×

เสก โลโซ เฟซบุ๊กไลฟ์ ทำไมคนต้องเข้าไปดู

17.08.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS READ
  • ด้วยพฤติกรรมที่ไลฟ์ทุกช่วงเวลา ถ่ายทอดสดทุกกิจกรรมที่ทำ ทั้งเล่นกีตาร์ สูบซิการ์ ป้อนข้าวหมา หาข้าวกิน ก่นด่าผู้คน ไดร์ผมให้แห้ง หรือแม้แต่ตรวจฉี่โชว์ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดอดีตร็อกสตาร์ที่เคยโด่งดังถึงจุดสูงสุดจึงมีพฤติกรรมเสพติดหน้ากล้อง-จ้องหน้าจอได้นานถึงขนาดนี้
  • สถิติย้อนหลัง 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา เสกไลฟ์ไปแล้วกว่า 37 ชั่วโมง สร้างยอดวิวรวมทั้งหมด 12 ล้านวิว ซึ่งนับเป็นสถิติที่น่าสนใจไม่น้อย
  • คอมเมนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างการไลฟ์ของเสกสะท้อนให้เห็นว่าต่างคนต่างมาดูด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ยังไม่นับรวมการแชร์ออกไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้อความในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม หรือบางส่วนก็มองเป็นมีมสร้างความบันเทิงรายวันโดยหยิบยกประเด็นที่เกิดขึ้นในคลิปไปสร้างประเด็นพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนๆ ของตัวเองต่อไป
  • ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่า การดูไลฟ์ของเสก โลโซ ก็เหมือนแอบดูคนข้างบ้าน แต่เชื่อว่ากระแสนี้จะอยู่ได้อีกไม่นานนัก ที่น่าห่วงคือพฤติกรรมลอกเลียนแบบและการ Cyberbullying

เฟซบุ๊กไลฟ์แบบข้ามวันข้ามคืนของเสก โลโซ หรือเสกสรรค์ ศุขพิมาย อดีตร็อกสตาร์ชื่อดัง ถือเป็นหัวข้อสนทนาที่คนในสังคมหยิบยกมาพูดถึงกันมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ด้วยพฤติกรรมที่ไลฟ์ทุกช่วงเวลา ถ่ายทอดสดทุกกิจกรรมที่ทำ ทั้งเล่นกีตาร์ สูบซิการ์ ป้อนข้าวหมา หาข้าวกิน ก่นด่าผู้คน ไดร์ผมให้แห้ง หรือแม้แต่ตรวจฉี่โชว์ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดอดีตร็อกสตาร์ที่เคยโด่งดังถึงจุดสูงสุดจึงมีพฤติกรรมเสพติดหน้ากล้อง-จ้องหน้าจอได้นานถึงขนาดนี้

 

หลายคนวิเคราะห์ไลฟ์มาราธอนของเสกว่าเป็นอาการของโรคไบโพลาร์ ป่วยซึมเศร้าเข้าขั้นเรื้อรัง บ้างมองว่าเป็นอาการของคนติดยาเสพติด ซึ่งเอาเข้าจริงคงวิเคราะห์กันได้ยาก ตราบใดที่เจ้าตัวยังไม่ได้ไปพบแพทย์ด้วยตนเอง

 

ตัดประเด็นคำถามว่า ‘ไลฟ์ไปทำไม’ จะเห็นอีกมุมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือแล้วจะ ‘ดูไปทำไม’ ในเมื่อพอจะเดาได้ว่าวันๆ เขาทำอะไรบ้าง และนี่คือคำถามที่ THE STANDARD พยายามหาคำตอบให้เจอ

 

 

เปิดสถิติย้อนหลัง 72 ชั่วโมง เสกไลฟ์ไปแล้วกว่า 37 ชั่วโมง โกยยอดวิว 12 ล้าน

ย้อนหลังกลับไป 3 วัน จะเห็นว่าภาพรวมการไลฟ์ของเสก โลโซ ถูกแบ่งเป็นช่วงเวลาต่างๆ กัน ซอยย่อยออกเป็นหลายคลิปวิดีโอ ความสั้นยาวไม่เท่ากันตั้งแต่คลิปสั้นๆ ไม่ถึงนาที ไล่ไปจนถึง 2 ชั่วโมงกว่า ที่น่าสนใจคือไลฟ์ส่วนใหญ่ของเขาจะมียอดวิวไม่ต่ำกว่าแสน หรือน้อยที่สุดก็เป็นหลักหมื่นขึ้นไปแทบทั้งสิ้น

 

วันที่ 14 สิงหาคม มีการไลฟ์ 20 ครั้ง รวมระยะเวลากว่า 1,008 นาที คิดเป็น 16 ชั่วโมง 25 นาที มียอดวิว 3.58 ล้านวิว

 

วันที่ 15 สิงหาคม มีการไลฟ์ 15 ครั้ง รวมระยะเวลากว่า 842 นาที คิดเป็น 14 ชั่วโมง มียอดวิว 5 ล้านวิว

 

วันที่ 16 สิงหาคม มีการไลฟ์ 16 ครั้ง รวมระยะเวลากว่า 411 นาที คิดเป็น 6 ชั่วโมงกว่า มียอดวิว 3.9 ล้านวิว

 

เท่ากับว่า 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา เสกไลฟ์ไปแล้วกว่า 37 ชั่วโมง สร้างยอดวิวรวมทั้งหมด 12 ล้านวิว ซึ่งนับเป็นสถิติที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะในวันที่อัลกอริทึมเฟซบุ๊กคาดเดาได้ยากแม้จะเป็นนักการตลาดชั้นยอดก็ตาม

 

ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะสื่อต่างๆ ที่ให้ความสนใจกับการไลฟ์แบบถี่ๆ ของเสก โลโซ จนทำให้พฤติกรรมนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ เมื่อรู้ข่าว คนจำนวนมากจึงต้องการเข้ามา ‘ส่อง’ หรือลองติดตามด้วยตัวเองว่าการไลฟ์แต่ละครั้งของเสกมีเนื้อหาอะไรที่น่าสนใจบ้าง ยังไม่นับรวมการแชร์ออกไปบนหน้าฟีดที่รวมๆ แล้วเป็นหลักหมื่น ทำให้ไลฟ์แต่ละครั้งมียอดวิวสูงลิ่ว ทั้งๆ ที่เจ้าของไลฟ์ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าโชว์กิจวัตรประจำวันให้คนทั่วไปได้รับรู้เท่านั้น

 

 

ส่องคอมเมนต์ เผยพฤติกรรมคนดู

คงตอบได้ยากว่า 12 ล้านวิวในรอบ 3 วันเข้ามาดูไลฟ์ของเสก โลโซ เพราะอะไร อีกทั้งยังไม่มีเครื่องมือที่ชี้วัดได้ว่าแต่ละคนเข้ามาดูนานแค่ไหน บ่อยครั้งแค่ไหน แต่ที่พอจะสำรวจได้คือเนื้อหาในคอมเมนต์ซึ่งเกิดขึ้นจริงระหว่างการไลฟ์แต่ละครั้ง

 

จากการเลื่อนหน้าจอสำรวจดูในช่องคอมเมนต์ระหว่างการไลฟ์ของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ในไลฟ์ที่ใช้ชื่อว่า ‘จส.777 เขตปลอดแม้ว’ ที่มียอดวิวสูงลิ่วถึง 1.1 ล้านวิว มีคอมเมนต์มากกว่า 41,000 ความคิดเห็น อาจแบ่งกลุ่มความคิดเห็นคร่าวๆ ได้ดังนี้

 

 

มองเป็นไอดอล

‘เฮียเสกทำให้ผมโดนแฟนด่าว่าไม่หลับไม่นอน ดูอะไรนักหนา ผมเลยบอกว่า ไอดอลผมไม่นอน ผมก็ไม่นอนเหมือนกัน’

 

‘แม้พี่จะพูดจารุนแรงไปหน่อย แต่พูดจาเพราะกับผู้หญิง ชอบความสุภาพกับผู้หญิงของพี่มากครับ’

 

‘เครียดงานมาดูพี่แล้วสบายใจ พี่เป็นร็อกสตาร์เมืองไทย ใจสั่งมา’

 

 

ตักเตือน ให้กำลังใจ

‘พี่เสก พอเถอะครับ พี่ดีดกีตาร์ร้องเพลงดีกว่าครับ พี่เป็นคนมีฝีมือครับ’

 

‘ผมว่าพี่จับกีตาร์แบบนี้ดีกว่าพี่นั่งพูดไปทั่วให้คนด่าว่าบ้า นี่มันคืออาวุธของพี่ (กีตาร์) ไม่ใช่น้ำลายในปากพี่ อยากให้พี่เป็นแบบสมัยผมเด็กๆ อีกครั้ง’

 

‘เฮียครับ ด้วยความเคารพนะเฮีย เฮียลองเปิดใจเข้าพบจิตแพทย์ดูหน่อยครับเฮีย บางครั้งเฮียไม่ต้องมาแบกความหวังของประเทศไว้แบบนี้ก็ได้นะครับ ด้วยความเคารพครับเฮีย ปล่อยวางบ้างเถอะ’

 

 

ปกป้อง

‘ถ้าเล่นยาจริงสี่ห้าวันขนาดนี้ สภาพไม่เป็นแบบนี้หรอก จะซูบโทรม เป็นผีตายซาก แก้มตอบเป็นเขื่อนแล้ว แบบนี้สภาวะคับแค้นใจอะไรสักอย่างจนมีปัญหาในการควบคุมสติ ส่วนเรื่องการนอน คนอายุ 40 อัปไม่ได้ทำงานหนักอะไร นอนวันละสามสี่ชั่วโมงไม่เห็นแปลก’

 

‘เฮียเสกเป็นตัวเอง ไม่เสแสร้ง คนก็หาว่าบ้า สังคมดัดจริต’

 

ตั้งข้อสังเกต วิพากษ์วิจารณ์

‘น่าสงสารเสกมันนะครับ ญาติมิตรพี่น้องพ้องเพื่อนไม่มีใครรักเลย ปล่อยให้อาการไบโพลาร์เกิดขึ้นตลอด 3 วัน ไม่มีใครเอะใจพาไปหาหมอบ้างเลย คนรอบข้างไปไหนกันหมดวะ’

 

‘สำคัญตัวผิดไปหรือเปล่า คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ เยี่ยวไม่ต้องตรวจบ่อยหรอก ตรวจสมองบ้างดีกว่า’

 

‘ต้องควักออกมาให้ดูเลยนะครับว่าเป็นฉี่ตัวเองจริงๆ ถึงจะพอเชื่อ ไม่งั้นตรวจไปก็เท่าเก่าครับ จะให้ควักฉี่ให้ดูตามความเป็นจริงก็ทำไม่ได้ตรงนี้อยู่แล้ว’

 

‘ปิดตำนานร็อกเกอร์ เสก โลโซ ด้วยวัย 44 ปีบริบูรณ์ ผลมาจากการใช้ยาเสพติดเป็นเวลานาน แม้ว่าจะเลิกใช้แล้ว แต่สมองถูกทำลายจนหมด ความคิดความอ่านไม่ปกติ ทางการแพทย์เรียกว่าไบโพลาร์ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ‘บ้า’ นั่นเอง’

 

‘มาดูเอาฮา เอามัน แต่ขำไอ้พวกเข้ามาด่าพี่แกว่ะ ช่างแกเหอะนะ เชื่อดิ’

 

 

คอการเมือง

‘พี่เสกครับ พี่คงต้องเหนื่อยอีกนาน เพราะพวกนี้มันไม่เลิกเล่นการเมืองหรอกครับ เพราะการเมืองคือขุมทรัพย์ของคนพวกนี้’

 

‘ช่วยพูดเรื่องรัฐบาลทหารยังไม่จัดให้มีการเลือกตั้ง และมีการทุจริตมากมายแบบตรวจสอบไม่ได้ด้วยค่ะ เพื่อเป็นการช่วยชาติค่ะ อย่างน้อยลีน่าจังเขาแมนที่จะด่าทหารนะคะ’

 

‘เมื่อไรจะเลิกด่าทักษิณนี่ รู้แล้วว่าเขาเป็นยังไง แต่จะด่าอะไรเขานักหนา ด่ามาตลอดเลยเฮีย’

 

‘ด่ามันเลยพี่เสก เพราะไอ้แม้วมันทำให้พี่เสกถูกจับคาบ้านวันสิ้นปีเลยพี่’

 

‘ตอนนี้เสื้อแดงรวมตัวกันหน้าบ้านเฮียแล้วครับ เปิดประตูต้อนรับพวกเขาด้วยเฮีย’

 

ฝากร้าน ขอเงิน ขอความช่วยเหลือ

‘ลูกชายหนู ป่วยมะเร็ง ต้องการรับบริจาคเงิน แพมเพิร์ส (XXL) นม / กรุงไทย xxxxxxx บ้านเลขที่ xx ซ.xx โทร 084xxxxx’

 

‘ร้านหม้อน้ำศรีสะเกษ รับซ่อม-จำหน่ายหม้อน้ำท่อไอเสียปะถังน้ำมันงานเชื่อมเหล็กอะลูมิเนียมทองเหลืองทองแดง โทรเลย 086-xxxxxx’

 

‘พี่เสกเงินเยอะ คนจริง โอนเงินเข้าบัญชีให้แฟนคลับหน่อยพี่ ลำบากมากเลย’

 

‘วิตามินซีเข้มข้น ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ทักได้ค่ะ’

 

คอมเมนต์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าต่างคนต่างมาดูมหกรรมไลฟ์ของเสกด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ยังไม่นับรวมการแชร์ออกไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้อความในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม หรือบางส่วนก็มองเป็นมีมสร้างความบันเทิงรายวันโดยหยิบยกประเด็นที่เกิดขึ้นในคลิปไปสร้างประเด็นพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนๆ ของตัวเองต่อไป

 

 

ดูไลฟ์เสก เหมือนแอบดูคนข้างบ้าน

ในมุมมองของนักนิเทศศาสตร์ที่ติดตามปรากฏการณ์นี้ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าแม้คอนเทนต์ในไลฟ์ของเสก โลโซ จะไม่ได้มีเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ แต่ก็สามารถดึงดูดยอดวิวได้อย่างมหาศาล ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว

 

โดยเฉพาะเมื่อเสก โลโซ เข้าข่ายเป็นคนดัง แถมยังพูดพาดพิงถึงบุคคลที่สามซึ่งมีชื่อเสียงไม่แพ้กัน จึงทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว ต้องเข้าไปส่อง แม้หลายคนจะไม่ได้ติดตามดูยาวๆ แต่ก็พอจะเก็บประเด็นไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อในพื้นที่ส่วนตัวของตนเองได้

 

“คือคนดูส่วนใหญ่น่าจะเข้ามาดูเพราะความอยากรู้อยากเห็น เหมือนได้ไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนอื่นมากขึ้น จะว่าไปก็เหมือนกับการแอบดูคนข้างบ้าน ที่เขาเปิดให้เห็นวิถีชีวิตต่างๆ ในเชิงจิตวิทยามันอาจจะเป็นการดูเพื่อชดเชยอะไรบางอย่างของตัวเอง คือดูในเชิงเปรียบเทียบว่าเขาเป็นอย่างนั้น เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือเอาประเด็นของเขาไปวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งในทางกลับกันก็อาจจะสุ่มเสี่ยงในเรื่องของ Cyberbullying โดยเฉพาะถ้าเจ้าของไลฟ์เป็นคนที่มีอาการป่วย ซึ่งหลายคนไม่รู้หรอกว่าควรจะรับมือกับคนประเภทนี้อย่างไรให้เกิดความเหมาะสม สุดท้ายมันก็อาจจะมีผลกระทบตามมา

 

“มองอีกมุม การที่เสกไลฟ์แล้ววิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่สาม ก็อาจจะสุ่มเสี่ยงในการถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้เช่นเดียวกัน ที่ผมเป็นห่วงคือพฤติกรรมลอกเลียนแบบของเยาวชน ซึ่งต่อไปหากเขาไม่พอใจอะไรใคร ก็สามารถมาไลฟ์ด่าให้คนอื่นฟังได้เลย ดังนั้นสังคมควรเข้าใจว่ามันมีเรื่องของกฎหมาย และความเหมาะสมของสังคมกำกับอยู่ด้วย ไม่ใช่ว่าจะสามารถไลฟ์ทุกเรื่องได้ตามใจชอบ”

 

ดร.มานะ ยังมองว่าการที่สื่อมวลชนให้ความสนใจในประเด็นการไลฟ์ของเสก โลโซ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะมีประเด็นหลายอย่างให้หยิบยกไปพาดหัวข่าว แต่ถึงอย่างนั้นก็เชื่อว่ากระแสนี้คงเกิดขึ้นและดำรงอยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อมีเรื่องอื่นๆ แทรกเข้ามา สังคมก็คงไปสนใจเรื่องอื่นๆ ต่อ

 

You are what you watch

ด้านนายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ให้ความเห็นกับ THE STANDARD ว่าส่วนใหญ่คนที่ติดตามชมไลฟ์ของเสก โลโซ คงไม่ถึงขั้นมีอาการทางจิตแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เสก โลโซ ในฐานะบุคคลสาธารณะจะเป็นที่สนใจของสังคมอยู่แล้ว เมื่อคนไม่เฉลียวใจว่าเสกอาจจะป่วย ก็ไปติดตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นโดยขาดวิจารณญาณ

 

ซึ่งการติดตามเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมลักษณะนี้ อาจทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาคือ

 

หนึ่ง เราจะได้รับสิ่งที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ตามอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กที่แนะนำเนื้อหาสอดคล้องกันมาป้อนในหน้าฟีดของเราเรื่อยๆ

 

สอง เป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่โซเชียลมีเดียมีระบบการนับยอดวิว ไลก์ แชร์ ซึ่งเป็นเอไอที่ไม่มีวิจารณญาณ ดังนั้นจึงเป็นการให้คะแนนคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยที่หลายคนไม่เคยฉุกคิดมาก่อน

 

“ที่จริงก็ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ กรณีอื่นๆ ก็เหมือนกัน เช่น การใช้วาจาหยาบคาย ด่าทอคนอื่น พอเราไปติดตามเนื้อหาแบบนี้มากๆ เฟซบุ๊กมันก็จะส่งเนื้อหาลักษณะเดียวกันมาให้เราอีกเยอะ ซึ่งก็จะทำให้คุณภาพจิตเราในการรับรู้เรื่องต่างๆ เป็นไปในทางลบมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“เราคงเคยได้ยินคำว่า You are what you eat ตอนนี้คงต้องเติมไปด้วยว่า You are what you watch ถ้าเราเสพสื่อแบบไหน คุณภาพจิตเราก็จะเป็นไปอย่างนั้นมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีสภาวะจิตที่ดีก็ควรจะเสพแต่สิ่งที่ดี”

 

นายแพทย์ยงยุทธ ยังเตือนด้วยว่าหากเสพไลฟ์ลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการเสพติด คือเสพวันละหลายๆ ชั่วโมง จนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ และถึงขั้นเสียงานเสียการ เสียหน้าที่ในครอบครัว ซึ่งจะเป็นผลร้ายกับตัวเองในท้ายที่สุด

 

“ถ้าเมื่อไรที่เริ่มเสพวันละหลายๆ ชั่วโมง เริ่มเสียการควบคุมตัวเอง เสียหน้าที่ สามข้อนี้ถ้ารวมกันเรียกว่าการเสพติดสื่อ ปัจจุบันทางองค์การอนามัยโลกถือเป็นความป่วยทางจิตชนิดหนึ่งที่ต้องรักษา แสดงว่าเราทำตัวเราเองให้เข้าไปในพรมแดนของการเจ็บไข้ได้ป่วยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง”

 

‘ทำไมถึงต้องดู’ คงเป็นคำถามปลายเปิดต่อไป ตราบใดที่มหกรรมไลฟ์มาราธอนของเสก โลโซ ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็มีเหตุผลร้อยพันที่จะดึงความสนใจให้ผู้คนอยากคลิกเข้าไปดูสักครั้งสองครั้ง แต่มากกว่านั้นคือ ‘ดูแล้วได้อะไร’ ซึ่งคงไม่มีใครตอบได้นอกจากเหล่าคนดูจะมาช่วยกันตอบ

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising