เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566 หรือ Bangkok Design Week 2023 ที่หลายคนตั้งตารอและจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 เพิ่งผ่านพ้นไป แน่นอนว่างานนี้ทำให้เราได้เห็นผลงานออกแบบสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในคอนเซปต์ ‘urban‘NICE’zation เมือง-มิตร-ดี’ อันหมายถึง การจัดการหรือออกแบบเมืองที่ดีย่อมทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกมีความสุขในชีวิตมากขึ้น ยิ่งเมื่อเมืองพัฒนาก้าวตามความเจริญของโลกไปเท่าไร การขยายตัวของประชากรและความเจริญต่างๆ กลับกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่เรียกร้องให้เหล่าคนเมืองต้องหาทางจัดการสร้างสมดุลให้ดีขึ้น และหนึ่งในงานที่ THE STANDARD คิดว่าเป็นโปรเจกต์ไฮไลต์ที่จะช่วยสร้างสีสันให้กรุงเทพฯ เป็น ‘เมือง-มิตร-ดี’ ขึ้นได้ก็คือ นิทรรศการ ‘Seatscape & Beyond Open Studio’ ซึ่งจัดขึ้นโดย วัน แบงค็อก (One Bangkok) และเราขออาสาเล่าเกี่ยวกับนิทรรศการดีๆ นี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน
ขับเคลื่อนกรุงเทพฯ ผ่านศิลปะและวัฒนธรรม หนึ่งในแนวคิดของโครงการ วัน แบงค็อก
วัน แบงค็อก (One Bangkok) ในฐานะผู้สนับสนุนด้านศิลปวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของไทย มุ่งมั่นสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด ‘Evolving Bangkok’ ยกระดับเมืองหลวงยุคใหม่ให้เติบโตอย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านการออกแบบเมืองที่ดีและเอื้อต่อวิถีชีวิตที่มีคุณภาพ พร้อมพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดีตั้งแต่ระดับย่านสู่เมืองให้เติบโตอย่างสมดุลไปพร้อมกัน
นิทรรศการ ‘Seatscape & Beyond Open Studio’ บริเวณลานหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก
ไฮไลต์ส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week 2023 จัดโดย วัน แบงค็อก
จัดแสดงผลงานจากการประกวดออกแบบที่นั่งสาธารณะ ร่วมสร้างความเป็น ‘เมือง-มิตร-ดี’ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์การให้ความสำคัญกับพื้นที่สาธารณะ (Public Realm)
วัน แบงค็อก พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘จักรวาลของชีวิตเมือง’ (Urbanverse) ซึ่งให้ความสำคัญต่อมิติการใช้ชีวิตที่หลากหลาย เชื่อมโยง ส่งเสริม ร่วมมือ และเติมเต็มศักยภาพให้กับย่านอื่นๆ ของกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของเมือง สร้างประโยชน์ให้กับผู้คนเกิดประสบการณ์ที่หลากหลายและรอบด้าน โดยหนึ่งในมิติของการใช้ชีวิตที่สำคัญคือ พื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพ (Public Realm) ที่สามารถเป็นได้ทั้งพื้นที่ใช้งานร่วมกันของผู้คนในสังคมเมือง สร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน หยุดพักจากความวุ่นวาย และส่งเสริมสุขภาพกายและใจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเชิงบวก
วัน แบงค็อก จึงเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันกรุงเทพฯ ให้เป็น ‘เมือง-มิตร-ดี’ ไปพร้อมๆ กับขับเคลื่อนเมืองด้วยความคิดสร้างสรรค์
‘เปิดสตูดิโอ’ ให้ผู้ร่วมเทศกาลได้มาสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาแบบที่นั่งสาธารณะ ผ่านทั้งภาพสเกตช์ แบบจำลอง หรือตัวอย่างวัสดุ พร้อมรับชมวิดีโอสารคดีที่บันทึกการเดินทางที่เกิดขึ้นตลอด 5 เดือนของการเข้าร่วมเวิร์กช็อปของเหล่าว่าที่นักออกแบบ
การเดินทางของ 10 ผลงานที่นั่งสาธารณะ จาก 10 ทีมผู้ชนะ สู่ 3 สุดยอดผลงานสร้างสรรค์ที่มีพัฒนาการโดดเด่นสูงสุด ซึ่งจะเติมสีสันให้กับกรุงเทพฯ
ความจริงแล้วนิทรรศการ ‘Seatscape & Beyond Open Studio’ ที่จัดขึ้นในงาน Bangkok Design Week ในปีนี้เริ่มต้นมาจาก โครงการประกวดงานออกแบบที่นั่งสาธารณะ One Bangkok Urban Furniture Competition 2022 “Seatscape & Beyond” ซึ่งดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว อันมีเป้าหมายที่จะบ่มเพาะนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ โดยผลงานเหล่านี้จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ วัน แบงค็อก เพื่อมอบประสบการณ์ในพื้นที่สาธารณะ สร้างสีสันให้กับชีวิตในทุกวันด้วยศิลปะและวัฒนธรรม (Colour the Everyday with Art & Culture) ยกระดับสุขภาวะและคุณภาพชีวิตให้กับคนเมือง ช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ชม
ทั้งนี้ วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของโครงการว่า วัน แบงค็อก ให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาเมืองยั่งยืน และสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเมืองไปข้างหน้า ด้วยการผลักดันงานศิลปะให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์แก่เมืองและชุมชน สร้างย่านธุรกิจชั้นนำอันเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญคือ พื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งมากกว่า 50 ไร่ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ทุกวัน
“วัน แบงค็อก ออกแบบพื้นที่สาธารณะภายในโครงการเป็นจุดพักผ่อนใจกลางเมืองและเป็นพื้นที่สันทนาการของเมือง พร้อมมอบประสบการณ์แห่งศิลปะและวัฒนธรรมผ่านผลงานศิลปะสาธารณะ ด้วยโปรแกรมทางศิลปะต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะทั่วโครงการ เพราะเรามุ่งหวังที่จะเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การเปิดโอกาสในการใช้งานศิลปะสาธารณะเป็นกระบอกเสียงเพื่อสื่อสารแนวคิดสำคัญที่ศิลปินมีต่อสังคม ด้านวัฒนธรรม การสะท้อนอัตลักษณ์และเรื่องราวของพื้นที่ และด้านเศรษฐกิจ การมีส่วนในการพัฒนาศิลปิน พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์” – วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก
ด้าน จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย หัวหน้าภัณฑารักษ์และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรมโครงการ วัน แบงค็อก กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาเมืองที่มีคุณภาพบนพื้นที่สาธารณะ และกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมของโครงการ วัน แบงค็อก ในงานเสวนาสาธารณะภายใต้หัวข้อ ‘Public Realm | Public Art | Public Culture’ ไว้อย่างน่าสนใจว่า เอกชนเองก็สามารถร่วมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเมือง โดยพัฒนาพื้นที่ของตัวเองให้มีคุณภาพ และเปิดพื้นที่ให้สาธารณชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นในพื้นที่ 108 ไร่ของ วัน แบงค็อก จึงออกแบบมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือกว่า 50 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งที่หลากหลาย มีความเป็นมิตรต่อการเดินเท้า ภายในโครงการสามารถที่จะเดินถึงกันโดยใช้เวลาเพียง 15 นาที เป็น Walkable District มีการออกแบบแลนด์สเคปให้เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้กว่า 60 ชนิด นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยโปรแกรมกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมบริเวณรอบๆ โครงการ
“การออกแบบเมืองที่ดีควรเอื้อต่อวิถีชีวิตคุณภาพและการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดีผ่านโปรแกรมทางศิลปะและวัฒนธรรม โครงการของ วัน แบงค็อก สร้างสีสันให้กับชีวิตของผู้คนในทุกวันด้วยศิลปะและวัฒนธรรม เราจึงได้ร่วมกับ THINKK Studio จัดนิทรรศการ ‘Seatscape & Beyond Open Studio’ นำเสนอคอลเล็กชันที่นั่งสาธารณะ ผลงานการออกแบบของผู้ชนะทั้ง 10 ทีมของโครงการประกวด One Bangkok Urban Furniture Competition 2022 “Seatscape & Beyond” ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสต้นแบบและเบื้องหลังการพัฒนาผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของทีมผู้ชนะทั้งหมด” – จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย’ หัวหน้าภัณฑารักษ์และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรมโครงการ วัน แบงค็อก
กว่าจะได้ผู้ชนะทั้งหมดของโครงการประกวด One Bangkok Urban Furniture Competition 2022 “Seatscape & Beyond” ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเฟ้นหาจากผู้เข้าประกวดหลายร้อยทีม โดยทุกทีมต้องตีโจทย์พฤติกรรมการนั่ง 4 รูปแบบของการประกวด ได้แก่ Sit to Gather, Sit to Linger, Sit to Play และ Sit to Transfer มาตีความจนเกิดเป็นผลงาน Urban Furniture เฟอร์นิเจอร์สาธารณะซึ่งสะท้อนแนวคิด “Seatscape & Beyond” เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่สาธารณะของ วัน แบงค็อก จนเฟ้นเหลือผู้ผ่านเข้ารอบจำนวน 20 ทีม นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ และคัดเหลือเพียง 10 ทีมสุดท้ายที่เป็นผู้ชนะ ที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมการเวิร์กช็อปกับผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาผลงาน จนผลลัพธ์ของกระบวนเหล่านั้นถูกนำมาจัดแสดงผลงานภายในนิทรรศการ ตั้งแต่เปิดรับสมัครกว่าจะมาถึงยังจุดนี้ต้องใช้เวลานานร่วมปี จนกระทั่งถึงงานกิจกรรมสาธารณะ ‘Seatscape & Beyond Presentation’ ที่เปิดเวทีให้ผู้ร่วมเทศกาลได้มาร่วมรับชมการนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายของทีมผู้ชนะทั้งหมด เพื่อเฟ้นหา 3 สุดยอดผลงานสร้างสรรค์ที่มีพัฒนาการดีที่สุด
พลอยพรรณ ธีรชัย และ เดชา อรรจนานันท์ นักออกแบบ และผู้ก่อตั้ง THINKK Studio ที่ปรึกษาของโครงการประกวดซึ่งทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของผู้เข้าแข่งขันตลอดมา ได้เผยถึงภาพรวมความโดดเด่นของทีมผู้ชนะทุกทีมว่า “น้องๆ ถือเป็นดีไซเนอร์คนรุ่นใหม่ที่เปิดกว้างทางความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ ในการนำเครื่องมือ เทคโนโลยีใหม่ๆ และแสวงหากลไกวิธีคิดที่บางครั้งคาดไม่ถึงเข้ามาช่วยในการพัฒนาแนวคิดในการออกแบบและกระบวนการคิดในการทำงาน รวมถึงกล้าที่จะใช้วัสดุแปลกใหม่เข้ามาใช้เป็นองค์ประกอบของเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างน่าชื่นชม”
พลอยพรรณ ธีรชัย และ เดชา อรรจนานันท์ นักออกแบบ และผู้ก่อตั้ง THINKK Studio ที่ปรึกษาของโครงการประกวด เล่าถึงกระบวนการพัฒนาผลงานออกแบบผู้ชนะทั้งหมด
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
“ในขั้นตอนของการเวิร์กช็อป เรามุ่งให้ความรู้ค่อนข้างละเอียดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนในการให้ความรู้ เพื่อให้ผู้ชนะทั้งหมดเข้าใจระบบและสามารถวางแผนการทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่การใช้วัสดุ คุณสมบัติหรือขนาดมาตรฐานของวัสดุ กระบวนการผลิต เรียนรู้ข้อจำกัดของการทำงาน เพื่อให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้จริง โดยยังคงคอนเซปต์งานออกแบบที่อยู่ในจินตนาการเอาไว้ได้”
นอกจากน้องๆ 7 ทีมผู้ชนะที่ได้รับรางวัล High Performance Award แล้ว
ยังมีทีมที่ได้รางวัลสูงสุด 3 อันดับ ซึ่งผลงานสร้างสรรค์ Urban Furniture ทั้งหมดนี้จะได้รับการผลิตและติดตั้ง เพื่อสร้างสีสันให้กับกรุงเทพฯ ในพื้นที่สาธารณะของ วัน แบงค็อก
หลังจากที่นักออกแบบรุ่นใหม่ได้พรีเซนต์งานในรอบสุดท้ายต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย ซึ่งประกอบด้วย วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก, สุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และผู้อำนวยการ eisa (Education Institute Support Activity) โครงการสนับสนุนการพัฒนาเยาวชนระดับอุดมศึกษา, วรรณพร พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด, ม.ล.ภาวินี สันติศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อโยธยาเทรด (93) จำกัด และผู้ก่อตั้งแบรนด์ AYODHYA, พิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย หัวหน้าภัณฑารักษ์และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม โครงการ วัน แบงค็อก และ เจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Media & Event Business บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ผลปรากฏว่าจาก 10 ทีม ผู้ชนะ 3 ทีมที่ได้รับรางวัล Best Performance Award ได้แก่
3rd Best Performance Award: RIBBON FLOW
โดยนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้แก่ ฐิฌาพร โลหุตางกูร, ณรงค์ฤทธิ์ รักไทย และ ณัฐวัฒน์ ปานนิยม
โจทย์: Sit to Gather
ทีม RIBBON FLOW
เฟอร์นิเจอร์สาธารณะจากวัสดุเหล็กท่อกลมปิดพื้นผิวด้วยสเตนเลส มีเป้าหมายในการเป็นแลนด์มาร์กให้กับพื้นที่ของโครงการ เชิญชวนผู้คนให้เข้ามานั่งพบปะ รวมตัว สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยค้นหาความเป็นไปได้จากรูปทรงพลิ้วของริบบิ้น เป็นสัญลักษณ์ในการเชื่อมโยงและให้ความหมายที่มากกว่าความงาม และยังใช้สีส้มเพื่อสื่อสารถึงความเบิกบาน ความใส่ใจ และมิตรภาพ รูปทรงของริบบิ้นนำมาใช้เป็นจุดตั้งต้นในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยมีการพัฒนาต้นแบบหลายสิบครั้งเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ในการบิดโค้งพลิ้วไปมาให้สวยงาม ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานได้จริง
2nd Best Performance Award: B3X
โดยนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แก่ พันธ์วิรา เงาประเสริฐ, ทัดตะวัน ทัศน์กระแส และ รัตนาภรณ์ เลิศวิบูลย์กิจ
โจทย์: Sit to Transfer
ทีม B3X
เฟอร์นิเจอร์สาธารณะโครงสร้างอะลูมิเนียม ปิดผิวด้วยไฟเบอร์กลาสบริเวณจุดรับ-ส่งผู้โดยสารรถสาธารณะของโครงการ ที่รองรับลักษณะการใช้งานแบบกึ่งนั่งกึ่งยืน ออกแบบให้เป็นประติมากรรมที่มีลวดลายและสีสันสดใส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาใช้งานภายในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ผลงานนี้พัฒนาผ่านการระดมความคิดของกลุ่มวัยรุ่น ด้วยการเก็บข้อมูลผ่านฟีเจอร์สตอรีในอินสตาแกรม เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ นํามาต่อยอดเป็นลวดลายของผลงาน 3 รูปแบบ ได้แก่ อิสระ ค้นหา และน่าตื่นเต้น ขยายให้เห็นมิติที่กว้างขึ้นของวัยรุ่นในปัจจุบัน
1st Best Performance Award: แด่เพื่อนที่ (ไม่) รู้จัก
โดยนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ กฤตธี วงศ์มณีโรจน์ และ วิภพ มโนปัญจสิริ
โจทย์: Sit to Gather
ทีม แด่เพื่อนที่ (ไม่) รู้จัก
ด้วยแนวคิดในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและพื้นที่เข้าด้วยกัน ผ่านเก้าอี้นั่งที่มีระดับ ความแตกต่างของความใกล้ชิด ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการนั่งที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรอ พูดคุย ไปจนถึงการนั่งรวมตัวของคนกลุ่มใหญ่ในการทํากิจกรรมต่างๆ เพื่อเติมเต็มความหมายให้กับพื้นที่ภายในโครงการ การพัฒนาผลงานนี้เพิ่มบทบาทของเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารและพื้นที่ภายนอกได้กลายมาเป็นรูปแบบของเก้าอี้ 3 ชิ้น ที่นําองค์ประกอบพื้นฐานอย่างจุด เส้น และระนาบ มาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาเมื่อเผชิญข้อจํากัดทางพื้นที่ โดยยังคงรองรับอิริยาบถการนั่งในทุกรูปแบบ
นิทรรศการ ‘Seatscape & Beyond Open Studio’ ที่จัดแสดงทั้ง 10 ผลงานบทสรุปของการประกวด One Bangkok Urban Furniture Competition 2022 “Seatscape & Beyond” ผลงานทั้งหมดนี้จะได้รับการผลิตและติดตั้งจริงในพื้นที่สาธารณะของโครงการ จากความมุ่งมั่นดังกล่าว จึงเห็นได้ชัดเจนว่า วัน แบงค็อก จะกลายเป็นแหล่งรวมโปรแกรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างสีสันให้กับชีวิตในทุกวันของทุกคน ผ่านทั้งพื้นที่ที่เชื่อมโยงผลงานศิลปะสาธารณะ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็น Art Loop ที่สมบูรณ์ได้อย่างน่าจับตามอง