สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีหนังสือให้บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (JKN) ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อมีมติยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกประชุมคณะกรรมการในบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจน พร้อมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบสารสนเทศฯ)
ตามที่ JKN ได้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศฯ แล้ว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เกี่ยวกับกรณีกรรมการไม่ได้รับหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่มีการพิจารณาวาระการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุที่ทำให้กรรมการบางรายของ JKN ลาออก รวมทั้งแจ้งว่า JKN ไม่ได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่กรรมการ เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วน โดยใช้วิธีเรียกประชุมผ่านทางโทรศัพท์นั้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการของบริษัทจดทะเบียน และมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกประชุมคณะกรรมการในบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจน ก.ล.ต. จึงมีหนังสือให้ JKN และผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศฯ ทั้งนี้ JKN ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยกรรมการบริษัทต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งรวมถึงการดูแลบริษัทให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และหาก ก.ล.ต. พบว่า JKN กรรมการบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมีการกระทำที่เข้าข่ายไม่เป็นไปตามกฎหมาย ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้กำชับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ JKN ทั้งสองราย ประกอบด้วยบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายสัญญาแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และข้อกำหนดสิทธิอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้เป็นศูนย์กลางในการสื่อสาร ให้คำแนะนำหรือตอบข้อสงสัยต่างๆ กับผู้ถือหุ้นกู้
ทั้งนี้ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ก.ล.ต. จะจัดให้มีบรรยายผ่านช่องทาง Facebook Live ‘สำนักงาน กลต.’ ในเรื่อง ‘กระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย และสิทธิของเจ้าหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย’ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการฟื้นฟูกิจการ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของตนและกระบวนการดังกล่าว