ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มั่นใจ ‘หุ้นไทย’ ยังน่าสนใจลงทุน สะท้อนผ่านมูลค่าหุ้น IPO ปีนี้ที่สูงกว่า 4 แสนล้านบาท ทั้งยังเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงในอาเซียน เผยนักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับหุ้นที่เน้นความยั่งยืนมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ถือเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทน ‘ติดลบ’ ราว 24% แต่ในมุมมองของ ตลท. แล้ว ยังมั่นใจว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ และถือเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงสุดในกลุ่มอาเซียน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ผ่านรายการ Morning Wealth ว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปีนี้ปรับลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาเศรษฐกิจโลกค่อนข้างสูง ผ่านการส่งออกและการท่องเที่ยว ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนไทยเองก็มีธุรกรรมกับต่างประเทศค่อนข้างมาก เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่ดี จึงส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยรวมถึงผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวได้ ก็จะส่งอานิสงส์มาถึงเศรษฐกิจไทยด้วย ขณะเดียวกันอยากชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีพัฒนาการที่สำคัญค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ซึ่งในปีนี้มี IPO ใหม่เข้ามาจดทะเบียนรวม 19 บริษัท แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าทุกปีที่มีประมาณ 30 บริษัท แต่ถ้าวัดในเชิงมูลค่าของหุ้น IPO ปีนี้มีเข้ามาแล้วประมาณ 4 แสนล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการระดมทุน และความสนใจของผู้ลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นไทย
ศรพลกล่าวว่า บริษัทใหม่ที่เข้ามาจดทะเบียนในปีนี้ หลายบริษัทได้อานิสงส์จากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น บริษัทในกลุ่มการแพทย์ (HEALTH), กลุ่มเทคโนโลยี (TECH) และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารหมวดธุรกิจ (AGRO) โดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่า หุ้นหลายๆ กลุ่มปรับตัวลดลง แต่ 3 กลุ่มนี้ล้วนปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังถือเป็นตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน โดยเฉพาะในปีนี้พบว่า มีนักลงทุนมาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 2 แสนบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวจากปกติ ที่ทุกปีจะมีเปิดบัญชีใหม่ประมาณ 1 แสนบัญชี
“คนเริ่มมาเปิดบัญชีผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น เริ่มศึกษาการลงทุนผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เดิมเราเคยจัดสัมมนาให้กับนักลงทุนต่างประเทศผ่าน Thailand Focus ซึ่งปกติจะมีนักลงทุนมาเมืองไทยประมาณ 2 วัน รวมพันกว่าคน แต่รอบนี้เราจัดผ่านออนไลน์ วันแรกมีคนเข้ามา 2.6 หมื่นวิว เพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า หรือการจัด Set in The City ผ่านออนไลน์ที่ผ่านมา ก็มีคนเข้าดูเพิ่มขึ้น 4 เท่า ดังนั้นโอกาสเริ่มมา และยังถือเป็นโอกาสที่ตลาดทุนไทยจะมีธุรกรรมกับต่างประเทศเพิ่มขึ้น”
ศรพลกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า นักลงทุนให้ความสนใจกับหุ้นที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น โดยเท่าที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ศึกษาเป็นการภายใน เพื่อดูว่านักลงทุนเน้นใช้ข้อมูลอะไรเพื่อพิจารณาในการตัดสินใจลงทุน พบว่า ปัจจัยที่เกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน ถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
