จะเกิดอะไรขึ้นหากทักษะเดิมที่มีกำลังจะไร้ความหมาย และชุดทักษะใหม่ที่จำเป็นต้องมีในโลกยุคใหม่ก็เพิ่มมากขึ้น
ช่วงปีที่ผ่านมา องค์กรมากมายรวมถึงกลุ่มคนที่มองเห็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ให้ความสำคัญกับการ Upskill-Reskill อย่างมาก ส่งผลให้องค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะต่างๆ ได้รับความนิยมเช่นกัน
SEAC (ซีแอค) หนึ่งในองค์กรที่ยกระดับชีวิตคนไทยผ่านการเรียนรู้ตลอด 30 ปี ช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้คนไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคน ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ ประกาศเป้าหมายใหญ่ที่จะอัปสกิลคนไทยมากกว่า 1 ล้านคน ภายใน 3 ปี พร้อมกางแผนยุทธศาสตร์ติดอาวุธด้วยชุดทักษะใหม่ให้คน 8 กลุ่ม ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVES THROUGH LEARNING
ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ด้วยการเรียนรู้ คนจะเลือกใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เดินต่อไปได้ไกลขึ้น และมีอนาคตที่สดใสมากขึ้น’ เป้าประสงค์ของการเติมทักษะให้กับคนไทยของซีแอค ใช่เพียงเพื่อสร้างคนที่พร้อมรบในสนามการทำงานเท่านั้น แต่มุ่งหวังให้ทุกคนนำทักษะต่างๆ ไปปรับใช้ในชีวิต เพื่อเติมเต็มทุกเป้าหมายและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC ย้ำถึงเจตนารมณ์ของซีแอคที่ต้องการมีส่วนสร้างสังคมดีๆ ให้กับประเทศ โดยเฉพาะช่วงสองปีที่ผ่านมา คนไทยต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในฐานะองค์กรที่ผลักดันและช่วยเหลือให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและเปลี่ยนแปลงองค์กรและคน ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ จนถึงองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ จึงไม่หยุดส่งต่อ ‘โอกาส’ ให้กับผู้คนอีกมากมาย
ด้วยวิสัยทัศน์ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม และเครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสร้างผลลัพธ์ได้จริง ตลอดจนผสานการเรียนรู้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เรียกว่า Truly-EdTech เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในหลายมิติ รวมถึงการที่ซีแอคมีพันธมิตรที่เป็นสถาบันการศึกษาชื่อดังระดับโลก กลายเป็นองค์ประกอบชั้นเลิศที่ช่วยเสริมศักยภาพคนไทยในการพัฒนาทุกทักษะที่ต้องการ
การเรียนรู้สามารถ ‘Empower’ ชีวิตผู้คนได้อย่างไร
การมอบโอกาสให้กับผู้คนด้วยทักษะการเรียนรู้ จะสามารถยกระดับชีวิตคนไทยได้อย่างไร ซีแอคจึงนำตัวอย่างความสำเร็จมาให้ทุกคนได้เห็นภาพ อาทิ การเข้าไปมีส่วนเสริมทักษะให้กับกลุ่มนักศึกษาพิการกว่า 50 คน ร่วมกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม จนสร้าง Growth Mindset ให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเองและสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ จนสามารถก้าวข้ามความท้าทายและความเชื่อเดิมๆ สู่การได้รับโอกาสจ้างงานในตลาดแรงงาน
ช่วงปีที่ผ่านมา การเรียนออนไลน์เป็นความท้าทายของผู้สอนไม่ต่างจากผู้เรียน ซีแอคมีโอกาสเข้าไปทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี โดยจัดอบรมทักษะที่จำเป็นให้กับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยฯ จนสามารถพลิกโฉมการสอนของอาจารย์ ตั้งแต่การเตรียมการสอน รูปแบบการสอน และวิธีติดตาม วัดผล และเปิดมิติใหม่ให้กับห้องเรียนออนไลน์แบบสอนสดได้ กลายเป็นการเรียนที่สนุกและชวนติดตาม
อีกทั้ง ซีแอคได้นำ Outward Mindset ไปช่วยพัฒนาแนวคิดและองค์ความรู้ให้กับข้าราชการจังหวัดสระบุรีกว่า 50 คน ผ่านโครงการ Hi-Pro Saraburi 4.0 เน้นทักษะการสื่อสารที่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างตรงจุด จนนำไปสู่การสร้างโมเดลจังหวัดต้นแบบ 4.0 และคว้ารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 ประจำปี พ.ศ. 2564 ได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ซีแอคยังได้มีโอกาสเข้าไปช่วยสร้างมุมมองการทำงานใหม่ให้กับผู้นำบริหารในองค์กรต่างๆ ด้วยแนวคิด Outward Mindset จนสามารถทำให้ผู้บริหารเปลี่ยนมุมจาก ‘ให้ได้งาน…ต้องบี้คน’ สู่ ‘งานกับคน ต้องหมุนไปด้วยกัน’ นำพาความสำเร็จให้หลากหลายองค์กร และยังมีอีกหลายองค์กรชั้นนำที่เปิดโอกาสให้ซีแอคมีส่วนช่วยติดอาวุธทักษะที่จำเป็นในการวางกลยุทธ์ในเกมที่ยังมองไม่เห็นทิศทางที่ชัดเจน รวมถึงการกำหนดรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ให้กับคนในองค์กร จนทำให้ทีมสามารถปรับใช้วางแผนกลยุทธ์ได้สำเร็จ
ทิศทางต่อไปของ SEAC ปี 2565
อริญญายังแสดงวิสัยทัศน์พร้อมประกาศเป้าหมายใหม่ ยกระดับศักยภาพคนและองค์กรผ่านการเรียนรู้ และการสร้างอิมแพ็กให้เกิดขึ้นจริง ทั้งในระดับสังคมและระดับประเทศ “ซีแอคพยายามเข้าถึงคนทุกกลุ่มเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ผ่านการออกแบบหลักสูตร โดยมีเป้าหมายเพิ่มอีก 1 ล้านชีวิต ภายในปี 2025 และให้เกิดอีก 1 แสนเรื่องราวดีๆ จากการเรียนรู้ ทั้งในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ อาจารย์ พนักงานภาครัฐ พนักงานเอกชน เจ้าของกิจการ หัวหน้างาน ผู้จัดการ ผู้บริหารงาน ซึ่งการเรียนรู้ต้องสนุก ผ่านการถ่ายทอดจากผู้เชี่ยวชาญไปสู่ผู้เรียน และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้จากหลักสูตรคุณภาพที่ได้มาตรฐานชั้นนำระดับโลก”
แต่การขยายผลให้เกิดขึ้นจริง อริญญายังบอกด้วยว่า จำเป็นต้องต่อสู้กับความเชื่อที่ว่า ‘การเรียนรู้เป็นเรื่องน่าเบื่อ’ ซีแอคจึงออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยส่วนผสมการเรียนรู้ที่เหมาะกับคนในยุคนี้ ทำให้ผู้เรียนอยากเรียนและเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนผสม 5 องค์ประกอบ คือ
- Design การออกแบบประสบการณ์และหลักสูตรที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้เรียนและองค์กรธุรกิจบนบริบทของสังคมไทย
- Technology เทคโนโลยีที่ทำให้การมีส่วนร่วมในหลักสูตรเป็นเรื่องง่าย ทำให้ผู้เรียนสนุก อยากเรียน และเรียนได้อย่างต่อเนื่อง
- Experienced Trainers ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและรู้วิธีการถ่ายทอดความรู้อย่างมีพลัง
- Learning Community สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่มีคนหลากหลายความเชี่ยวชาญ ต่างอาชีพ ต่างวัย
- Global Content นำเนื้อหาคุณภาพ หลักสูตรจากสถาบันชั้นนำระดับโลกมาใช้
นอกจากนั้นยังวางแผนจะนำ 5 ประสบการณ์การเรียนรู้และหลักสูตรคุณภาพ ไปช่วยสร้างโอกาสกับคน 8 กลุ่ม นิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล Product Director, YourNextU by SEAC กล่าวว่า “ปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจและทักษะที่จำเป็นในการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็วมาก การใช้ชุดความรู้เดิมและแนวทางการทำงานแบบเดิมอาจไม่ได้ผลเหมือนเดิมอีกต่อไป เรามองเห็นช่องว่างและความท้าทายของการพัฒนาชุดทักษะใหม่ๆ ของคนหลายกลุ่ม ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง”
4 กลุ่มที่ต้องรีบ ‘Reskill-Upskill’ ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง
กลุ่มเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ (Young Generation Students) การพึ่งพาระบบการศึกษาหลักเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ทันการณ์ ซีแอคจึงนำ ‘ชุดทักษะวิชาชีวิต’ ที่จำเป็นและไม่มีสอนในรั้วโรงเรียน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตและวิธีคิดที่จำเป็น ประกอบไปด้วย Life Skills และ Future Work Skill หลักสูตรจากมหาวิทยาลัยและพันธมิตรชั้นนำจากต่างประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ สหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างเด็กไทยและประเทศให้พร้อมแข่งขันในโลกอนาคต
กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดแรงงาน (New Generation Workforce) โดยเฉพาะกลุ่มคนที่จบการศึกษาในจังหวะที่โลกประสบปัญหาวิกฤตโควิด-19 เมื่อความรู้ที่ได้เรียนในเชิงวิชาการจากสถาบันการศึกษาไม่พอสำหรับโลกการทำงานในยุคปัจจุบัน ซีแอคจึงเน้นเรื่อง ‘ชุดทักษะจำเป็นในโลกการทำงานสมัยใหม่’ คัดมาแล้วทั้ง Certificate จากต่างประเทศแบบเข้มข้น และ Short-Course เพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพ และช่วยผลักดันองค์กรให้เป็น High Performance Organization ในอนาคต
กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (Entrepreneurs & SMEs) เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจและยังเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซีแอคจะเข้ามามีส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและย่อมสามารถปรับตัวได้เร็ว ลุกได้เร็ว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและรูปแบบธุรกิจสมัยใหม่ ด้วยหลักสูตรระดับโลกที่ทำการย่อยมาแล้วให้เข้าใจง่าย สั้น กระชับ และได้มาตรฐานสากลระดับโลก อีกทั้งยังสร้างคอมมูนิตี้เพื่อให้ SMEs มีเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ มีทักษะการบริหารคนและธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดด
กลุ่มคนที่กำลังมองหาการเติบโตในสายอาชีพที่มั่นคง (Career Transitioning Employees) คนวัยทำงานไม่น้อยที่กำลังเตรียมตัวเองให้พร้อมกับบทบาทใหม่ในชีวิต ทั้งอาชีพใหม่หรือการก้าวหน้าในตำแหน่งที่สูงขึ้น เมื่ออิงข้อมูลจาก World Economic Forum คาดการณ์ว่า 2-3 ปีข้างหน้า ทุกสาขาอาชีพจะมีชุดทักษะประมาณ 40% ที่จำเป็นต้องอัปเกรด การอัปสกิลรีสกิลจึงเป็นโจทย์รวมของคนวัยทำงานในปีนี้ ซีแอคจึงนำ ‘ชุดทักษะสำหรับกลุ่มงานสมัยใหม่’ โดยคัดสรรหลักสูตรและร่วมออกแบบกับผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ อาทิ SimpliLearn ในการออกแบบทักษะงานที่เหมาะกับโลกการทำงานในยุคนี้ได้อย่างตรงจุด
ด้าน บุญชัย พงศ์รุ่งทรัพย์ Product Director, SEAC อธิบายเพิ่มเติมถึง 4 กลุ่มคนในองค์กรที่ต้องปรับเพื่อเปลี่ยนให้ทันการเปลี่ยนแปลง พร้อมชี้ให้เห็นว่า “ต่อจากนี้ องค์กรทุกขนาดกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าการทรานฟอร์มองค์กร แต่จะเป็นการทรานฟอร์มในวิธีคิด ทักษะและรูปแบบการทำงานของบุคลากรทุกระดับในองค์กร เพื่อยกระดับความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ให้สามารถเดินหน้าสร้างผลลัพธ์แห่งความสำเร็จขององค์กร”
4 กลุ่มคนในองค์กรที่ต้องปรับเพื่อเปลี่ยนให้ทันความเปลี่ยนแปลง
ผู้นำทุกระดับขององค์กร (Leaders at All Levels) ผลสำรวจเผยว่า 54% ของผู้นำทั่วโลก ใช้รูปแบบเดียวในการนำทีม แม้จะต่างคน ต่างสถานการณ์ และ 50% ของผู้นำ ใช้รูปแบบการนำทีมที่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกน้อง ซีแอคจึงสรรหา ‘ชุดพัฒนาภาวะผู้นำ’ สำหรับผู้นำทุกคนที่มีลูกน้อง ซึ่งพิสูจน์มาแล้วกว่า 30 ปี จากสถาบันที่เชี่ยวชาญการพัฒนาภาวะผู้นำระดับโลกอย่าง The Ken Blanchard Companies โดยซีแอคเป็นตัวแทนเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย
กลุ่มคนที่มีความสามารถและมีความสำคัญขององค์กร (Talent) ปกติแล้วนั้นในหนึ่งองค์กรจะมี Talent เพียง 10-15% แต่กลับสร้างผลลัพธ์ให้กับองค์กรมากถึง 80% เท่ากับว่า หากองค์กรเร่งพัฒนาทักษะได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว จะช่วยให้องค์กรปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ทัน และผลักดันธุรกิจไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก ซีแอคนำ ‘ชุดพัฒนาทักษะสำหรับ Talent’ ซึ่งได้รับการออกแบบเฉพาะด้วยวิธีการที่หลากหลายตามระดับมาตรฐานสากล
กลุ่มผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กร (Changemaker) การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทำให้องค์กรต้องเร่งหานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไว สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับองค์กรและประเทศ ซีแอคเลือก ‘ชุดหลักสูตรสำหรับการพลิกโฉมองค์กร’ โดยผนึกพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำของโลกอย่าง J2N Global ออกแบบทักษะที่ได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้จริง ไปจนถึงวิธีคิดของคน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ เรื่อง
ผู้บริหารองค์กรทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน (Top Executives) พายุ Disruption ถาโถมใส่ทุกองค์กร จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงต้องหาวิธีตั้งรับด้วยเครื่องมือใหม่ๆ ซีแอคสรรหา ‘หลักสูตรสำหรับผู้บริหารองค์กร’ ผ่านการคัดกรองและออกแบบร่วมกับสถาบันชั้นนำระดับโลก อาทิ Michigan’s Ross School of Business, Stanford Center for Professional Development และ IMD เป็นต้น เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องมือบริหารองค์กรและบริหารคนที่เฉียบคม เป็นอีกหนึ่งกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ชุดทักษะที่คนวัยทำงานต้องรู้ในปี 2565
ส่วนประเด็นที่หลายคนอยากรู้คือ ชุดทักษะที่คนวัยทำงานต้องรู้ในปี 2565 คืออะไร? นิภัทราแบ่งเป็น 2 หมวดหลัก ได้แก่ หมวดทักษะ Digital Skill หรือชุดทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำ Digital Commerce ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Digital Marketing การทำ E-Commerce และ หมวดกลุ่มทักษะ Soft Skills โดยเฉพาะทักษะการแก้ปัญหาในลักษณะ Complex Problem Solving และทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยเน้นไปที่การสื่อสารให้เกิดการมีส่วนร่วมและการเปลี่ยนแปลง สุดท้ายคือทักษะภาวะผู้นำในตัวเอง (Self-Leadership) เพื่อนำตัวเองไปสู่โอกาสใหม่ได้ทันที
อริญญายังกล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกเหนือจากหลักสูตรมากมายที่มีเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คนไทยอัปสกิลได้อย่างทั่วถึงแล้ว ซีแอคมีห้องเรียนเสมือนจริงบนออนไลน์ ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ รวมถึงมีพันธมิตรที่ครอบคลุมหลายจังหวัด ในหลากหลายประเทศ และการมองหาเทคโนโลยีที่หลากหลายเพื่อส่งต่อโอกาสให้กับคนทุกกลุ่ม เพราะเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับความรู้ความสามารถคนไทย สร้าง ‘โอกาส’ ให้คนไทยสามารถเลือกใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เดินต่อไปได้ไกลขึ้น มีอนาคตที่สดใสและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม ภายใต้วิสัยทัศน์ Empower Lives Through Learning”