บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยจะเสนอขายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร คาดเสนอขายได้ภายในเดือนตุลาคม 2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศอัตราดอกเบี้ย ด้านผู้บริหารมั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน ด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล ได้ยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี โดยจะประกาศผลตอบแทนที่แน่นอนในภายหลัง
สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB ซึ่งเป็นกลุ่ม ‘ระดับลงทุน’ (Investment Grade) อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB+ แนวโน้ม ‘คงที่’ (Stable) ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 และจะเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า มั่นใจว่าหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโอกาสของผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่จะได้เข้าลงทุนในหุ้นกู้ SHR ที่ธุรกิจโรงแรมมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวโลก สะท้อนได้จากผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเติบโต 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น 4,821 ล้านบาท
โดยบริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) 1,112 ล้านบาท ที่เติบโตสูงถึง 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำศักยภาพของธุรกิจโรงแรมของ SHR ได้เป็นอย่างดี
“การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน ขณะที่กลยุทธ์ในการผลักดันธุรกิจของ SHR ทำให้เราดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเรามีเป้าหมายขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาท และวางเป้าหมายอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอย่างต่ำที่ 70% ควบคู่กับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่การออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯ SHR ในครั้งนี้ จะสนับสนุนให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHR กล่าว
ด้าน ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สิงห์ เอสเตท หรือ S เปิดเผยว่า สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีจะเติบโตจากอุปสงค์การเดินทางที่จะฟื้นตัวอีกครั้ง และการขยายตัวของธุรกิจการบินที่มีสัญญาณการเปิดเส้นทางบินใหม่ในครึ่งปีหลัง
SHR ยังคงมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ในการบริหารรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ร่วมกับการพัฒนาและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงคุณภาพห้องพัก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และผลตอบแทนจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ที่เพิ่มขึ้นในช่วง High Season ทั้งนี้ Outrigger Fiji Beach Resort ของ SHR จะทำการปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักให้เสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่า ADR จะเพิ่มขึ้น 20% ในขณะเดียวกัน SAii Phi Phi Island Village และ SAii Laguna Phuket ก็คาดว่าจะปรับปรุงห้องพักเฟสแรกแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนที่ฤดู High Season จะเริ่มขึ้น
“เรายังคงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นสำหรับแขกของเรา” เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ กล่าวเสริม
ด้านสถาบันการเงินในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SHR กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ของธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ลงทุนที่พลาดการจองซื้อหุ้นกู้ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนทำให้ความต้องการจองซื้อมีมากกว่าจำนวนเสนอขาย โดยผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้ รวมถึงสอบถามเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ