วันนี้ (31 พฤษภาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก เป็นภาพหนังสือที่ สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ มีหนังสือถึงตนเอง เพื่อกราบขอประทานโทษ จากกรณีที่ถูกศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โทษรอลงอาญา 2 ปี กรณีถูกฟ้องหมิ่นประมาท เพราะกล่าวหาว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส. และศาลแพ่งพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายอีก 2 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า เนื่องจากคดีนี้สังคมเรียกร้องให้ตนดำเนินคดีกับสนธิญา จึงขอความเห็นจากแฟนเพจ ถ้าให้อภัยให้กดปุ่มไลก์ และถ้าไม่อภัยให้กดปุ่มหัวใจหรือเลิฟ
สำหรับใจความของหนังสือฉบับดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
ตามที่ข้าพเจ้า สนธิญา สวัสดี ได้กระทำการนำเอาข้อความในระบบสื่อสารออนไลน์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตในหลายประเด็น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และที่มีการร้องเรียนในหน่วยงานต่างๆ หลายประการ เช่น ใน ป.ป.ช. และ กกต. ที่กำลังมีเรื่องตรวจสอบกันอยู่ในขณะนี้นั้น ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้ากระทำไปด้วยความสุจริตใจ เพื่อต้องการคำตอบที่ครบถ้วนแก่ตัวข้าพเจ้าเองและประชาชนที่ทวงถาม ที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความจริงที่ปรากฏ และทำให้ท่าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เสียหายด้วยประการหนึ่งประการใด หรือการที่ข้าพเจ้าได้รับเอกสารมาไม่ถูกต้องตามความจริง และถูกดำเนินการฟ้องร้องจากท่านอยู่ในขณะนี้
ข้าพเจ้ากราบขอความกรุณาเมตตา เพื่อให้โอกาสแก่ข้าพเจ้าในการกระทำที่ทำให้ท่านเสียหายและไม่ตรงกับความจริงในบางประการ ที่ข้าพเจ้ากราบเรียนว่า ข้าพเจ้าไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองท่านเป็นการส่วนตัวหรือในเรื่องประการหนึ่งประการใด และที่ข้าพเจ้ากระทำไปเป็นเรื่องของการต้องการทราบความจริง ซึ่งอาจทำให้ท่านเสียหาย
ข้าพเจ้ากราบขอโอกาสให้ข้าพเจ้าได้เข้ามากราบขอประทานโทษท่าน และแสดงเจตนาเพื่อที่จะถอนเรื่องทั้งหมดที่มีต่อท่านในทุกๆ หน่วยงานที่ข้าพเจ้าร้องเรียนต่อท่าน และกราบเรียนว่า ข้าพเจ้าจะไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้ท่านเดือดร้อนเสียหายจากการกระทำของข้าพเจ้าอีกต่อไปตลอดชีวิต และข้าพเจ้ายินดีรับใช้ท่านในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เพื่อประเทศและประชาชนสืบไป
อนึ่ง ข้าพเจ้าเคยมากราบเรียนเพื่อขอเข้าพบ กราบเรียนท่านมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยข้าพเจ้าเดินทางมาที่ทำการพรรคเสรีรวมไทยในช่วงปี 2565 และทำจดหมายส่งมาเป็นระบบ EMS ถึงท่าน เพื่อให้ท่านกรุณาเมตตาพิจารณา เพื่อท่านเมตตายกโทษและขออภัยท่านมาแล้ว และข้าพเจ้าได้ทำหนังสือเพื่อถอนเรื่องทุกๆ อย่างไปแล้วในหน่วยงาน กกต. ที่มีต่อท่านในปี 2565
“ครั้งนี้ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนมาเพื่อท่านโปรดเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้า เพื่อเข้ามากราบขอโทษและขออภัย และจะถอนเรื่องทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามีต่อท่านในทุกหน่วยงานทันที และกราบสัญญาว่า ข้าพเจ้าจะไม่ทำการใดๆ ให้ท่านระคายเคืองหรือล่วงเกินท่านในทุกๆ เรื่องต่อไปตลอดชีวิต และจะถือว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณและให้โอกาสในชีวิตกระผมใหม่
“เพื่อท่านโปรดพิจารณาเมตตาให้โอกาสแก่ข้าพเจ้าด้วยครับ”
อ้างอิง: