“ความรักสามารถพาให้เราทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำได้”
คำพูดคุ้นหูนี้ไม่รู้ใครเป็นคนนิยาม แต่เรากลับรู้สึกว่ามันน้ำเน่ามาก เพราะเราเองก็ชอบตั้งคำถามและสงสัยว่ามันจริงหรือที่เพียงแค่เรารักใครสักคนแล้วมันจะสามารถเปลี่ยนโลกไปได้ หรือเปลี่ยนตัวเราไปได้?
แต่เมื่อมีโอกาสเดินทางไกลฝ่าลมหนาวที่ความเย็น 3 องศาเพื่อมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของคาแรกเตอร์การ์ตูนที่ครองใจคนทั้งโลกอย่าง ‘Snoopy Museum’ ในย่านรปปงหงิ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็เหมือนกับว่าเราได้พบคำตอบของคำถามข้างต้น เพราะที่นี่เพิ่งจะมีนิทรรศการชุดใหม่ล่าสุดที่เริ่มจัดแสดงไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในชื่อ ‘Love is Wonderful’ บอกเล่าบรรยากาศของเรื่องราวความรักผ่านการ์ตูนช่องสุดคลาสสิก โดยหยิบยกสถานการณ์ของตัวละครในการ์ตูนเรื่อง ‘Peanuts’ มามัดรวมกันตามแต่ละคาแรกเตอร์ตัวละคร ทั้งสุข เศร้า เคล้ารอยน้ำตา
เพื่อนเท่านั้น…แค่เพื่อนเท่านั้น
ภายในนิทรรศการ ‘Love is Wonderful’ ดำเนินเรื่องเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจในการวาดการ์ตูนของเจ้าของลายเส้น Snoopy และผองเพื่อนนาม Charles M. Schulz หรือคุณ Sparky อันเป็นชื่อเล่นของเขา เขาแอบหลงรักเพื่อนร่วมงานสาวขณะทำงานใน Art Instruction Schools ในรัฐ Minneapolis สหรัฐอเมริกา หญิงสาวผู้มีผมสีแดงโดดเด่นที่ชื่อ Donna นับวันที่เจอหน้ากัน จากคนร่วมงานกลายเป็นเพื่อน และพัฒนาจนถึงการ ‘ตกหลุมรัก’
แต่ความรักที่ว่าก็ดูจะไม่เข้าท่าเข้าที มีเพียงแค่การโดดงานไปจิบมาร์ตินีครึ่งราคาที่โรงหนังแถวบ้าน ตัวหญิงสาวก็ไม่ชัดเจน ตัว Sparky เองก็ไม่กล้าบอกรักไปตรงๆ เขาจึงทำได้แค่ร่างภาพการ์ตูนขึ้นมาเป็นภาพเขากำลังไปที่หน้าบ้านหญิงสาวเพื่อมอบดอกไม้และบอกความในใจ
แต่มันก็เป็นเพียงภาพวาดไม่ใช่ความจริง เพราะสุดท้าย Donna ก็มอบพื้นที่ของเพื่อนให้กับ Sparky แทน อันเป็นที่มาของตัวละครของ Charlie Brown ผู้เต็มไปด้วยความประหม่าในเรื่องความรัก นั่นแหละ…เพียงแค่เริ่มต้นนิทรรศการก็น้ำตาซึมแล้ว
ภาพวาดร่างแรกที่แทนตัว Schulz และ Donna กับรักที่ไม่กล้าบอก
(ซ้าย) Schulz เจ้าของลายเส้นการ์ตูน Peanuts และ Donna รักแห้วๆ ของเขา
รักแห้วๆ ของหญิงชาย และหมา
นอกจากตัวละครของ Charlie Brown แล้ว ในนิทรรศการยังแบ่งโซนจัดวางการ์ตูนช่องตามคาแรกเตอร์ของตัวละครไว้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งต่างก็นำการ์ตูนที่ Schulz เขียนจากแง่มุมต่างๆ ของความรักมาจัดเรียง ทั้งเรื่องตลก เรื่องความสุข เรื่องเศร้าๆ หรือแม้แต่เรื่องตบตีแย่งชิงผู้ชายของเหล่าตัวละครผู้หญิง แยกสีสันให้แตกต่างกันอย่างน่าสนุก ทั้งเจ้าหนูหัวยุ่งไม่ชอบอาบน้ำ Linus, Sally น้องสาวแก่แดดของชาร์ลี, Lucy สาวขี้โมโหประหนึ่งไบโพลาร์, หนุ่มนักเปียโนสุขุมอย่าง Schroeder และขาดไม่ได้กับเจ้าหมา Snoopy ที่ใครจะรู้ว่ามันเคยถูกเพื่อนเจ้าบ่าวฉกตัวเจ้าสาวไปจากงานแต่ง และเพื่อนเจ้าบ่าวคนนั้นคือพี่ชายของตัวเอง! ดราม่าซะไม่มี!
ห้องสุดท้ายแสดงแอนิเมชันขนาดสั้นที่สรุปเรื่องราวความรักของตัวละครทั้งหมดไว้
นิทรรศการ ‘Love is Wonderful’ จัดแสดงทุกวันตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2561 บัตรเข้าชมราคา 1,800 เยน หรือประมาณ 528 บาท โดยสามารถเลือกรอบที่เข้าชมได้ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.snoopymuseum.tokyo/en/
- ทางที่ดีที่สุดในการเข้าชมคือ ซื้อบัตร Snoopy Museum ล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งหาได้อย่างง่ายดายและสะดวก เพียงเข้าร้าน Lawson ตามข้างทาง สามารถแจ้งกับพนักงานของร้านว่าเราต้องการซื้อตั๋ว เลือกรอบ และปรินต์ได้เลย ไม่ต้องไปเข้าคิวให้เหนื่อย
- หน้าพิพิธภัณฑ์จะมีฟู้ดทรักจาก Peanuts Cafe ให้บริการอยู่ เราอยากให้คุณสั่งฮอตด็อกร้อนๆ และน้ำมะนาวสักแก้วมาดื่มระหว่างรอ อร่อยสดชื่น