี้ (4 ธันวาคม) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประชุมฉุกเฉิน พร้อมแถลงการณ์ว่าจะเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้น และปรับใช้มาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามความจำเป็น และจะจัดสรร ‘เงินกู้พิเศษ’ เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดหากจำเป็น
ส่องเศรษฐกิจเกาหลีใต้
นักวิเคราะห์ตลาดต่างมองว่าความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดียุนซอกยอลเมื่อคืนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศ ‘มีความไม่แน่นอนสูง’ เนื่องจากกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกกำลังเผชิญกับภาษีศุลกากรจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดย Bloomberg Economics ประมาณการว่า การกำหนดภาษีศุลกากรเต็มรูปแบบกับจีน เกาหลีใต้ และคู่ค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ อาจทำให้การส่งออกของโซลไปยังสหรัฐฯ ลดลงมากถึง 55%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างประชากรไทย เมื่อคุณภาพชีวิตหาย ผู้สูงวัยล้น มีรายได้แค่ 6,975 บาท/เดือน ต่ำกว่าเส้นความยากจน
- ปีนี้อาจไม่ใช่ปีของจีน? เหตุใดหนุ่มสาวจีนยุคใหม่ลังเลที่จะแต่งงาน กลัวการมีลูก และอัตราการหย่าร้างปีนี้ก็พุ่งถึง 1.97 ล้านครั้ง
- อัตราการเกิดน้อย แต่คนโสดพุ่งสูงในรอบ 90 ปี ระเบิดเวลาลูกใหญ่ของญี่ปุ่นที่อาจเกิดขึ้นที่ไทย
The Korea Times รายงานว่า ขณะนี้เกาหลีใต้เข้าสู่ช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำ และมีโอกาสที่จะโตต่ำเพิ่มมากขึ้นในปีหน้าเนื่องจากสถาบันการเงินรายใหญ่ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ลงเหลือ 1%
แหล่งข่าวระบุว่า สถาบันการเงินระดับโลก 5 แห่ง ได้แก่ Barclays, Citigroup, JPMorgan, HSBC และ Nomura ต่างคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 2025 จะลดลง 1.7-1.9% หรืออาจจะโตสุดที่ 2% แนวโน้มดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก BOK ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1954 ที่เกาหลีใต้คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงต่ำกว่าระดับ 2% เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียเมื่อปี 1998 วิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกเมื่อปี 2009 และการระบาดของโควิดในปี 2020 แต่เศรษฐกิจของประเทศก็สามารถฟื้นตัวได้ แต่วันนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย
ควอนกูฮุน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านเอเชีย และกรรมการผู้จัดการของ Goldman Sachs กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกเริ่มอ่อนตัวลง ซึ่งอาจส่งผลให้การลงทุนลดลงด้วย อีกทั้ง BOK ยังแสดงความกังวล โดยยอมรับว่า “อัตราการเติบโตของการส่งออกของเกาหลีใต้มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นกับจีนและมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่เข้มข้นขึ้น”
‘จีน’ จากคู่ค้ากลายเป็นคู่แข่ง
จากอดีต ‘จีน’ เคยเป็นตลาดใหญ่ เป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ วันนี้ได้กลายมาเป็นคู่แข่งซึ่งต้องจับตาต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น เพราะเกาหลีใต้มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้
ในขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นเวลานานทำให้ตลาดในประเทศไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวได้ทันท่วงที ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจในประเทศลดลงอย่างมาก โดย BOK ระบุว่า เศรษฐกิจในอนาคตระยะเวลา 6 เดือน มีแนวโน้มลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี 4 เดือน
อัตราการเกิดต่ำและประชากรสูงอายุ
ราหุล อานันท์ หัวหน้าคณะผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศประจำเกาหลีใต้ มองว่า อีกปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตเศรษฐกิจเกาหลีใต้อย่างมากคือปัญหาโครงสร้างการผลิต และปัญหาโครงสร้างประชากร เพราะ ‘อัตราการเกิดต่ำและมีประชากรสูงอายุมาก’
ส่งผลให้เมื่อไม่นานมานี้ ยุนซอกยอลต้องออกมาประกาศ ‘ภาวะฉุกเฉินด้านประชากรศาสตร์’ เป็นวาระชาติ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราการเกิดของเกาหลีใต้ที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
โดยสำนักงานสถิติของเกาหลีใต้ประเมินสถานการณ์จำลองที่เลวร้ายที่สุดในการคาดการณ์จำนวนประชากรว่า ประชากรของเกาหลีใต้จะลดจำนวนลงมากกว่า 40% เหลือเพียง 30.1 ล้านคน ในอีก 50 ปีข้างหน้า และครึ่งหนึ่งของประชากรจะมีอายุมากกว่า 65 ปี
อีกประเด็นที่ท้าทายรัฐบาลยุนซอกยอล ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักจากท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQIA+ เพราะยุนซอกยอลมักเน้นการรักษาค่านิยมทางสังคมแบบอนุรักษนิยม
อีชางยอง ผู้ว่าการ BOK กล่าวว่า ปีถัดไปเกาหลีใต้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายด้าน เพราะเห็นได้ชัดว่าอัตราการเติบโตลดลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างทุกด้านโดยเร็ว
ภาพ: JUNG YEON-JE / Getty Images
อ้างอิง: