5 ปีผ่านมา เคพีเอ็น แลนด์ (KPN LAND) ได้ขยายพอร์ตธุรกิจคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ไปแล้ว 4 โครงการ ประกอบด้วย เดอะ แคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ และเอกมัย-ทองหล่อ และ เดอะ ดิโพลแมท สาทร และ เดอะ ดิโพลแมท 39 (สุขุมวิท 39 ใกล้สถานี BTS พร้อมพงษ์) คิดเป็นมูลค่ารวมกันเหยียบหลัก 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.6 พันล้านบาท และในปีนี้ เคพีเอ็น แลนด์ ยังเตรียมจะเปิดอีก 1 โครงการใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘ฌาา’ (SHAA) เปิดตัวโครงการแรก ‘ฌาา อโศก’ (SHAA ASOKE)
เพื่อทำความรู้จักกับ ‘ฌาา อโศก’ ในมิติที่ลึกขึ้น THE STANDARD ได้พูดคุยกับหญิง-กันตลักษณ์ หงส์ลดารมภ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด เพื่อให้เธอบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของโปรเจกต์ใหม่ล่าสุดที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากย่านธุรกิจแห่งนี้ว่ามีความเป็นมาและน่าสนใจอย่างไร เหตุใดจึงควรค่าแก่การได้เป็นเจ้าของ
ทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ดีเอนเอสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ KPN LAND
คงไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เกินจริงแต่อย่างใด ถ้าจะบอกว่าเกณฑ์การเลือกทำเลที่ตั้งในแต่ละโปรเจกต์อสังหาฯ ถือเป็นหัวใจสำคัญและ ‘ดีเอ็นเอ’ ที่แฝงอยู่ในการดำเนินธุรกิจของเคพีเอ็น แลนด์ มาตั้งแต่วันแรก
ไม่ว่าจะ เดอะ แคปปิตอล หรือ เดอะ ดิโพลแมท จุดร่วมกันของ 2 โครงการนี้คือต้องอยู่ใจกลางตัวเมืองและเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้ง่ายเหมือนกันเท่านั้น เราจึงเห็นคอนโดฯ ของเคพีเอ็น แลนด์ ตั้งตระหง่านตามเส้นสุขุมวิท เอกมัย สาทรเป็นหลัก เช่นเดียวกับ ‘ฌาา อโศก’ โครงการลำดับที่ 5 ของเคพีเอ็น แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่บนสุขุมวิท 19 ใกล้ๆ กับย่านอโศก อยู่ติดกับทั้งสถานีรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT
กันตลักษณ์บอกว่า ก่อนจะรันโครงการฌาาขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีมีคนเสนอโลเคชั่นเข้ามาให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่เพราะเคพีเอ็น แลนด์ให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งมากๆ ฉะนั้นทุกครั้งที่จะต้องเลือกสถานที่ใหม่ขึ้นโครงการ เธอและทีมผู้บริหารจะต้องลงไปเซอร์เวย์ละแวกดังกล่าวด้วยตัวเอง ทั้งในเวลาเร่งด่วนและเวลาปกติ สำรวจแม้กระทั่งการเดินและขับรถ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้อยู่อาศัยในบริเวณที่ปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด
“ที่ดินแต่ละแปลงที่เราได้มาล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการคำนวณมาหมดแล้วว่าการเดินทางสัญจรทั้งระบบขนส่งมวลชน รถยนต์ส่วนบุคคล หรือการเดินเท้าต้องเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกที่สุด ทุกครั้งก่อนจะเปิดโครงการที่ไหนก็ตาม เราและซีอีโอจะลงไปสำรวจสถานที่ด้วยตัวเอง ลองไปเดินทั้งตอนเช้าและกลางคืนเพื่อดูว่ามันปลอดภัยไหม ขับรถเข้าออกในช่วงเวลาที่คนรีบไปทำงานกัน เพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่ตรงนั้นจะดีที่สุดสำหรับลูกค้าจริงๆ เราใส่ใจและคำนึงถึงรายละเอียดทุกอย่าง เพราะที่ดินบางแปลงแม้จะดูดีมากตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับอยู่ติดกับสถานบันเทิง เสียงดังอึกทึก
“ส่วนฌาา อโศก (สุขุมวิท 19) ตอนเราเห็นที่ดินแปลงนี้ครั้งแรกก็รู้สึกชอบเลย เพราะมันตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ไม่ได้อยู่เส้นอโศกโดยตรง ซึ่งเป็นข้อดี เพราะนอกจากจะอยู่ย่านใจกลางเมืองเหมือนนิวยอร์กของอเมริกา มันก็ยังมีความปลีกวิเวก สงบเป็นส่วนตัวสูงมากๆ ในเวลาเดียวกันด้วย”
‘ฌาา อโศก’ ผู้ชายเท่ๆ ที่มีทั้งมุมสร้างสรรค์และอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน
อีกหนึ่งแนวคิดและความเชื่อส่วนตัวที่น่าสนใจของกันตลักษณ์ คือการที่เธอมักจะมองสิ่งปลูกสร้างจำพวกบ้าน หรือแม้แต่โครงการคอนโดฯ ของเคพีเอ็น แลนด์ เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบหนึ่ง หรือเปรียบเป็น ‘มนุษย์’ เสมอ
ด้วยความเชื่อนี้เองที่ทำให้กันตลักษณ์และทีมงานเคพีเอ็น แลนด์ บรรจงถ่ายทอดและรังสรรค์ดีไซน์การออกแบบโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามบุคลิกและลักษณะนิสัยตัวตนของโปรเจกต์นั้นๆ ให้ได้มากที่สุด
“กับโปรเจกต์ฌาา และด้วยตัวโลเคชันที่เราได้มา เราอยากจะก้าวเข้าไปข้างหน้าอีกขั้น เราอยากให้เขามีความฮิปผสมกับความ Boutique ส่วนตัวเรามองว่าตึกฌาาจะมีความเป็นผู้ชายเท่ๆ (Masculine) ถ้ามองเป็นผู้ชายก็เหมือนโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) หรือ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) มีเอกลักษณ์ความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นผู้นำสูง ในเวลาเดียวกันก็มีมุมความคิดสร้างสรรค์และความอ่อนโยนอยู่ด้วย
“โดยคอนเซปต์ของฌาา ทุกโครงการจะค่อนข้างสร้างขึ้นโดยอิงกับพื้นฐานทางศิลปะมากๆ คอนเซปต์การออกแบบตึกของเราไม่เหมือนกับที่อื่น ดีไซน์ทุกอย่างจะอิงจากเรื่องราวที่เราสร้างขึ้น เวลาเลือกโลเคชั่นขึ้นมาได้สักแปลงก็จะไม่มองเขาเป็นแค่ ‘ที่ดิน’ อีกต่อไป แต่จะมองว่าเขามีชีวิตเหมือน ‘มนุษย์’ ทุกๆ ขั้นตอนการออกแบบเราจะมองว่าบุคลิกของเขาเป็นอย่างไรเสมอ พอเป็นตึกขึ้นมาเราก็จะดูต่อไปอีกว่าเขาต้องแต่งตัวอย่างไร
“อย่างตัวฌาาเองก็จะแฝงไปด้วยความลึกลับและความเซ็กซี่ เป็นชื่อที่อาจจะนิยามความหมายหรือที่มาโดยตรงไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากให้เขาเป็น เราไม่สามารถไประบุเจาะจงได้ว่าฌาาเป็นใคร แต่เรารู้ว่าเขา (โครงการ) เท่และมีความเซ็กซี่ในตัวเอง”
การออกแบบที่คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานบนดีไซน์และวัสดุที่หรูหรา
เมื่อสามารถจำแนกคาแรกเตอร์ บุคลิกนิสัยของฌาาออกมาเป็นคนหนึ่งคนได้แล้ว สเตปต่อไปที่เคพีเอ็น แลนด์ และกันตลักษณ์จะต้องทำก็คือแต่งตัวและออกแบบให้เขา (โครงการ) คนนี้ดูภูมิฐานและจับต้องได้ง่ายขึ้น
กันตลักษณ์มองว่า ในฐานะเจ้าของโครงการ เธอมีหน้าที่ต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ฉะนั้นการออกแบบของเคพีเอ็น แลนด์ นอกจากจะให้ความสำคัญกับดีไซน์แบบ Boutique ที่หรูหราและวัสดุที่ดีเยี่ยมแล้ว ก็ยังคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายต่อการบำรุงรักษาเป็นหลักด้วย
“คอนเซปต์ของเราคือ ‘Crafted with Passion’ ผู้บริหารเลยลงมาดูงานด้วยตัวเอง อย่างไซต์งานเราก็เดินดูด้วยตัวเองทุกวัน บอกได้เลยว่าเรารู้จักไซต์งานโครงการของเรามากกว่าพนักงานทุกคนอีก ซึ่งทุกครั้งที่เราสร้างคอนโดฯ ขึ้นมา เราก็มักจะนำประสบการณ์ส่วนตัวมาถ่ายทอดในโครงการแต่ละแห่งเสมอ ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิง เราคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนหลอดไฟในห้องเองได้ วัสดุในห้องต้องง่ายต่อการดูแลรักษา ต้องทนทาน เราไม่เคยให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์มากกว่าฟังก์ชันการใช้งาน แต่จะให้ความสำคัญกับองค์ประกอบทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกันและทำให้กะทัดรัดมากที่สุด เช่น ก๊อกน้ำและราวจับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของโครงการฌาา ก็ใช้ผลิตภัณฑ์จาก AXOR จากฝีมือการออกแบบของสถาปนิกชาวอิตาลี อันโตนิโอ ซิเตริโอ (Antonio Citterio) ในสีพิเศษ Red Gold
“เราเคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมโรงงานผลิตของเขาแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ของเขาทุกอย่างหรือทุกชิ้นส่วนเป็นงานฝีมือ (Hand Craft) ทำชิ้นต่อชิ้น แล้วนำมาผ่านกระบวนการเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบ PVD รวมไปถึงการนำนวัตกรรมแบบพิเศษทำให้ละอองน้ำที่ออกมาจาก Rain Shower มีโมเลกุลที่เล็กกว่า Rain Shower แบบปกติ ซึ่งจะทำให้น้ำที่ไหลลงมาสัมผัสร่างกายนั้นจะมีความนุ่มสบาย และยังเลือกใช้วัสดุทองเหลืองที่มีความคงทน โดยรุ่นที่เราใช้เป็นรุ่นที่ออกแบบโดยอันโตนิโอ ซิเตริโอ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอิตาลี ถามว่าทำไมเราถึงใส่ใจกับก๊อกน้ำหรือราวจับต่างๆ ในห้องน้ำเป็นพิเศษ ก็เพราะว่าสิ่งของพวกนี้คือสิ่งที่เราต้องใช้งานและสัมผัสในทุกๆ วัน ดังนั้นเรามองว่าอุปกรณ์เหล่านี้ควรค่าต่อการลงทุน”
นอกจากนี้เมื่อเปิดประตูเข้าห้องตัวอย่างโครงการ ‘ฌาา อโศก’ ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำไปก็จะพบว่า ตัวห้องถูกออกแบบมาโดยแยกห้องน้ำรับแขกและห้องครัวออกไปให้พ้นจากสายตา ส่วนภายในห้องรับแขกหรือห้องทานข้าวก็จะเน้นให้เห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกเป็นพิเศษ ที่เป็นเช่นนี้เพราะกันตลักษณ์เชื่อว่าเจ้าของบ้านควรจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน (ห้อง) ของตัวเองอย่างเต็มที่
เคปเปล พันธมิตรธุรกิจจากสิงคโปร์
หลังการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะพอทราบกันมาบ้างว่า ‘ฌาา อโศก’ เป็นโครงการร่วมทุนโครงการแรกระหว่างเคพีเอ็น แลนด์ และเคปเปล แลนด์ กลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งออฟฟิศ คอมมูนิตี้สเปซ และที่อยู่อาศัย ภายใต้บริษัทร่วมทุนเคพีเอ็น-เคปเปล อัลลายซ์แอนซ์ (KPN-KEPPEL ALLIANCE COMPANY LIMITED)
กันตลักษณ์เปิดเผยเบื้องหลังที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ไว้ว่า เคพีเอ็น แลนด์ได้รับการติดต่อจากกลุ่มทุนที่ให้ความสนใจอยากร่วมทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเคพีเอ็น แลนด์เน้นเจาะตลาดคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ในประเทศเป็นหลัก แต่สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกเคปเปลเนื่องจากพวกเขามีความชำนาญเฉพาะตัว และมีวิสัยทัศน์ในการบริหารธุรกิจที่คล้ายๆ กันกับบริษัทของเธอ
“เคปเปลเป็นท็อป 3 แบรนด์ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ในสิงคโปร์ เขาเชี่ยวชาญการพัฒนาอาคารสำนักงาน คอมมูนิตี้สเปซ และที่อยูอาศัย ตึกที่เขาทำในสิงคโปร์อาจจะมีไม่เยอะมากแต่จะเน้นไฮเอนด์เป็นหลัก แล้วการร่วมมือในครั้งนี้ก็จะเป็นในรูปแบบการแชร์มุมมองระหว่างกัน ทั้งเราและเขาก็ได้เรียนรู้จากกันเยอะมาก เคปเปลก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานที่ใส่ใจในรายละเอียดจากเรา ส่วนเราเองก็ได้เรียนรู้การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เหมือนกัน”
ต่อจากนี้ผู้บริหารหญิงจากเคพีเอ็น แลนด์เชื่อว่าเคปเปลตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในไทยได้อย่างน้อยปีละ 1-2 โครงการ โดยเคปเปลจะเข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการลงทุนและเติมเต็มศักยภาพการขยายโครงการอสังหาฯ ให้เคพีเอ็น แลนด์แข็งแกร่งมากกว่าเดิม
ขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์เคพีเอ็น แลนด์ยังระบุอีกด้วยว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งเดอะ แคปปิตอล และ เดอะ ดิโพลแมท เองก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวจีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฮ่องกง และมาเลเซียมาโดยตลอด
“ณ วันที่คุณตัดสินใจเข้ามาเป็นลูกค้าของเราแล้ว หากมีโอกาสพัฒนาโปรดักต์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เราจะทำ”
นอกเหนือจากความเชื่อเรื่องคอนโดฯ โครงการ และสิ่งปลูกสร้างมีชีวิตแล้ว กันตลักษณ์ยังเชื่ออีกด้วยว่าความมุ่งมั่นที่มีเสมอมาของเคพีเอ็น แลนด์ คือการพัฒนาโปรดักต์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ วัน ถึงแม้จะอยู่ในระหว่างการส่งมอบสู่มือลูกค้าก็ตาม
“ณ วันนี้ไม่ว่าลูกค้าของเราจะเป็นใคร แต่คอนเซปต์และหลักการที่เคพีเอ็น แลนด์ยึดถือมาตลอดคือโลเคชั่น ที่ที่เราสร้างโครงการจะต้องมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทุกๆ สัดส่วนการออกแบบจะต้องมีคุณค่าในตัวเอง ถ้าสังเกตโครงการของเคพีเอ็น แลนด์ อาจจะมี Perspective เหมือนโครงการอสังหาฯ ทั่วไป แต่เวลาโครงการจริงเสร็จเมื่อไรลูกค้าจะได้รับสิ่งที่ดี เนื่องจากเราจะต่อเติมเพิ่มมูลค่าไปในระหว่างระยะทางการสร้างอยู่เรื่อยๆ”
การพัฒนาโปรดักต์อยู่ตลอดเวลานี้เองคืออีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจและเชื่อมั่นในเคพีเอ็น แลนด์
“ส่วนตัวเราเชื่อว่า ณ วันที่เราขายของให้คุณไปแล้ว ถ้าตลอดเส้นทางที่เรายังมุ่งไปอยู่ หากมีโอกาสพัฒนาโปรดักต์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เราก็จะทำ นี่คือคอนเซปต์ในการทำงานของเคพีเอ็น แลนด์
“และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราต่างจากที่อื่นๆ เพราะ ณ วันนี้ในฐานะผู้ประกอบการ เราต้องหาจุดกึ่งกลางที่ลงตัวระหว่างการทำธุรกิจและการให้ประโยชน์กับลูกค้าให้ได้ด้วย นี่คือบ้านของพวกเขา เราต้องส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา”
SHAA ASOKE จะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคมนี้ ณ สำนักงานขายซอยสุขุมวิท 39 สนใจข้อมูลเพิ่มเติมศึกษาได้ที่ shaa.kpnland.com หรือติดต่อ 0 2789 9000
อ้างอิง:
- เพราะคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้งานในอนาคตของผู้ใช้ ฌาา อโศก จึงติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า EV Charger รองรับการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของลูกค้าทุกคน