วันนี้ (3 พฤษภาคม) อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี แถลงความพร้อมในการทำงานต่อหลังเลือกตั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยุติการเดินสายหาเสียงตามเวทีปราศรัยต่างจังหวัดชั่วคราว เนื่องจากอายุครรภ์ใกล้ถึงกำหนดคลอด
ก่อนเริ่มให้สัมภาษณ์ ครอบครัวชินวัตร นำโดย คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พร้อมด้วย พินทองทา ชินวัตร ได้พา ‘พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์’ ลูกของแพทองธาร ซึ่งนับเป็นหลานคนที่ 7 ของ ทักษิณ ชินวัตร และ พจมาน มาพบพี่น้องสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก
แพทองธารเปิดเผยว่า ในวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงกลางคืน ได้มีการตรวจพบว่าหัวใจของลูกในครรภ์กราฟลง จึงมีการรอดู และดูไปจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงช่วงดึก แล้วจึงตัดสินใจผ่าเพื่อความปลอดภัยของลูก และเป็นการคลอดโดยไม่ได้ดูฤกษ์คลอด อย่างไรก็ตาม การคลอดเป็นไปด้วยความปลอดภัยและแข็งแรงทุกประการ
สำหรับชื่อ ธาษิณ-พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ แพทองธารระบุว่า เป็นชื่อที่ตั้งเอง จึงเป็นความหมายที่นิยามด้วยตนเอง โดย ‘จ์’ มาจาก ‘พจมาน’ หรือ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นยาย และ ‘ธาษิณ’ มาจาก ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นตา
จากนั้นผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามถึงความพร้อมของร่างกายในการทำงานต่อไป แพทองธารตอบว่า อาจจะเป็นช่วงสัปดาห์แรกที่อาจต้องพัก แต่ลูกชายจะเป็นพลังสำคัญให้ทำงานต่อไป
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามต่อว่า ทักษิณ ชินวัตร ทวีตเรื่องการกลับบ้าน แพทองธารตอบว่า ทักษิณ ชินวัตร ทวีตด้วยความตื่นเต้นและตื้นตันที่ได้ต้อนรับหลานคนที่ 7
“คุณตาคงอยากเจอหลานในช่วงเวลาที่หลานชายลืมตาดูโลกเลย แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยการพูดคำว่ากลับบ้านเป็นการพูดอยู่หลายครั้ง แน่นอนว่าการพูดของคุณทักษิณอาจส่งผลต่อการเมือง แต่ไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดีๆ แต่ไม่ได้คุยเรื่องช่วงเวลากลับบ้าน วันไหน เมื่อไร” แพทองธารกล่าว
“การกลับบ้านของคุณทักษิณไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ขอความเข้าใจพื้นฐานในการเป็นมนุษย์ว่า คนคนหนึ่งหวังที่จะกลับบ้าน การมีความหวังเช่นนี้ทำให้คนคนหนึ่งยังมีความหวัง มีสุขภาพแข็งแรง และทำให้คนที่เชียร์คุณพ่อมีความหวังไปด้วย ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องดี”
แพทองธารยังได้กล่าวถึงความพร้อมในกลับมาเดินสายหาเสียงว่า ตนได้แจ้งกับทีมไปแล้วว่า ‘พร้อม’ ให้วางแผนมาเลย และยินดีจะกลับไปเวทีการดีเบตเพื่อแสดงความพร้อมและแสดงวิสัยทัศน์
ส่วนกรณีที่คะแนนนิยมของผู้นำพรรคก้าวไกลคะแนนขึ้นมาก แพทองธารระบุว่า โพลบางสำนักเชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ ประชาชนรอไม่ได้ ต้องไม่กลับไปเหมือนปี 2562 อีกที่เลือกตั้งแล้วต้องลุ้นว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ แต่ครั้งนี้ต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนรัฐบาลได้จริง
ส่วนเรื่องความไม่ชัดเจนเรื่องจะจับหรือไม่จับมือกับใคร แพทองธารย้ำว่า อาจเป็นการปั่นข่าวจากผู้สนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่ง จนทำให้ทุกคนคิดว่าตนเองไม่ชัดเจน เพราะตนเองปราศรัยทุกเวทีเรื่องปิดสวิตช์ ส.ว. พรรคเพื่อไทยหลายคนพูดว่าจะไม่จับ และตนเองเคยพูดว่าจะไม่จับมือ และชี้แจงเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล