×

หยุดยาวดูอะไรดี และนี่คือซีรีส์ปี 2017 ที่เราอยากดูให้จบก่อนขึ้นปีใหม่

28.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins read
  • วันหยุดยาวตั้งแต่ 30 ธันวาคม ถึง 2 มกราคม นับรวมได้ 4 วัน หรือราว 96 ชั่วโมง หักสำหรับเวลาพักผ่อนและสังสรรค์กับเพื่อนไปแบบครึ่งๆ จะเหลือเวลาราว 48 ชั่วโมงให้เราเลือกจัดสรรเวลาชีวิตไปทำอะไรที่ชอบ หรือจะเลือกดูซีรีส์มาราธอนเป็นการส่งท้ายปี ก็สามารถจัดได้เลยตามใจชอบ

2017 ปีแห่งการดูสรรพสิ่งบันเทิงผ่าน ‘สตรีมมิง’ และเพื่อเป็นการต้อนรับวันหยุดยาวปลายปีที่เดินทางมาถึง เรามาย้อนทบทวนดูอีกทีว่ามีซีรีส์เรื่องไหนที่เราควรใช้เวลาข้ามปีไปด้วยกัน

 

กิจกรรมดูซีรีส์มาราธอน จะดูคนเดียว นัดเพื่อนมาดูเป็นเพื่อน หรือเลือกเรื่องที่ดูได้ทั้งครอบครัวก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งยังทำให้ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันครบรสเต็มทุกอารมณ์

 

วันหยุดยาวตั้งแต่ 30 ธันวาคม ถึง 2 มกราคม นับรวมได้ 4 วัน หรือราว 96 ชั่วโมง หักสำหรับเวลาพักผ่อนและสังสรรค์กับเพื่อนไปแบบครึ่งๆ จะเหลือเวลาราว 48 ชั่วโมงให้เราเลือกจัดสรรเวลาชีวิตไปทำอะไรที่ชอบ หรือจะเลือกดูซีรีส์มาราธอนเป็นการส่งท้ายปี ก็สามารถจัดได้เลยตามใจชอบ

 

7.36 ชั่วโมง

Game of Thrones, ซีซัน 7 (7 ตอน)

หลังจากรอคอยมา 1 ปีเต็ม แฟนๆ ซีรีส์ GOT หรือ Game of Thrones ก็ได้สมใจกับซีซัน 7 ที่ยิ่งใหญ่คุ้มค่าการรอคอย มาพร้อมด้วยความพีกในทุกภาคส่วน และการเดินเรื่องที่พาเราใกล้จุดอวสานของ GOT สักที

 

ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นตั้งแต่ซีซันแรก อาจต้องใช้เวลาทั้งหมดในวันหยุดยาว เพราะเวลารวมของทุกซีซัน (ซีซัน 1-7) ดูต่อเนื่องอยู่ที่ 2 วัน 15.30 ชั่วโมง แต่เรามองว่าคุ้มค่า เพราะนี่คือซีรีส์ระดับโลกที่ค่าโปรดักชันตกอยู่ที่ตอนละ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มเป็น 15 ล้านเหรียญสหรัฐในซีซันสุดท้ายที่จะเริ่มฉายจริงในปี 2019

 

#WinterIsHere ฤดูหนาวมาถึงแล้ว ไม่ต้องพิมพ์บรรยายให้มากความ เริ่มดูกันเลย!

 

 

 

7 ชั่วโมง

Stranger Things, ซีซัน 2 (9 ตอน)

ใครที่เคยเอาใจช่วยแก๊งเด็ก วิล, ไมค์, ดัสติน, ลูคัส และน้องอีเลฟเว่น ใน Stranger Things ซีซันแรกมาแล้ว มาถึงซีซันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อ โดยเนื้อเรื่องยังคงติดตามชีวิตของเด็กๆ 1 ปีหลังจากซีซันแรก โดยซีรีส์ไซไฟ-ทริลเลอร์เรื่องนี้พาเราไปลุ้นกับการค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหนือธรรมชาติ เมื่อวิลพบว่าตัวเขากำลังเข้าไปพัวพันกับ ‘สิ่งนั้น’ อีกครั้ง และกำลังถูกกลืนกินไปทีละน้อย เหล่าเพื่อนจึงต้องร่วมใจกันช่วยเหลือเขา พร้อมการกลับมาของอีเลฟเว่น เพื่อนสาวทรงพลังที่ซึ้งกินใจจนน้ำตาปริ่ม

 

แฟนหนังสายวินเทจน่าจะชอบ เพราะมีส่วนผสมของหนังอย่าง Super 8, Stand by me, E.T. และตัวซีรีส์เองก็เล่าเรื่องย้อนกลับไปในยุค 80s ที่ทำให้เราได้เห็นพร็อพย้อนอดีตชวนให้คิดถึงวันเก่าๆ ส่วนซีซัน 3 ทาง Netflix คอนเฟิร์มว่ามาแน่ โปรดรอชม

 

ปล. สำหรับใครที่อยากย้อนดูตั้งแต่ซีซันแรก ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 14.10 ชั่วโมงเท่านั้น!

 

 

 

18 ชั่วโมง

Stranger (16 ตอนจบ)

ข้ามฝั่งมาที่ซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมขนาดว่า Netflix จ่ายเงินซื้อไปฉายในราคาตอนละ 200,000 เหรียญสหรัฐ Stranger หรือ Secret Forest เล่าเรื่องราวของ ฮวางชีมก อัยการหนุ่มที่ซื่อตรงต่อหน้าที่ ด้วยความที่ครั้งยังเด็กเขาเคยผ่าตัดสมอง ทำให้ส่งผลกับการรับรู้และการแสดงอารมณ์ จึงทำให้เขาไม่อาจแสดงอารมณ์ใดๆ บนใบหน้า จนวันหนึ่งเขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่ดูเหมือนไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่กลายเป็นเงื่อนปมที่พาเข้าไปสู่ความลับอันซับซ้อนของการทุจริตในวงการผู้รักษาความยุติธรรม

 

ความสนุกอยู่ตรงเรื่องราวที่พร้อมจะพลิกผันได้ตลอดเวลา ใครที่เรามองว่าไม่สำคัญอะไรก็มักกลายเป็นตัวละครพีกๆ ได้เสมอ สายดูหนังหักเหลี่ยมเฉือนคมจดลิสต์ไปดูได้เลย

 

 

16 ชั่วโมง

While You Were Sleeping (32 ตอนจบ)

ซีรีส์ที่การันตีว่าฮอตสุดขีดโดย Viu (วิว) ผู้ให้บริการสตรีมมิงรายการฮิตทั่วเอเชีย โดย While You Were Sleeping ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของ ‘10 สุดยอดซีรีส์และวาไรตี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้’ และมีผู้เข้าชมสูงสุดผ่าน Viu

 

เรื่องราวของเพื่อน 3 คนที่เคยมีอดีตร่วมกันในวัยเด็ก และกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อโตขึ้น โดยหญิงสาวเป็นนักข่าว ขณะที่เพื่อนชายอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นอัยการ อีกคนเป็นตำรวจ ทั้ง 3 คนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ผ่านความฝัน และนั่นจึงนำมาซึ่งการช่วยเหลือชีวิตของพวกเขากันเอง รวมถึงเหตุการณ์ที่ช่วยเหลือชีวิตคนอื่นๆ นำแสดงโดย อีจงซอก (Lee Jong-suk) นักแสดงสังกัด YG ที่ปี 2016 ดังสุดขีดจากซีรีส์เรื่อง W และ แบซูจี (Bae Suzy) นักแสดงสาวอดีตสมาชิกวง Miss A

 

https://www.viu.com/ott/th/th/vod/61950/While-You-Were-Sleeping

 

16 ชั่วโมง

Fight for My Way (16 ตอนจบ)

เรื่องราวของเพื่อนสนิท 4 คนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนต่างมีความฝันของตัวเอง แต่ด้วยฐานะในสังคมทำให้พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันนั้น นำแสดงโดย พัคซอจุน (Park Seo Joon) พระเอกของเรื่องที่ฝันอยากเป็นนักมวย UFC ส่วนนางเอก คิมจีวอน (Kim Ji-won) รับบทหญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ต้องต่อสู้กับคำสบประมาท เพราะในจุดเริ่มต้นเธอเป็นเพียงผู้ประกาศในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น

 

แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ติดอันดับยอดนิยม แต่ด้วยเนื้อหาดีๆ ภาพสวยๆ ตัวละครแต่งตัวดี และความสนุกที่มีให้ได้ยิ้มตลอดเรื่อง Fight for My Way จึงเป็นซีรีส์ตัวเลือกที่ดีหากต้องการเติมพลังไว้ใช้ต่อสู้กันใหม่ในปีหน้า

 

https://www.viu.com/ott/th/th/vod/48967/Fight-for-My-Way

 

9 ชั่วโมง

The Crown, ซีซัน 2 (10 ตอนจบ)

ซีรีส์เบื้องหลังการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะนั้นสภาพสังคมอยู่ในภาวะเปราะบาง เมื่ออังกฤษส่งกองทหารไปทำสงครามอย่างผิดหลักกฎหมายสากลในอียิปต์ และจบด้วยการลาออกของ ฮาโรลด์ แม็กมิลแลน (Harold Macmillan) นายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของรัชสมัย โดยในซีซัน 2 เล่าเรื่องราวไปจนถึงช่วงสิ้นสุดยุคอาณานิคม ไปจนถึงยุคปฏิวัติในช่วงทศวรรษ 1960

 

The Crown เป็นการร่วมมือกันของ ปีเตอร์ มอร์แกน ผู้สร้าง-ผู้เขียนบท The Queen, Nixon, สตีเฟน ดัลดรี ผู้กำกับ และแอนดี้ ฮาริส ผู้อำนวยการสร้าง น่าดูชมแค่ไหนก็เอาเป็นว่าเซเลบริตี้ระดับโลกอย่าง มารายห์ แครีย์ ยังทวีตชวนให้ดู!

 

ปล. ไหนๆ ก็ไหนๆ เริ่มดูจากซีซันแรกจนจบซีซัน 2 ก็จะใช้เวลาเพียง 18 ชั่วโมงเท่านั้น

 

 

 

9 ชั่วโมง

Versailles ซีซัน 2 (10 ตอนจบ)

สำหรับใครที่ไม่ได้เดินทางไปไหน การเดินทางผ่านซีรีส์ก็น่าสนใจ โดยเฉพาะ Versailles ที่ปีนี้ออกฉายซีซัน 2 โดยยังคงยึดพื้นที่พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส ในการถ่ายทำตลอดทั้งเรื่อง!

 

ซีซันแรกเป็นการเปิดเรื่องในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสที่มีความสำคัญที่สุดอีกพระองค์หนึ่ง เจ้าของวาทะ “I am the State” หรือ “ฉันคือฝรั่งเศส” กษัตริย์ผู้ก่อสร้างต่อเติมพระราชวังแวร์ซายส์ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ เนื้อเรื่องสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำระหว่างกษัตริย์และชนชั้นสูงที่แตกต่างจากชนชั้นแรงงานอย่างเห็นได้ชัด ในหมู่ชนชั้นสูงกันเองก็มีการแก่งแย่งชิงดี เพื่ออำนาจ ฐานะ และความเป็นอยู่ที่ดีกว่า โดยเฉพาะผู้หญิงในพระราชวังที่ต่างต้องการแต่งงานกับใครสักคน (โดยเฉพาะกษัตริย์) ที่จะช่วยยกระดับชีวิตพวกเธอ

 

ซีซัน 2 ดำเนินเรื่องต่อจากซีซันแรก โดยเป็นเรื่องราว 4 ปีต่อมา ที่มาพร้อมเสื้อผ้า หน้าผม แสงเงา สถานที่ที่สวยงามอลังการในทุกฉากทุกตอนเช่นเคย เรียกว่าดูแค่ความงามของพระราชวังแวร์ซายส์ก็คุ้มแล้ว

 

 

 

8.31 ชั่วโมง

Mindhunter (10 ตอนจบ)

ย้อนกลับไปในปี 1977 ในยุคเริ่มต้นของหน่วยวิเคราะห์พฤติกรรม หนึ่งในหน่วยงานของ FBI เจ้าหน้าที่ โฮลเดน ฟอร์ด, บิลล์ เทนช์ และนักจิตวิทยา ดร.เวนดี้ คาร์ พวกเขาทำงานด้วยการสัมภาษณ์เหล่าฆาตกร เพื่อทำความรู้จักจิตใจและระบบวิธีคิดในการวางแผนฆาตกรรม ทั้งนี้ก็เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ปัญหาคดีอื่นๆ และทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นเรื่องที่สร้างจากเรื่องจริง นั่นทำให้เรื่องราวดูน่าอึดอัดสมจริงมากขึ้นไปอีก ประกอบกับการดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยความคาดเดาไม่ได้ นักแสดงหลักที่เอาอยู่ ก็ทำให้ซีรีส์นี้มาแรงทันทีที่ปล่อยให้ชมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

2 Episode แรก และ 2 Episode สุดท้าย กำกับโดยเดวิด ฟินเชอร์ ซึ่งควบตำแหน่งหนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์อยู่ด้วย และนั่นทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ มีช่วงเปิดและปิดซีซันที่พีกมากอีกเรื่องในปีนี้ แน่นอนว่าซีซัน 2 เริ่มถ่ายทำแล้ว ก่อนสิ้นปี 2018 น่าจะได้ดูกัน

 

 

 

7 ชั่วโมง

The Good Doctor ซีซัน 1 (ยังไม่จบ ปัจจุบันอยู่ตอนที่ 10)

เรื่องราวของ ฌอน เมอร์ฟี นายแพทย์ศัลยกรรมหนุ่มที่เป็นออทิสติก เขาเริ่มต้นการทำงานที่โรงพยาบาล St. Bonaventure ในเมืองซานโฮเซ สหรัฐอเมริกา ความอัจฉริยะและความคิดที่แปลก ลึกซึ้ง ซับซ้อนกว่าคนทั่วไป ทำให้เขามีทักษะบางอย่างในการไขปริศนาของโรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งการรักษาทางการแพทย์ที่ต่างไปจากแพทย์คนอื่น แต่กระนั้น ด้วยความที่เขาเป็นออทิสติก จึงต้องผ่านบททดสอบหนักหนาเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นหมอที่ดีได้ไม่แพ้คนอื่นๆ ซึ่งในหลายๆ ตอน หยิบมาใช้สอนใจในชีวิตประจำวันเราๆ ท่านๆ ได้ดีทีเดียว

 

The Good Doctor เป็นซีรีส์ที่รีเมกจากซีรีส์เกาหลีชื่อเดียวกันในปี 2013 ในเวอร์ชันรีเมกเขียนบทและโปรดิวซ์โดย เดวิด ชอร์ คนเดียวคนเดิมจากผู้สร้างซีรีส์ House M.D. และที่ต้องชมอีกอย่างคือ เฟรดดี ไฮร์มอร์ (Freddie Highmore) ที่แสดงละเอียดมาก จนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมซีรีส์ดราม่า Golden Globe Awards 2018 ที่กำลังจะประกาศผลต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสถานีโทรทัศน์ abc ในช่วงปลายปีนี้

 

 

 

4 ชั่วโมง

Million Yen Women (12 ตอนจบ)

พล็อตเรื่องเปิดมาก็น่าสนใจแล้ว เมื่อหญิงสาวปริศนา 5 คนย้ายเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับหนุ่มนักเขียน โดยจะให้เงินเขาคนละ 1 ล้านเยนทุกเดือนเป็นการแลกเปลี่ยน และมีกฎคือ ห้ามถาม ห้ามเข้าไปในห้องของพวกเธอ และทุกวันต้องกินอาหารเย็นด้วยกัน ที่ว่าน่าสนใจแล้ว ทบไปอีกเท่า ด้วยปูมหลังของหนุ่มนักเขียน พระเอกของเราที่เป็นลูกชายของฆาตกรโทษประหาร!

 

Million Yen Women เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะเรื่อง 100 man yen no Onna tachi ในแต่ละตอนเรื่องราวจะค่อยๆ คลี่คลายว่าพวกเธอทั้ง 5 คือใคร มีปูมหลังแบบไหน และมีเหตุผลอะไรที่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน

 

ถ้าเวลามีน้อยใช้สอยประหยัด ปีใหม่นี้แนะนำเรื่องนี้เลย

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising