×

จับตา ‘Silicon Valley Bank’ ล้ม! ระเบิดเวลาลูกใหม่ในตลาดคริปโต และเหตุการณ์ Lehman Brothers แห่งโลกสตาร์ทอัพ

11.03.2023
  • LOADING...

SVB Financial Group บริษัทแม่ของ Silicon Valley Bank กลายเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดที่เลิกกิจการนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 มีนาคม) การล่มสลายอย่างกะทันหันสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงกว้าง และอาจเป็นเหตุการณ์ Lehman Brothers แห่งโลกสตาร์ทอัพเลยทีเดียว

 

Silicon Valley Bank ยักษ์ใหญ่แห่งโลกสตาร์ทอัพ

Silicon Valley Bank หรือ SVB ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เมื่อปีที่แล้วบริษัทถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทปล่อยกู้ที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 16 ในสหรัฐอเมริกา โดยมีสินทรัพย์ประมาณ 2.09 แสนล้านดอลลาร์ และได้จัดหาเงินทุนให้กับบริษัทสตาร์ทอัพมากมาย เช่น Shopify, Pinterest, Fitbit, Roku และสตาร์ทอัพอีกหลายพันราย

 

นอกจากนี้ SVB ยังมีความสัมพันธ์กับทางธุรกิจกับบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีหลายแห่ง เช่น Castle Island, Dragonfly, Pantera แม้แต่ BlockFi ที่ล้มละลายไปก่อนหน้านี้ก็ฝากเงินกว่า 227 ล้านดอลลาร์ไว้ที่ SVB ขณะที่ Circle บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง USDC เผยว่ามีเงินทุนสำรองประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ที่ยังคงอยู่กับ SVB ทำให้ราคาเหรียญ USDC หลุดการตรึงมูลค่าจากความกังวลเรื่องการปิดกิจการ

 

การล้มครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008

ผลพวงจากการล้มของ SVB กำลังจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อบริษัทต่างๆ เนื่องจากเป็นบริษัทปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในวงการสตาร์ทอัพ ปัจจุบันสตาร์ทอัพมากกว่า 50% ล้วนมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ SVB ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม

 

การล่มสลายของ SVB แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในธุรกิจจากต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งขึ้นเร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง แต่การเพิ่มดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วทำให้เกิดปัญหาอย่างไม่คาดคิดต่อบริษัทมากมาย

 

เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา SVB เสนอแผนระดมทุนจากนักลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปพยุงบริษัทที่ขาดทุนอย่างหนักจากตราสารหนี้ ราคาหุ้น SVB ดิ่งลงทันที 60% ในวันที่ 9 มีนาคม และการซื้อขายหุ้นต้องหยุดเมื่อ 10 มีนาคม 

 

บริษัทร่วมทุนและนักลงทุนเริ่มหวาดผวา โดยเกิดการแห่ถอนเงินออกจาก SVB รวมกันจำนวนมากถึง 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ จนเกิดเหตุการณ์แห่ถอนเงิน (Bank Run) ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 มีนาคม) SVB ถูกสั่งให้ปิดกิจการ และทาง Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการประกันเงินฝาก จะเข้ามาดูแลสินทรัพย์ที่เหลือเพื่อปกป้องผู้ฝากเงินที่มีการประกัน 

 

เหตุการณ์นี้ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตได้ เนื่องจากบริษัทคริปโตหลายแห่งมีเงินทุนสำรองอยู่ใน SVB โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลุดตรึงมูลค่า (Depeg) ของเหรียญ USDC อาจสร้างความเชื่อมั่นเชิงลบและผลกระทบที่ลุกลามต่อไปได้ไม่น้อย 

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising