×

แรงซื้อหุ้นใหญ่ดัน SET พุ่ง 40 จุด! ‘ต่างชาติ-สถาบัน’ ไล่เก็บรับธีมเปิดประเทศ จับตาดัชนีพุ่งทดสอบบริเวณ 1,600 จุด

03.03.2021
  • LOADING...
แรงซื้อหุ้นใหญ่ดัน SET พุ่ง 40 จุด! ‘ต่างชาติ-สถาบัน’ ไล่เก็บรับธีมเปิดประเทศ จับตาดัชนีพุ่งทดสอบบริเวณ 1,600 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 มีนาคม) ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดย ณ สิ้นวันดัชนี SET พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,543 จุด หรือบวกขึ้นมาได้ 40.04 จุด แรงซื้อในวันนี้เข้ามาในหุ้นกลุ่ม SET50 เป็นหลัก ทำให้ดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นได้ถึง 3.3% เทียบกับ SET ที่ประมาณ 2.7% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่ม sSET และ mai เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% และ 1.4% ตามลำดับ

 

ส่วนนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิถึง 2,936 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศก็ซื้อสุทธิกว่า 3,129 ล้านบาท ด้านบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิกว่า 2,998 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายบุคคลในประเทศ ขายสุทธิรวมกว่า 9,064 ล้านบาท

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นมาได้แรง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองถึงโอกาสที่ไทยจะเปิดประเทศได้เร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่การล็อกดาวน์ต่างๆ เริ่มคลายลงไปแล้ว ส่งผลให้ผู้คนเริ่มกลับมาทำงานกันได้ตามปกติ และช่วยให้กำลังซื้อภายในประเทศเริ่มกลับมา โดยจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่โดดเด่นขึ้นมาในวันนี้ 

 

ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าน่าจะฟื้นตัวกลับมาเช่นกัน จากการใช้ไฟฟ้าที่น่าจะกลับสู่ระดับปกติ นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากการที่ความกังวลในเรื่องของบอนด์ยีลด์ที่พุ่งขึ้น น่าจะเริ่มชะลอลง เนื่องจากการประชุม OPEC ในรอบนี้น่าจะเห็นการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงจนเกินไป ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น 

 

ด้าน ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ มองว่า การพุ่งขึ้นของหุ้นไทยวันนี้ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นอื่นในเอเชียซึ่งปรับขึ้น 1-2% ในส่วนของหุ้นไทยเป็นการพุ่งขึ้นของหุ้นใหญ่เป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้จากดัชนี SET50 ที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นที่สุด คาดว่าจะมาจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ หลังจากผ่านช่วงของการปรับพอร์ตก่อนหน้านี้ 

 

“แม้ดัชนีจะวิ่งขึ้นมาแรง แต่ในเชิงมูลค่ายังค่อนข้างตึงตัว หากดัชนีวิ่งขึ้นไปถึงบริเวณ 1,540 จุด นักลงทุนควรจะกล้าขายทำกำไร แต่หากปรับฐานลงไปบริเวณ 1,450-1,480 จุด ก็ควรจะกล้าซื้อเช่นกัน” 

 

ในระยะสั้นเชื่อว่าตลาดจะเป็นภาพของการซื้อขายเก็งกำไรเป็นหลัก หลังจากที่บอนด์ยีลด์เริ่มพักตัว ทำให้ความกังวลในประเด็นนี้ลดลงไป ส่วนในระยะยาวหุ้นไทยจะได้ประโยชน์จากการที่บอนด์ยีลด์เป็นขาขึ้น เนื่องจากมีน้ำหนักหุ้นกลุ่ม Value ค่อนข้างมาก และที่ผ่านมาราคาหุ้นยังค่อนข้าง Laggard เทียบกับหลายๆ ประเทศ

 

ขณะที่ เอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินว่า ในระยะสั้นดัชนี SET ยังไม่น่าจะทะลุผ่านกรอบด้านบนบริเวณ 1,540 จุด และจะเป็นลักษณะของการเคลื่อนไหวออกข้างหลังจากนี้ ด้วยแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติตามทิศทางเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่า รวมถึงมูลค่าตลาดที่ค่อนข้างตึงตัว และกำไรของบริษัทที่เติบโตไม่ทัน 

 

“ในเชิงกลยุทธ์แนะนำรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาบริเวณ 1,450 จุด ซึ่งจะมีอัปไซด์ด้านปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดประเทศ อย่างหุ้นกลุ่มค้าปลีก โรงแรม สนามบิน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ยังมีราคาหุ้นที่ยัง Laggard”

 

ส่วนแนวโน้มจนถึงช่วงกลางปีนี้ ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ดัชนี SET มีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 จุด ด้วยอัปไซด์ในส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีโอกาสจะถูกปรับประมาณการขึ้นได้ หลังจากที่ราคาน้ำมันในปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมา 10% จากไตรมาสก่อน 

 

ขณะเดียวกัน การกระจายวัคซีนในหลายประเทศทำได้ค่อนข้างเร็ว อย่างในสหรัฐฯ คาดว่าวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ทั้งหมดจะกระจายได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ สอดคล้องกับที่อังกฤษ ซึ่งปัจจุบันกระจายวัคซีนแล้วประมาณ 30% ของประชากร และคาดว่าจะครอบคลุมทั้งหมดภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้เงินทุนไหลกลับมายังตลาดหุ้นอีกครั้ง 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

 


 

โอกาสของเศรษฐกิจโลกอยู่ตรงไหน ไทยตกขบวนการฟื้นตัวหรือไม่? บิตคอยน์คือ สินทรัพย์ทางเลือก หรือฟองสบู่ที่รอวันแตก? เราควรปรับพอร์ตอย่างไรเพื่อเติบโตท่ามกลางความตกต่ำ

 

ร่วมกันค้นหาคำตอบใน THE STANDARD WEALTH FORUM: Catch the Next Curve

 

สิทธิพิเศษ! ลงทะเบียนรับรหัสจำนวนจำกัด เพื่อเข้าชมถ่ายทอดสดได้ที่ thestandard.co/events

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising