×

โฆษก ศธ. ชี้แจง ไม่ห้ามโรงเรียนแจก ‘0, ร, มส’ นักเรียน แต่ต้องเร่งแก้ ห้ามข้ามเทอม

โดย THE STANDARD TEAM
10.01.2024
  • LOADING...

วันนี้ (10 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงกรณีมีผู้อำนวยการโรงเรียน อ้างคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ห้ามนักเรียนมีผลการเรียนไม่สมบูรณ์ (ติด 0, ร, มส) และให้เกรด 1 ทุกคนนั้น

 

โฆษกกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำหนังสือซักซ้อมความเข้าใจไปยังผู้บริหารสถานศึกษา ในเรื่องการติดตามให้เกรดติด 0, ร และ มส กับนักเรียน ซึ่งเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้บริหารสถานศึกษา ยืนยันว่านโยบายของกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่ว่าห้ามให้เกรด 0, ร และ มส กับนักเรียน ยังคงมีเหมือนเดิม เพราะการให้เกรดดังกล่าวถือว่าเป็นการให้นักเรียนให้ความสำคัญกับการเรียน ร่วมกิจกรรม ทำการศึกษาระหว่างภาคเรียน มากกว่าการวัดคะแนนสอบ

 

ส่วนการซักซ้อมความเข้าใจการให้เกรด 0, ร และ มส ที่ สพฐ. แจ้งไปก่อนหน้านี้ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาเร่งติดตาม อย่าให้เด็กติด 0, ร และ มส นานเกินไป ต้องเร่งแก้ให้เสร็จภายในปีการศึกษานั้นๆ เช่น เกณฑ์การให้ มส เด็กไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนต้องมีขั้นตอนในการแก้ เพราะปัญหาที่ผ่านมาคือผู้บริหารสถานศึกษาบางแห่งปล่อยหรือดองเอาไว้ จนเด็กติด 0, ร และ มส ข้ามปี ข้ามเทอม ซึ่งคนที่เสียโอกาสก็คือเด็ก

 

“ปัจจุบันเกณฑ์ของ สพฐ. จะให้ความสำคัญระหว่างการเรียนมากกว่าการสอบกลางภาคและปลายภาคกลาง โดยมีสัดส่วน 60:40 และ 70:30 หรือ 80:20 ขอยืนยันในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ การให้เกรด 0 ,ร และ มส ให้ได้ แต่สิ่งที่กำชับคือขอให้เร่งดำเนินการอย่าให้ข้ามเทอม เพราะจะเป็นภาระกับเด็กและผู้ปกครอง” สิริพงศ์กล่าว

 

เมื่อถามว่าเป็นการมอบนโยบายหรือออกเป็นคำสั่ง สิริพงศ์กล่าวว่า เป็นการซักซ้อมความเข้าใจ ซึ่งในหนังสือเขียนไว้ชัดเจน เพื่อให้เตรียมการก่อนที่จะมีการปิดภาคเรียน ควรแก้ให้เสร็จ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสดังกล่าวเกิดจากสื่อออนไลน์แสดงความคิดเห็นว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 นักเรียนไม่ต้องเข้าเรียน ไม่ส่งงาน ขอแค่มีตัวตน หากมาวันสอบแต่ไม่ส่งงานเลยก็ต้องตัดเกรด 1 ให้นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเข้าใจผิดให้แก่สังคม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising