วานนี้ (6 กรกฎาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดอนเมือง ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ทางเลื่อนอัตโนมัติที่ท่าอากาศยานดอนเมืองยุบตัว จนมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
กฤตย์ กิตติรัตนา บุตรชายของผู้บาดเจ็บจากเหตุทางเลื่อน พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. อดิเรก ทองแกมแก้ว ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง และพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
โดยกฤตย์กล่าวว่า เป็นการลงบันทึกประจำวันเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการในฐานะผู้เสียหาย ซึ่งตามที่ตนเคยได้บอกไว้ว่า อยากทราบความจริงว่าเป็นอย่างไรมากกว่าว่าใครเป็นคนผิด โดยทางท่าอากาศยานดอนเมืองเองก็ได้มาเยี่ยมแม่ที่บาดเจ็บและมีการพูดคุย ดูแลเรื่องการรักษาและอาการบาดเจ็บ รวมถึงเรื่องเงินเยียวยา
ตนได้บอกกับผู้บริหารการท่าฯ ที่มาเยี่ยมแม่ว่า อย่างไรก็ขอให้ทุกท่านให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด ส่วนประเด็นเรื่องกล้องวงจรปิดที่ทางการท่าฯ ได้นำมาให้ตนดูนั้นพบว่ากล้องอยู่ในระยะไกล ทำให้รู้เพียงว่าแม่ตกลงไปแต่ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร
กฤตย์กล่าวต่อว่า ส่วนขณะเกิดเหตุที่มีข้อมูลว่าแม่หยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังเกิดเหตุมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนหยิบโทรศัพท์มือถือจากในกระเป๋าให้แม่ตนใช้ถ่ายรูปบันทึกภาพช่วงขณะเกิดเหตุไว้
ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือ จากวันเกิดเหตุตนได้โพสต์ขอหลักฐานจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาช่วยเป็นพยาน โดยพยานหลายท่านได้ยินเพียงเสียงแม่ร้องแต่ไม่เห็นว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
นอกจากนี้ทางครอบครัวตนก็ได้แต่งตั้งให้ วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสืบสวนกับหลายหน่วยงานในการประชุมหาข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ดังกล่าว
กฤตย์กล่าวว่า อาการแม่ของตอนนี้หลังจากที่เข้าห้อง ICU เป็นเวลา 4 วัน ก็สามารถออกมาและพยายามฝึกเดินด้วย Walker สามารถเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง และช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นได้