ย้อนกลับไปราว 1 เดือนก่อนหน้า CHANEL ได้เขย่าวงการแฟชั่นและบิวตี้ครั้งใหญ่ด้วยการประกาศแต่งตั้ง Margot Robbie นักแสดงหญิงและไอคอนิกแห่งฮอลลีวูดขึ้นแท่นเฟซคนใหม่ของน้ำหอม N°5 ซึ่งเป็นน้ำหอมสุดคลาสสิกระดับตำนานที่ผู้คนทั่วโลกต่างก็หลงใหลและตกหลุมรัก
1 เดือนผ่านไป มาวันนี้ CHANEL ได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ล่าสุดออกมาอย่างยิ่งใหญ่และสง่างามสมการรอคอย เพื่อต้อนรับ Robbie ในฐานะเฟซคนใหม่ ผ่านแคมเปญและภาพยนตร์โฆษณาความยาว 2 นาที 20 วินาที See You at 5
ทำไมต้อง See You at 5
แคมเปญ See You at 5 คือความตั้งใจของ CHANEL ที่ต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นผู้หญิงที่สง่างามและน่าหลงใหล สามารถสะท้อนความเป็นตัวเองได้อย่างอิสระเสรี ไม่เกรงกลัวที่จะคิดนอกกรอบ ไร้ซึ่งสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคกดทับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเจตนารมณ์เดียวกันกับความตั้งใจที่ Gabrielle Chanel สตรีผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์ CHANEL ตัดสินใจเปิดตัวไลน์น้ำหอม N°5 ออกมาเมื่อปี 1921
See You at 5 เป็นภาพยนตร์โฆษณาความยาว 2 นาที 20 วินาที ผลงานกำกับโดย Luca Guadagnino ผู้กำกับภาพยนตร์มือรางวัลที่มีวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยม และเคยฝากผลงานเลื่องชื่อไว้กับ Call Me By Your Name (2017) นำแสดงโดย Robbie และ Jacob Elordi
ภาพยนตร์โฆษณาถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่นัดพบกับชายหนุ่มตอน 5 โมง โดยที่โฆษณาแสดงให้เห็นภาพที่ทั้งสองคนกำลังเดินทางไปหากันและกัน และการเดินทางนี้ก็เข้าใกล้กันเรื่อยๆ แต่แล้วภาพจากโดรนก็เฉลยในช่วงท้ายว่าทั้งสองนั้นต่างคลาดกันเสียแล้ว…โดยเผยให้เห็นเสน่ห์ที่เคลือบแฝงไปด้วยความทรงพลังของหญิงสาวอย่างน่าหลงใหลและน่าติดตาม
ทั้งวิธีการแสดงออกทางใบหน้า ดวงตา การขยับตัวในการทำกิจวัตรต่างๆ ภายในบ้านของเธอ เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปพบกับชายหนุ่มดังนัดหมาย โดยมีน้ำหอม N°5 เป็นเครื่องช่วยเสริมเสน่ห์และความมั่นใจของเธออย่างเด่นชัด ก่อนที่เธอจะปรากฏตัวในชุดสูทกระโปรงสีแดงที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดที่เคยสวมใส่โดย Carole Bouquet ในภาพยนตร์ Monuments (1986) เธอได้ขับรถเปิดประทุนเพื่อไปพบกับชายหนุ่มในเวลา 5 โมงตามที่นัดกันไว้
ขณะเดียวกันชายหนุ่มตัวเอกของเรื่องก็เร่งขับรถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปยัง Big Sur ในแคลิฟอร์เนีย ระหว่างทางเผยให้เห็นทัศนียภาพติดชายทะเลอันสวยงาม พร้อมแดดสีทองรำไรในยาม Golden Hour ที่ชวนให้หวนนึกถึงสีน้ำหอม N°5 อยู่เนืองๆ
อย่างไรก็ดี ภาพยนตร์โฆษณากลับเฉลยในช่วงท้ายว่าทั้งสองนั้นต่างเดินทางคลาดกันเสียแล้ว…ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มต่างออกเดินทางไปพบกับอีกฝ่ายที่บ้านของทั้งคู่ ที่สุดแล้วพวกเขาจึงคลาดและพลาดนัดกันอย่างน่าเสียดาย
กระนั้นก็ตามเมื่อทั้งคู่พบความจริงที่ว่าพวกเขาต่างคลาดนัดกันโดยไม่ตั้งใจ ตัวละครหญิงสาวที่นำแสดงโดย Robbie กลับยิ้มมุมปากก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
ในความเป็นจริงแล้วฉากนี้ตั้งใจจะสื่อให้เห็นว่าแทนที่หญิงสาวจะเลือกจมอยู่กับความเสียดายและความผิดหวัง เธอกลับมีมุมมองที่ต่างออกไป เนื่องด้วยมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เธอจึงไม่แคร์เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอเลือกที่จะเอ็นจอยและดื่มด่ำไปกับทุกช่วงเวลาที่ได้เผชิญหรือพานพบ เพราะเธอรู้ดีว่าความปรารถนาต่างหากคือสิ่งสำคัญที่สุด การรอคอยที่จะได้พบกันด้วยความคาดหวังนั้นโรแมนติกกว่าการได้พบกันเสียอีก และนั่นคือสิ่งที่ช่วยตอกย้ำว่า N°5 คือตัวแทนของความปรารถนาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์นั่นเอง
ซีนถัดมาเราจึงได้เห็นหญิงสาวกระโดดลงไปในน้ำด้วยชุดว่ายน้ำสีแดง พร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายหนุ่ม โดยสิ่งที่เราในฐานะคนดูสามารถรับรู้และสัมผัสได้ทันทีเมื่อเห็นซีนปิดนี้คือความเป็นอิสระเสรีของหญิงสาวในเรื่อง ที่ Robbie ได้แสดงออกให้เห็นผ่านการแสดงของเธอ
หญิงสาวดื่มด่ำกับอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเอง ได้รับการเติมเต็มด้วยความสุขของตัวเองในแบบที่ตัวเองอยากเป็น โดยปราศจากการต้องถูกตีกรอบข้อจำกัดหรือนิยามความสุขเหล่านั้นโดยใครหรือสิ่งอื่นใด
ก่อนที่ภาพยนตร์โฆษณาจะตัดจบให้เห็นว่าสายน้ำที่หญิงสาวผู้นี้กำลังแหวกว่ายอยู่นั้นแท้จริงแล้วก็คือน้ำหอมในขวดสีทองของ N°5 นั่นเอง!
เพราะการได้เป็นตัวของตัวเอง เฉิดฉายด้วยความมั่นใจด้วยอิสระเสรีในแบบ Femininity คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ CHANEL
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนในฐานะ THE STANDARD รู้สึกชื่นชอบและประทับใจเป็นอย่างมากคือเมสเสจของ CHANEL ที่เลือกจะสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณา See You at 5 เรื่องนี้
โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าหญิงสาวในภาพยนตร์โฆษณานี้มีทั้งแรงปรารถนาอันยิ่งใหญ่ การรอคอยที่จะได้พบกับคนรัก และการพลาดนัด พลังและเสน่ห์ของผู้หญิงที่เปิดรับทุกโอกาสความเป็นไปได้ของชีวิตอย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าที่สุดแล้วทุกสิ่งอาจไม่เป็นไปอย่างที่คิด แต่สำหรับเธอแล้วความเสี่ยงนั้นเย้ายวนเกินต้าน!
เพราะในท้ายที่สุดทุกๆ บทสรุปที่เกิดขึ้น เราจะได้เห็นเสน่ห์ที่เปี่ยมล้นของเธอ (ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้) ที่พร้อมจะเผชิญหน้าทุกเหตุการณ์อย่างไร้ซึ่งความกังขา และมีอิสระเสรีอยู่เสมอ
ประเด็นเดียวกันนี้คือความตั้งใจและวิสัยทัศน์ของ CHANEL เช่นกันในการสื่อสารผ่านไลน์น้ำหอมของพวกเขาที่มีต่อผู้หญิงทุกคน ในการสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนได้เป็นตัวของตัวเอง มีอิสระเสรี ปฏิเสธเสียงรบกวนและคำตัดสินจากภายนอก ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครหรือโลกทั้งใบมาเปิดรับเธอ แต่เป็นเธอเองที่กล้าจะลุกขึ้นมาสร้างเรื่องราว เส้นทางของตัวเองด้วยความมั่นใจ ความกล้าหาญ และทุกๆ ความเป็นไปได้ เพื่อที่ในท้ายที่สุดเธอจะได้เป็นตัวของตัวเองอย่างโดดเด่นและอิสระเสรี
“แด่ผู้หญิงทุกคนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง Femininity เหนือข้อเท็จจริงที่หลากหลายและซ้ำจำเจ อิสระที่แท้จริงนั้นรอให้คุณได้ค้นพบผ่านน้ำหอม N°5 ซึ่งนำเสนอแนวทางของคำตอบที่สร้างสรรค์ มีความสุขกับปัจจุบัน และลิ้มรสอิสรภาพในการได้เป็นตัวของเธอเอง ทั้งเติมเต็ม อ่านทางได้ยาก แต่กลับน่าจดจำเป็นที่สุด” ความบางส่วนที่ CHANEL กล่าวถึง N°5 และนิยามที่พวกเขาพยายามมุ่งผลักดันเพื่อผู้หญิงทุกคน
เป็นตัวของตัวเองและมั่นใจในความเป็นคุณ เพื่อเปิดรับทุกความเป็นไปได้ให้กับชีวิตกับน้ำหอม N°5