นอกจากข้าว ก๋วยเตี๋ยว หรือบะหมี่จะเป็นอีกทางเลือกในวิถีการกินของคนเอเชียเช่นเดียวกับสังคมไทยที่ผูกพันกับอาหารจานเส้นนี้อย่างแยกไม่ออก เราบริโภคเส้นไปพร้อมกับซึมซับรสประจำชาติของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือแม้กระทั่งไทยเองก็ตาม ในย่านทองหล่อ-เอกมัย ร้านเส้นแบบญี่ปุ่นหรือราเมนมีอยู่แทบทุกหัวถนน ว่าแต่เมนูเส้นแบบเกาหลีล่ะ คุณเคยลองชิมแล้วหรือยัง
บรรยากาศภายในร้านกับป้ายนีออนเชื้อเชิญ
The Vibe
ท่ามกลางตึกแถวเบียดเสียดของสุขุมวิท มีคูหาเล็กๆ แปะป้ายไฟนีออนสีชมพูดูเด่นมาแต่ไกล ที่นี่คือ SK Noodle Bar ร้านก๋วยเตี๋ยวโมเดิร์นที่ตัวร้านออกแบบให้สอดคล้องกับความเป็นตึกแถว โต๊ะบาร์ยาวหันหน้าเข้าครัวเปิดคือพื้นที่หลัก และไฮไลต์ประจำร้านบะหมี่เกาหลีแห่งนี้ หากมาถูกจังหวะคุณจะได้เห็นเชฟกำลังนวดแป้งเพื่อเตรียมทำบะหมี่เส้นสดพร้อมกับกดปุ่มเดินเครื่องทำบะหมี่ ส่วนบรรยากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยโปสเตอร์ที่ต่างเกี่ยวโยงกับเส้นทั้งนั้น
เชฟยีสต์บอกเล่าเรื่องราวของบะหมี่เกาหลีในแบบของเขา
The Concept
ร้านบะหมี่เส้นโฮมเมดแห่งนี้เกิดขึ้นโดย เอสเค เชว (SK Choi) เชฟหนุ่มชาวเกาหลีหน้าหยกผู้เคยร่วมงานกับร้านอาหารชื่อดังระดับโลกอย่าง Zuma ที่มีสาขาทั่วโลก ซึ่งเชฟเอสเคเคยอยู่สาขาลอนดอนมาก่อน จากนั้นจึงย้ายมาอยู่ในไทย ทั้งยังเคยประจำอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น Namu ที่โรงแรม W Koh Samui และล่าสุดผุดไอเดียเปิดร้านอาหารร่วมกับหุ้นส่วนอีกสองท่านคือ เจสัน ปาร์ค (Jason Park) ผู้เชี่ยวชาญด้านบะหมี่ อาหารจีน และอาหารเกาหลี และเชฟยีสต์-ฉัตรวุฒิ ศิลาวัฒน์สกุล อดีตซูส์เชฟที่ร้าน Zuma กรุงเทพฯ
แนะให้นั่งด้านหน้าเพื่อชมการทำเส้นสดๆ น่าชม
ทั้งสามมีความตั้งใจนำเสนอรสชาติเกาหลีที่ผ่านการดัดแปลงจนได้เป็นสูตรเฉพาะที่หากินได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น แถมยังทำบะหมี่เส้นสดด้วยตัวเองเพื่อให้ผู้ชื่นชอบเมนูเส้นได้กินในแบบที่สดใหม่ที่สุด ผสมผสานกับวัตถุดิบในประเทศของไทยที่มีคุณภาพเยี่ยมไม่แพ้เกาหลี ส่วนกิมจิทางร้านก็ทำขึ้นเอง โดยทำเป็นแบบกิมจิขาว ไม่ใส่พริกป่น
จุดเด่นของบะหมี่เกาหลีที่ทำให้แตกต่างจากบะหมี่แบบจีนหรือราเมนญี่ปุ่นก็คือความหนึบของเส้นที่มีมากกว่า ส่วนบะหมี่จีนกับราเมนญี่ปุ่นจะต่างกันที่ระยะเวลาในการลวกเส้น ซึ่งบะหมี่จีนมักจะใช้เวลาลวกนานกว่า ส่วนบะหมี่ฮ่องกงนั้นถือเป็นข้อยกเว้น เพราะเป็นความหนึบเหนียวสไตล์อัลเดนเต้ (al-dente)
Bibimmyeon หรือบะหมี่เย็น
The Dishes
เชฟเอสเคแนะนำเมนูแรก Bibimmyeon (160 บาท) หรือบะหมี่เย็น เส้นทำสดใหม่ นำไปคลุกเคล้ากับซอสแดงที่เบสด้วยโคชูจังหรือซอสพริกเกาหลี จากนั้นผสมน้ำส้มสายชูหมักกับสไปรท์ (ใช่แล้ว น้ำอัดลมนั่นแหละ!) จากนั้นโรยหน้าด้วยถั่วบดกับไข่ต้ม ชามนี้เน้นให้ความสดชื่นเป็นหลัก เหมาะสำหรับหน้าร้อน และที่สำคัญคือไม่มีเนื้อสัตว์ จึงเหมาะกับคนกินมังสวิรัติด้วยนะ
บะหมี่ซอสถั่วดำ
Jajangmyeon (180 บาท) บะหมี่ซอสถั่วดำชามนี้ แม้จะเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในเกาหลีจนหลายคนคิดว่าเป็นอาหารประจำชาติ แต่แท้จริงแล้วเจ้าเมนูเส้นกับซอสดำๆ ชามนี้กลับมีต้นกำเนิดที่ประเทศจีนโดยกลุ่มชาวจีนที่อพยพเข้ามาทำงานและตั้งรกรากในเกาหลีใต้ ด้วยเหตุนี้จาจังมยอนจึงเป็นอาหารลูกผสมระหว่างจีนกับเกาหลี และนอกจากถั่วดำที่เป็นส่วนผสมหลักของซอสก็ยังมีหมู เห็ด และหอมใหญ่อีกด้วย
เชฟเจสันกำลังทำ SK Signature Noodle
และสำหรับเมนูซิกเนเจอร์ที่เชฟชาวเกาหลี (อดีตนักเพาะกาย) คนนี้ภูมิใจเสนอคือ SK Signature Noodle (200 บาท) บะหมี่ซีฟู้ดน้ำใส แต่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกสด ชามนี้จัดเต็มให้ทั้งกุ้ง ปลาหมึก หอยลาย และหอยแมลงภู่ โดยนำอาหารทะเลทั้งหมดไปผัดในน้ำสต็อกไก่เพื่อความหวานธรรมชาติของอาหารทะเลและกลิ่นยวนใจ
(บน) เชฟเอสเคกับเมนู Pork & Kimchi Sliders
(ล่าง) ซี่โครงหมูย่างสไตล์เกาหลีทาซอสสูตรลับ
ทางร้านยังมีเมนูที่ไม่ใช่บะหมี่ แต่เราก็อยากแนะนำให้ลองเช่นกัน Pork & Kimchi Sliders (150 บาท) มินิเบอร์เกอร์ไส้หมูอบกับกิมจิขาว เสิร์ฟพร้อมซอสกิมจิครีม หรือจะเป็น Korean Style Baby Pork Ribs (Half 180 บาท / Full 280 บาท) ซี่โครงหมูย่างสไตล์เกาหลีทาซอสสูตรลับที่เพิ่มรสสัมผัสด้วยถั่วลิสงและต้นหอมซอย รับประกันความนุ่มล่อนของเนื้อซี่โครง
SK Noodle Bar [ปิดกิจการแล้ว]
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30-20.30 น.
Address: 1221/3 ถนนสุขุมวิท (ก่อนถึงเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย) วัฒนา กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้น 150 บาท
Contact: 09 5564 1642
Page: www.facebook.com/sknoodlebar
Maps: