×

ทนายตั้มร้อง ผบช.น. สอบอดีตตำรวจยศใหญ่แทรกแซงคดีปริญญ์ หลังพบผู้เสียหายไม่ให้ความร่วมมือทางคดี

22.04.2022
  • LOADING...
ทนายตั้ม

วันนี้ (22 เมษายน) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ส่งหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ช่วยตรวจสอบกรณีที่นายตำรวจยศ พล.ต.ต. ที่อ้างว่าเป็นญาติของเหยื่ออายุ 18 ปี พยายามเข้ามาแทรกแซงคดี ลักษณะที่ไม่ให้ผู้เสียหายยินยอมให้ความร่วมมือกับตนเองในฐานะทนายความ 

 

ษิทราเปิดเผยว่า ต้องการให้ทางตำรวจตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของแม่ผู้เสียหายในช่วงวันเกิดเหตุ 11 เมษายน จนถึงปัจจุบัน ว่ามีการต่อสายพูดคุยกับนายตำรวจยศใหญ่รายนี้โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ใด และตรวจสอบการใช้ข้อมูลโทรศัพท์มือถือของนายตำรวจด้วยว่ามีการติดต่อกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือไม่ เพราะอาจเป็นการแทรกแซงคดี จากข้อมูลที่ตนเองได้รับมาทราบว่านายตำรวจคนนี้เป็นตำรวจนอกราชการที่เกษียณแล้ว อดีตเคยเป็นผู้บังคับการจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก

 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีข้อสงสัยว่านายตำรวจรายนี้มีส่วนเข้ามาแทรกแซงคดี เกิดจากช่วงวันที่ 13 เมษายน ได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายว่า หลังเกิดเหตุได้ติดต่อพูดคุยกับนายตำรวจยศใหญ่รายนี้ตลอดเวลา ซึ่งช่วงหลังที่ตนเองแนะนำเรื่องการดำเนินคดีมักไม่ได้ความร่วมมือ โดยอ้างว่าขอปรึกษานายตำรวจรายนี้ และท้ายที่สุดก็ไม่ทำตามที่แนะนำ เช่น กรณีการให้ยื่นคัดค้านการประกันตัวปริญญ์ครั้งที่ผ่านมา

 

ส่วนความสัมพันธ์ของผู้เสียหายกับนายตำรวจรายนี้มีการกล่าวอ้างว่าเป็นลุง แต่ตนเองคาดว่าเป็นแค่การนับถือกันไม่ใช่ญาติแท้ๆ วันนี้จึงเข้ามายืนหนังสือ เนื่องจากกังวลว่าจะมีการแทรกแซงคดี แม้ว่าตอนนี้ทางผู้เสียหายจะยังไม่กลับคำให้การหรือถอนแจ้งความ แต่หากไปถึงชั้นอัยการอาจมีการขอให้สอบเพิ่มเติมจนนำไปสู่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี ยืนยันว่าผู้เสียหาย 15 รายที่เข้าแจ้งความตำรวจก่อนหน้านี้ ยังเป็นพยานที่มีน้ำหนัก แต่ตนเองกังวลว่าผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาหลังจากนี้อาจมีการแฝงตัวเพื่อโยงเกมการเมือง จึงต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนเข้าช่วยเหลือ

 

ษิทรายังยืนยันว่า ส่วนตัวไม่กังวลเรื่องการถูกฟ้องกลับ เนื่องจากที่ผ่านมาในการให้ข่าวไม่ได้มีการพูดพาดพิงถึงชื่อหรือพรรคการเมืองใด ส่วนอนาคตหากมีการเตือนเรื่องช่วยคดีและขอให้หยุดช่วย ทนายษิทราบอกว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง รวมถึงมองว่าเป็นภัยสังคมที่ตนเองต้องเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อป้องกันการมีเหยื่อเพิ่มมากขึ้น

 

สำหรับผู้เสียหายรายใหม่ที่เคยมีข่าวถูกล่วงละเมิดที่ประเทศอังกฤษ ในขณะนี้ได้เข้ามาเป็นผู้เสียหายเพิ่มเติมรายที่ 16 ซึ่งตนเองได้ประสานคนที่สามารถช่วยดำเนินคดีให้เหยื่อรายนี้ที่ประเทศอังกฤษแล้ว ซึ่งหากสามารถรวบรวมหลักฐานในวันเกิดเหตุได้ครบ เช่น เสื้อผ้า และกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้เสียหายดีขึ้นมากแล้ว

 

“สำหรับผู้เสียหายรายที่ 16 นี้ จากข้อมูลพบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะที่ผู้เสียหายอายุ 25 ปี และกำลังศึกษาต่ออยู่ชั้นปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ถูกล่อลวงไปที่อพาร์ตเมนต์ของผู้ก่อเหตุ ก่อนข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้ดำเนินคดีที่ประเทศอังกฤษทันที ซึ่งขณะนี้คดียังไม่ถูกตัดสิน หลังจากเกิดเหตุมีหญิงไทยที่ทำงานในสถานทูตติดต่อไปยังผู้เสียหายขอให้อย่าดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ทำให้สภาพจิตใจของผู้เสียหายย่ำแย่” ษิทรากล่าว 

 

ส่วนการดำเนินคดีของตำรวจ ษิทรากล่าวว่า ตนเองไม่มีความกังวล เพราะพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน หากหลังจากนี้ผู้เสียหายจะแถลงต่อศาลไม่เอาโทษ ตนเองก็ไม่กังวล เนื่องจากคดีนี้เป็นอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising