×

ก.ล.ต. จับมือ ตลท. ยกระดับตรวจจับ Naked Short Sell ลุยสอบทุกธุรกรรมแบบเรียลไทม์ หากพบผิดพร้อมฟัน

16.11.2023
  • LOADING...
ก.ล.ต. จับมือ ตลท. ตรวจจับ Naked Short Sell

ก.ล.ต. และ ตลท. เรียกความเชื่อมั่น ยืนยันตลาดหุ้นไทยไม่มี Naked Short Sell มีระบบตรวจสอบทุกธุรกรรม Short Sell หากพบผิดพร้อมฟัน พร้อมยกเพดานตรวจเข้มขึ้นกว่าเดิม

 

พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ว่า จากกรณีที่มีนักลงทุนบางกลุ่มตั้งข้อสงสัยมีนักลงทุนต่างชาติมีการทำธุรกรรม Short Sell ในตลาดหุ้นไทย โดยอ้างว่ามีฝากหุ้นไว้ในคัสโตเดียน (Custodian) ต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. แต่ในความเป็นจริงไม่ได้มีการถือหุ้นอยู่จริง ซึ่งจะเข้าข่ายการทำ Naked Short Sell ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย จึงมีความกังวลว่า ก.ล.ต. ไม่สามารถเอื้อมเข้าไปตรวจสอบความผิดดังกล่าวได้

 

ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ยืนยันและมีความมั่นใจว่ามีช่องทางสามารถดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวได้อย่างแน่นอน โดยการร่วมมือทำงานกับหน่วยงานภายนอกอื่นๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดำเนินงาน เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

 

“การตรวจสอบธุรกรรม Naked Short Sell ทั้ง ก.ล.ต. กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ด่านแรกหน้างานที่มีหน้าที่ตรวจสอบคือ ตลท. หากพบการ Short Sell ต้องตรวจสอบว่ามีหุ้นจริงหรือไม่ หรือมีว่าความผิดปกติของการซื้อขายก็ต้องตรวจสอบเช่นกัน หากพบความผิดจะส่งมาให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบแบบเชิงลึกต่อไป ในฐานะหน่วยกำกับมองว่า Naked Short Sell มีโอกาสจะเกิดขึ้น แต่หากเกิดต้องตรวจให้เจอและสามารถเอาผิดลงโทษได้ ซึ่งคงไม่ถึงต้องยกเลิก Short Sell เพราะเป็นเรื่องของนโยบายที่ต้องศึกษา”

 

สำนักงาน ก.ล.ต. กับ ตลท. มีแผนงานที่จะทำร่วมกันในการยกระดับมาตรฐานการกำกับตรวจสอบให้รวดเร็วและมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น แม้จากเดิมที่มีระบบตรวจสอบเป็นมาตรฐานสากลอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมามีการตรวจสอบทุกธุรกรรมของการ Short Sell เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการทำ Naked Short Sell ที่มีผลกระทบกดดันให้ตลาดหุ้นไทยเป็นขาลง

 

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นการ Empower ให้กับนักลงทุนตามเจตนารมณ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยปัจจุบันมีการเปิดข้อมูล Short Sell เป็นรายวันอยู่แล้ว อีกทั้ง ก.ล.ต. ได้ประสานกับ ตลท. เพื่อนำมาย่อยข้อมูลและเปิดเผยเพิ่มเติมเป็นสารสนเทศให้นักลงทุนได้รับทราบได้โดยง่าย

 

ส่วนข้อมูลการทำธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) มีข้อมูลกระจายอยู่หลายแหล่งจำนวนมากที่มีการนำมาเปิดอยู่ โดย ก.ล.ต. มีแนวคิดจะมีการหารือประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมและพิจารณาเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลรายสัปดาห์โดยส่วนนี้คาดว่าจะสามารถทำได้เร็ว

 

ตลท. ตรวจเข้ม Short Sell แบบเรียลไทม์

 

ด้าน ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ระบบการทำงานของ ตลท. ในการตรวจสอบ Short Sell ที่ทำผ่านโปรแกรมเทรด High Frequency Trading (HFT) ปัจจุบันมีการทำงานตรวจสอบทุกธุรกรรมเป็นรายวันและเป็นแบบเรียลไทม์ โดยที่ผ่านมาในปีนี้ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิด

 

ดังนั้นขอให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่า ตลท. มีระบบการตรวจสอบในเรื่อง Short Sell ที่ขั้นตอนการดำเนินการในการตรวจสอบเข้มงวด เช่น ธุรกรรม SBL ตลท. จะมีการสอบถามไปยังโบรกเกอร์ที่นักลงทุนยืมหุ้นเพื่อมาชอร์ตว่าได้ยืมถูกต้องหรือไม่ โดยให้ส่งเอกสารยืนยันมาก่อนที่จะมีการขายหุ้นออก เนื่องจากต้องการเห็นคำสั่งว่าเป็นการซื้อขายหุ้นปกติ หรือเป็นคำสั่งขายลักษณะการยืมหุ้นมาขายชอร์ต

 

ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบการกระทำผิดกรณี Naked Short Sell เกิดขึ้นก็จะสามารถตรวจจับความผิดที่เกิดขึ้นได้ทันที แต่จะมีกระบวนการดำเนินการตรวจสอบซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะสามารถลงโทษผู้กระทำความผิด โดย ตลท. จะเร่งผลักดันให้กระบวนการทำงานตรวจสอบมีความรวดเร็วมากขึ้น

 

อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนพบข้อมูลของธุรกรรมผิดปกติ หรือต้องการสอบถามข้อมูล สามารถสอบถามได้ผ่านคอลเซ็นเตอร์ของ ตลท. รวมถึงส่งข้อมูลผ่านสื่อมวลชนได้

 

อีกทั้ง ตลท. จะมีการพิจารณาเปิดข้อมูลการทำ Short Sell ของนักลงทุนเป็นรายกลุ่มเช่นเดียวกับการเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนรายกลุ่ม รวมถึงมีการรวมข้อมูลที่สำคัญไว้เป็นศูนย์ เช่น ข้อมูล SBL, Short Sell, NDVR เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปใช้ตรวจสอบข้อมูลได้สะดวกขึ้น

 

สำหรับกระแสข่าวที่มีนักลงทุนบางกลุ่มรวมตัวกันเพื่อหยุดเทรดในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เพื่อประท้วงแสดงความไม่พอใจการทำงานของ ตลท. ทั้งนี้ ตลท. ยืนยันว่ามีความตระหนักในปัจจัยต่างๆ ที่นักลงทุนมีความกังวลเช่นกัน โดยขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นในการทำงานของ ตลท. และ ก.ล.ต. ว่ามีนโยบายการทำงานร่วมกันที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมเพื่อให้นักลงทุนไม่ถูกเอาเปรียบได้

 

แจงทำงานบนหลัก CG Policy

 

ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับโครงสร้างของคณะกรรมการ (บอร์ด)  ตลท. เกี่ยวกับ Governance Structure ปัจจุบันองค์ประกอบของบอร์ดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้ให้มาจาก 2 กลุ่ม ดังนี้

 

  1. บุคคลที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. แต่งตั้งจำนวน 6 คน
  2. บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกจำนวน 4 คน ซึ่งแก้ไขให้ลดจาก 5 คน ตามกฎหมายกำหนดในปี 2562

 

โดยการทำงานของ ตลท. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ และนโยบายการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณ (CG Policy) โดยบอร์ดผู้ใดมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องที่พิจารณา (Conflict of Interest) จะต้องแจ้งการมีส่วนได้เสีย และไม่เข้าร่วมการพิจารณาในเรื่องนั้นๆ

 

ด้านการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ ตลท. โดยการดำเนินงาน Day to Day ได้มีการวางแผน และเป็นหน้าที่ของฝ่ายจัดการตลาดหลักทรัพย์ที่จะต้องดำเนินกิจกรรมต่อไป ไม่ได้มีการถูกให้นโยบายเพิ่มเติมจากคณะกรรมการใดๆ ทั้งสิ้น

 

นอกจากนี้ได้ดำเนินการจัดโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในตลาดทุนไทย ปัจจุบันมีการทำโรดโชว์ใน 3 รูปแบบ ดังนี้

 

  1. Inbound Roadshow หรือ Thailand Focus ทุกเดือนสิงหาคม
  2. งาน Outbound ที่ไปออกร่วมกับโบรกเกอร์ เช่น ลอนดอน, นิวยอร์ก, สิงคโปร์ และฮ่องกง
  3. ปี 2567 มีแผนโรดโชว์ในตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลางและออสเตรเลีย

 

รองประธานชี้ โครงสร้างบอร์ด ตลท. เหมาะสมแล้ว

 

พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง และรองประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะมีการปรับโครงสร้างบอร์ด ตลท. ว่าข่าวที่เกิดจะเป็นจริงหรือเปล่าต้องถามรัฐบาลว่าจะรื้อโครงสร้างบอร์ดหรือไม่

 

สำหรับสัดส่วนโครงสร้างบอร์ด ตลท.  ปัจจุบัน ส่วนตัวมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมแล้ว ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้เคยมีสัดส่วนของโบรกเกอร์ในบอร์ดตลาด 5 คน ซึ่งคนที่ 5 เดิมจะมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ก่อนลดมาเหลือ 4 คน เพราะมองว่าโบรกเกอร์เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงของ ตลท. อีกทั้งเป็นผู้เชื่อมต่อโดยตรงกับตลาดหุ้น เพราะฉะนั้นจึงสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนได้ดีที่สุด เพราะอยู่ใกล้กับนักลงทุนทุกวัน”

 

“จริงๆ ไม่ได้ Mind ถ้าจะมีคนอื่นเข้ามาร่วมบอร์ดด้วย เพราะโดยปกติแล้วสัดส่วนของ ก.ล.ต. อีก 6 คน จะมีการสรรหาคนที่มีความเหมาะสมจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น นักกฎหมาย นักบัญชี กองทุน ซึ่งความคิดที่อยากจะลดสัดส่วนตรงนี้เป็นเพราะอะไรยังไม่รู้”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X