×

พ่อ-แม่ให้ปากคำตำรวจ ปมพลทหารเสียชีวิตในค่ายดังขอนแก่น ก่อนเกิดเหตุแชตกันปกติ ไม่เชื่อลูกตายเอง

โดย THE STANDARD TEAM
12.11.2020
  • LOADING...
พ่อ-แม่ให้ปากคำตำรวจ ปมพลทหารเสียชีวิตในค่ายดังขอนแก่น ก่อนเกิดเหตุแชตกันปกติ ไม่เชื่อลูกตายเอง

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ย่อยศิลา ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น สุรชัย เสนาสนิท อายุ 43 ปี และ อุลัย เตื่อยมา อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 1 ตำบลหนองน้ำใส อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ พลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี พลทหารประจำค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น (มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์) ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งแชตที่พูดคุยกันกับครอบครัวและเพื่อน รวมถึงใบรับรองการเสียชีวิต เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท. อนุชิต ผดุงชาติ หัวหน้า สภ.ย่อยศิลา ตามการนัดให้ปากคำของทางเจ้าหน้าที่

 

สุรชัยกล่าวว่า ครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียวคือรชฏ ซึ่งลูกชายได้สมัครใจเข้าเป็นทหารที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยได้เข้าฝึกเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อฝึกทหารครบเรียบร้อยก็มีการลาพัก จึงมารับลูกชายกลับไปพักที่บ้าน และกลับมาส่งลูกชายด้วยตัวเอง ต่อมาวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางค่ายได้โทรมาแจ้งว่าลูกชายได้ผูกคอตายในกระท่อมกลางน้ำที่อยู่ในเรือนจำของค่าย จึงรีบไปดูศพลูกชายที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เห็นเลือดที่หน้าผาก แขน และผ้าขาวม้าที่ผูกคอลูกชาย ซึ่งไม่ใช่ของลูก

 

“จากภาพที่เห็น ทำให้สงสัยการตายอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง เพื่อความเป็นธรรมกับครอบครัว ซึ่งลูกเป็นคนร่าเริง กลัวเจ็บ เป็นคนขี้กลัว ไม่กล้าทำตัวเอง และไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า และไม่คิดว่าลูกจะทำตัวเอง และฆ่าตัวเองตายตามที่ทางค่ายทหารแจ้งมา เพราะก่อนจะเสียชีวิต ลูกชายได้ฝึกเสร็จก็ลากลับบ้าน 10 กว่าวัน โดยผมมารับลูกชายที่ค่าย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม และเป็นคนมาส่งลูกเอง และในวันที่ 31 ตุลาคม ยังได้แชตกับลูกชายอยู่ ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงไม่มีความเป็นไปได้เลยว่า ลูกจะเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าถ้าลูกมีอะไรลูกต้องคุยกับพ่อแม่ โทรศัพท์ก็มีแชตกันบ่อยๆ แต่ก่อนตาย ลูกชายไม่มีอะไรบ่งบอกที่เป็นลางสังหรณ์ว่าลูกจะตายหรือลาตาย จนกระทั่งค่ายแจ้งมาว่าลูกชายเสียชีวิต และนำศพไปส่งผ่าพิสูจน์ โดยที่ครอบครัวยังคงไม่ได้ยินยอมหรือดำเนินการใดๆ” สุรชัยกล่าว

 

สุรชัยกล่าวต่ออีกว่า ถ้าลูกชายไม่อยากเป็นทหาร ลูกคงไม่สมัครใจเข้ามาเป็นทหาร แต่นี่ลูกชายสมัครเข้ามาเป็นทหารเอง จึงไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย

 

ส่วนกรณีที่ลูกชายแชตกับเพื่อนรุ่นพี่คนสุดท้ายนั้น สุรชัยกล่าวว่า ขณะนี้ได้พูดคุยกับเพื่อนคนดังกล่าวแล้ว ทราบว่าในคืนก่อนที่จะพบศพลูกชายนั้น เพื่อนคนดังกล่าวบอกว่าในคืนนั้นเขามีอาการปวดท้อง จึงเดินเข้าห้องน้ำ มองเห็นลูกชายยืนอยู่ที่ศาลาจุดเกิดเหตุ เมื่อเข้าห้องน้ำเรียบร้อยจึงเดินไปดูน้อง ก็พบว่าลูกชายของตนผูกคอตายแล้ว จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ

 

“ในส่วนของการชันสูตรพลิกศพ และการตรวจพิสูจน์วัตถุต่างๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น คงต้องรอผลการพิสูจน์ต่างๆ โดยครอบครัวเชื่อมั่นในตัวของแพทย์สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จึงได้เผาศพเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ครอบครัวรอเพียงผลพิสูจน์ ทั้งอาวุธมีด รอยเลือด และดีเอ็นเอในผ้าขาวม้า รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และเชื่อว่าจะเกิดความยุติธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว” สุรชัยกล่าว

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising