วันก่อนหน้าฟีดโซเชียลมีเดียร้อนแรงด้วยเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ของมนุษย์เงินเดือน เมื่อมีกระแสข่าวว่าสำนักงานประกันสังคมเตรียมคลอดกฎหมายฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ซึ่งจะทำให้คนที่ทำงานแล้วมีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 1,000 บาท
THE STANDARD ต่อสายตรงไปที่ นายแพทย์สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เพื่อถามให้เคลียร์ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องจริง และสำนักงานได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคตั้งแต่ปลายปี 2559 รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ไม่เพียงเท่านั้น ยังเปิดโอกาสให้พี่น้องแรงงานภาคประชาชนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ผ่านทางเว็บไซต์ด้วย ซึ่งผลการสำรวจออกมาว่า 80% เห็นด้วยให้มีการปรับเพิ่มฐานเงินเดือนของผู้ประกันตนที่จะนำมาคำนวณเงินสมทบใหม่
นายแพทย์สุรเดชเปิดเผยอีกว่า จากเดิมที่เคยคิดคำนวณเงินสมทบจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท จะเปลี่ยนเป็น 20,000 บาท โดยจะแบ่งการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนดังนี้
– ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 16,000 บาท ใช้ฐานเดิม เก็บเงินเข้ากองทุน 750 บาท
– ผู้ที่มีเงินเดือน 16,000 แต่ไม่ถึง 20,000 บาท เก็บเงินสมทบเข้ากองทุน 800 บาท
– ผู้ที่มีเงินเดือน 20,000 ขึ้นไป เก็บเงินสมทบเข้ากองทุน 1,000 บาท
ขณะนี้การสำรวจความคิดเห็นได้ผ่านคณะกรรมการประกันสังคมแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงแรงงานเพื่อออกประกาศเป็นกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 เดือนนับจากนี้ก็จะสามารถประกาศใช้บังคับอัตราเก็บเงินสมทบใหม่ได้ ซึ่งก็คือช่วงต้นปี 2561 นั่นเอง
คำถามต่อมาคือเหตุใดต้องมีการเก็บเงินสมทบเพิ่มเติม นายแพทย์สุรเดชตอบคำถามนี้ว่า เพื่อต้องการให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องออกจากงาน ปัจจุบันประกันสังคมจะจ่ายให้จากการคำนวณที่ฐานเงินเดือน 15,000 บาท โดยจะได้รับเพียงครึ่งหนึ่งของฐานนี้ คือได้เพียง 7,500 บาท หากปรับอัตราใหม่ คนที่ฐานเงินเดือน 20,000 บาทก็จะได้รับ 10,000 บาท คือได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น
และจากการสำรวจก็พบว่า ปัจจุบันแรงงานที่อยู่ในกลไกตลาดมีอัตราเฉลี่ยของรายได้ที่ 20,000 บาทถึง 32% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากฐานเดิมเมื่อปี 2534 ทำให้เป็นผลดีที่จะมีการปรับปรุงอัตราเงินสมทบใหม่
รวมทั้งการเพิ่มฐานเงินเดือนจะมีผลให้ต้องจ่ายบำนาญมากขึ้น แต่กองทุนจะมีแผนลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเพียงพอกับค่าใช้จ่าย ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมมีเงิน 1.6 ล้านล้านบาท มีเงินเข้ากองทุนปีละ 180,000 ล้านบาท มีรายจ่ายที่จ่ายให้ผู้ประกันตนปีละ 80,000 ล้านบาท แต่ต่อไปรายจ่ายจะสูงขึ้น โดยเฉพาะรายจ่ายบำนาญที่จะมีจำนวนผู้รับมากขึ้นตามค่าเฉลี่ยอายุของประชากรที่สูงขึ้น
เลขาธิการประกันสังคมยืนยันอีกว่าไม่ใช่การเพิ่มภาระให้ประชาชน แต่เป็นไปตามกลไก และจากการสำรวจความคิดเห็น การลงทุนของกองทุนประกันสังคมมีเงินตอบแทนกลับมาตลอดทุกปี และใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงอย่างรอบคอบมาโดยตลอด