×

ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ เดินหน้าหนุน บจ.ไทย มุ่งสู่ Net Zero ตามเทรนด์โลก เผย 169 บจ. ตอบรับการจัดทำรายงานด้าน ESG แล้ว ก่อนการใช้จริงปีหน้า

11.10.2021
  • LOADING...
สำนักงาน ก.ล.ต.

สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมเวที Global Compact Network Thailand – (GCNT) Forum 2021 พร้อมสนับสนุนเอกชนไทยมุ่งสู่ Net Zero ตามเทรนด์โลก พร้อมเผย 169 บริษัทจดทะเบียน ตอบรับการจัดทำรายงานด้าน ESG ผ่าน One Report แล้ว ก่อนประกาศใช้จริงปี 2565

 

รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมงาน Global Compact Network Thailand – (GCNT) Forum 2021 และได้ขึ้นกล่าวในหัวข้อ ‘The Roles of the Securities and Exchange Commission, Thailand in Tackling Climate Change’ ว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับแรกของความเสี่ยงที่ World Economic Forum ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก 

 

ดังนั้นการตั้งเป้าหมาย Net Zero และ Sustainable Finance จึงเป็นแรงผลักดันอันสำคัญ และในฐานะหน่วยงานกำกับ ก.ล.ต. จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศที่เกื้อหนุนความยั่งยืนของตลาดทุนไทย

 

โดย ก.ล.ต. ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน และกำหนดให้ประเด็นความยั่งยืนเป็นเรือธงของแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. และจะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 

 

“ช่วงที่เกิดโควิดทำให้เห็นว่า การนำหลัก ESG มาใช้ดำเนินธุรกิจมีความสำคัญมากกว่าช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก และทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญ” 

 

ในการนำหลัก ESG มาใช้บูรณาการนั้น ก.ล.ต. กำหนดให้เป็นในรูปแบบ Tone form the Top โดยในเชิงปฏิบัติ ล่าสุด ก.ล.ต. ได้ยกระดับการเปิดเผยข้อมูล คือแบบรายงาน 56-1 One Report ซึ่งเน้นรายงานข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูล ESG การปล่อยก๊าซเรือนประจกและสิทธิมนุษยชน จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2565 เป็นต้นไป 

 

“ในโครงการ One Report มี บจ. ให้ความร่วมมือและเริ่มดำเนินการแบบสมัครใจไปแล้ว 169 บริษัท” 

 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังส่งเสริมและผลักดันการเงิน เพื่อความยั่งยืน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ และการลงทุนที่สนับสุนความยั่งยืนอีกด้วย 

 

ด้าน ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมสัมมนาบนเวทีเดียวกัน โดยกล่าวในหัวข้อ ‘The Roles of the Stock Exchange of Thailand in Tackling the Climate Change’ ว่า ในเดือนหน้าจะมีเหตุการณ์สำคัญคือ การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 หรือ COP26 ซึ่งจะส่งผลต่อการทำธุรกิจทั่วโลก เนื่องจากหลายบริษัทจะประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero และภาคธุรกิจไทยก็จะได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวเช่นกัน 

 

สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่เอกชนไทยมารวมกันประกาศเจตนารมณ์และเสนอทางออกที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งบริษัทจดทะเบียนที่ต้องการมุ่งเน้นการพัฒนาธุกิจเพื่อความยั่งยืน และภาคส่วนของนักลงทุน

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการส่งเสริม ESG หลายด้าน ประกอบด้วย

  

  1. ขับเคลื่อน ESG เป็นองค์ประกอบหลัก โดยพัฒนา Ecosystem ทั้งระบบ ครอบคลุมทั้งการให้ความรู้ อบรม รวมทั้งการพัฒนา ESG ดาต้าแพลตฟอร์ม และการเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เป็นต้น

 

  1. ส่งเสริมความรู้ด้าน ESG เชิงลึก และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ New Economy โดยการผ่อนปรนเกณฑ์หลักทรัพย์ 6 กลุ่มอุตสาหกรรม

 

  1. พัฒนาแพลตฟอร์ม​โครงการ Care the Bea, โครงการ Care the Whale และล่าสุด โครงการ Care the Wild ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะมาเป็นกลไกระดมทุนจากภาคเอกชน ช่วยการปลูกต้นไม้และติดตามการเติบโต ซึ่งตลาดหลักทรัพย์คาดหวังว่า โครงการนี้จะเป็นคาร์บอนซิงค์ให้ บจ. ไปถึงเป้าหมาย Net Zero ได้ 

 

  1. กำลังหารือเพื่อร่วมทำงานกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) หรือ TGO และสภาอุตสาหกรรม ในการจัดตั้งตลาด Carbon Credit ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่จะนำไปสู่การลดการใช้พลังงาน สร้างนวัตกรรมและอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยกลไกตลาด

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising