Donald Tang ประธานบริหาร SHEIN ออกมาให้ความมั่นใจว่าแบรนด์เสื้อผ้าราคาประหยัดของบริษัทจะยังคงรักษาระดับราคาที่จับต้องได้ แม้ Donald Trump จะเสนอขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้มาตรการ ‘เท่าเทียมกัน’ กับทุกประเทศ
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ที่งาน World Economic Forum ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Tang เน้นย้ำว่า “ราคาที่จับต้องได้เป็นจุดแข็งสำคัญ มันคือแพ็กเกจรวมที่ให้ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”
Trump เคยประกาศนโยบายหาเสียงว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 60% แต่ล่าสุดปรับลดเหลือ 10% ซึ่ง Tang ไม่ได้ตอบตรงๆ ว่าจะปรับขึ้นราคาสินค้าหรือไม่ แต่ชี้ว่าบริษัทยังสามารถแข่งขันได้ตราบใดที่จีนไม่ถูกเก็บภาษีสูงกว่าประเทศอื่น เนื่องจาก SHEIN มีฐานการผลิตหลักอยู่ในจีน การขึ้นภาษีนำเข้าจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิต
ปัจจุบัน SHEIN สามารถหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้ผ่าน ‘ช่องโหว่’ กฎหมายการค้าที่เรียกว่า De Minimis ที่ยกเว้นภาษีพัสดุมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000 บาท) ด้วยการส่งสินค้าตรงถึงผู้บริโภค โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล Joe Biden ออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทอย่าง SHEIN และคู่แข่งอย่าง Temu ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของการพุ่งสูงขึ้นของการส่งพัสดุแบบ De Minimis ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่ง Trump ก็แสดงท่าทีสนับสนุนนโยบายดังกล่าวในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โดยสั่งการให้คณะรัฐมนตรีประเมินความสูญเสียรายได้จากภาษีนำเข้าที่เกิดจากการใช้ข้อยกเว้น De Minimis
แม้ SHEIN จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทต้องยกเลิกแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ และหันไปจดทะเบียนที่ลอนดอนแทน เนื่องจากกระแสต่อต้านบริษัทที่มีต้นกำเนิดจากจีน
เมื่อถูกถามถึงแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน Tang ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่อธิบายถึงเหตุผลที่บริษัทต้องการเป็นบริษัทมหาชน โดยระบุว่าการเป็นบริษัทมหาชนจะช่วยสร้าง ‘ความรับผิดชอบ’ ผ่านกลไกที่เป็นสากล และความไว้วางใจจากสาธารณะเป็นสิ่ง ‘สำคัญยิ่ง’ สำหรับการเติบโตในระยะยาว
ภาพ: Antonello Marangi / Shutterstock
อ้างอิง: