ตุลาคมแรกของเดือน ประเทศต้องอยู่ท่ามกลางความเศร้าสลด จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามจากจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีครูและนักเรียนเสียชีวิตทั้งสิ้น 23 ราย ที่บริเวณหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีฝ่ายรัฐบาล ทุกคนต่างทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชน เพื่อร่วมกันพิจารณาศึกษาแนวทาง เสนอความคิดเห็น และยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการเกิดเหตุกรณีรถบัสทัศนศึกษา และหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส. จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร
‘เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์’ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้เปิดญัตติ กล่าวอภิปรายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเองในนามตัวแทนประชาชน และในนามของครอบครัวผู้สูญเสียจังหวัดอุทัยธานี ขอขอบคุณทุกหน่วยงานเข้าไปช่วยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
เจเศรษฐ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกคนพูดถึงเรื่องควรจะยกเลิกการทัศนศึกษา สิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันคิดว่า การไปทัศนศึกษาเป็นความผิดหรือไม่ ถึงขั้นต้องยกเลิกการไปทัศนศึกษาหรือไม่ ความผิด ความบกพร่องที่เกิดขึ้นอยู่ที่กระบวนการทัศนศึกษาหรืออยู่ที่รถ วันนี้เรามีน้องๆ ที่เดินทางมาทัศนศึกษา เพื่อที่จะตั้งใจที่เรียนรู้ ตั้งใจมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในที่ที่บ้านเขาไม่มี มาในที่ที่เขาใฝ่ฝัน มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด พร้อมที่จะกลับไปบอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอให้ผู้ปกครองฟัง แต่ขณะนี้ยังมีน้องๆ และครูที่ยังไม่ได้เดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองได้เห็นสภาพที่ครูมือลวกไฟไหม้จากการช่วยเด็ก แต่ยังนั่งลงแล้วบ่นโทษตัวเองว่ายังทำได้ไม่มากพอ ยังทำได้ไม่ดีพอ ได้เห็นพี่ชายที่ไม่สามารถดูแลน้อง ไม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ เฝ้าโทษตัวเองว่าเขาไม่สามารถดูแลน้องได้ ตนต้องเห็นพ่อแม่ผู้เสียชีวิตเดินแล้วเอ่ยชื่อของลูกตัวเองเพื่อสอบถาม เพราะอยากได้ยินว่าลูกของเขาไม่ได้อยู่บนรถคันนั้นหรือลูกเขาลงจากรถได้
“ญาติผู้เสียชีวิตไม่ใช่แค่คนอุทัยธานีหรือประชาชนคนไทยเพียงอย่างเดียว แต่คนทุกคนที่เป็นมนุษย์เมื่อรับรู้เรื่องราวนี้ล้วนเศร้า วันนี้พวกเรากำลังจะร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้รัฐบาลรวบรวมเพื่อออกมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม วันนี้พวกเราไม่ขอให้เป็นบทเรียนหรือไม่ให้ใครมาถอดบทเรียนแล้ว เพราะมีการวนลูปซ้ำๆ หลายเหตุการณ์เกินไป แต่ขอให้เป็นการเรียนรู้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดการตื่นตระหนัก เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงมาตรการที่จะมาป้องกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันระดมความคิด แล้วเอาประสบการณ์มาสู่การแก้ไขอย่างจริงจัง”
เจเศรษฐ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยการสดุดีครูทั้ง 3 ท่านที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะสืบทอดเจตนารมณ์ของครูที่พลีกายพร้อมปกป้องชีวิตน้องๆ นักเรียน
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน
แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร
ทนายแจมเสนอ ทบทวนมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะทั้งระบบ
ขณะที่ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอชื่นชมการจัดการวิกฤตของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเจ็บปวดร่วมกันของทุกคน การอภิปรายวันนี้ไม่ได้เป็นการมาหาคนผิดหรือติติง แต่เพื่อหาทางออกร่วมกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ต้องเผชิญเหตุการณ์และถอดบทเรียนแบบนี้ซ้ำๆ อีก พร้อมข้อเสนอแผนและแนวทางการป้องกันและเผชิญเหตุ 4 ประเด็น
1. มาตรฐานรถโดยสารสาธารณะ ไม่ใช่แค่กรณีรถนักเรียนเท่านั้น ประเทศไทยมีกฎเกณฑ์ตามกฎหมายที่ควบคุมคุณภาพรถที่วิ่งบนท้องถนน โดยเกณฑ์ระบุว่า ต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ครบถ้วน ได้แก่ ประตูฉุกเฉินที่ต้องอยู่ด้านขวาและสามารถเปิดได้จากทั้งภายในและภายนอก, เครื่องดับเพลิงที่สามารถใช้การได้ตลอดเวลา, อุปกรณ์ทุบกระจก และยังมีเกณฑ์วัสดุที่กำหนดให้ต้องทนไฟในระดับหนึ่ง
หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการกำกับดูแลการตรวจสภาพรถอย่างจริงจัง จะช่วยลดอุบัติเหตุและโอกาสในการเกิดเหตุในอนาคตได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในต่างประเทศที่มีการพัฒนาและนำมาใช้โดยยึดหลักมาตรการดังนี้
- ต้องมีการตรวจสอบการขับ ติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบ GPS เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ ความเร็ว และการเบรกอย่างเฉียบพลัน เพื่อลดอันตรายจากการขับขี่
- ต้องมีการฝึกอบรมผู้ขับอย่างเข้มข้นเพื่อความปลอดภัย
- มาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถ ควรมีการกำหนดมาตรฐานสำหรับการดูแลรักษารถสาธารณะเพื่อให้มั่นใจว่ามีการบำรุงรักษาที่เหมาะสมและมีอุปกรณ์การป้องกันความปลอดภัยที่เพียงพอ
- มีการใช้กฎหมายที่เข้มงวด
- มีการเผยแพร่ความสำคัญของความปลอดภัยในการใช้รถโดยสารสาธารณะกับประชาชน
- นำเทคโนโลยี เช่น การติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติหรือเซ็นเซอร์ที่ช่วยในการป้องกันอุบัติเหตุมาใช้
- มีการวางแผนเส้นทางการเดินรถเพื่อหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงและเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสาร
2. การนำเสนอข่าวที่มีความเปราะบางและละเอียดอ่อน ให้เคารพสิทธิของผู้ประสบเหตุ ไม่ใช่ตอกย้ำการสูญเสีย
3. การเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งสิทธิในการได้รับการดูแล รักษาพยาบาล เงินเยียวยา และการฟื้นฟูสภาพจิตใจโดยกรมสุขภาพจิต
4. ปัญหาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ที่การทัศนศึกษา แต่เป็นเรื่องของคุณภาพความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจสอบคุณภาพของรถให้มีมาตรฐานความปลอดภัย มีที่ทุบกระจก ถังดับเพลิง ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาที่รอบคอบมากขึ้นสำหรับเด็กเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต โดยมีการบรรจุในหลักสูตรการศึกษาอย่างเป็นระบบ
ชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร
‘ชวน’ ย้ำ ยกเลิกทัศนศึกษาไม่ใช่ทางออก
ขณะที่ ชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมอภิปรายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นเหตุการณ์ที่กระเทือนคนจำนวนมาก เราต้องเสียทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติคือนักเรียน ขณะเดียวกันหลายโรงเรียนเริ่มวิตกกังวลว่าควรจะพาเด็กไปทัศนศึกษาหรือไม่ ตนอยากเรียนว่า เราต้องไม่ยกเลิก เนื่องจากการทัศนศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเด็กไทยที่จะได้มีประสบการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำต่อไป
“เพียงแต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราระมัดระวังมากขึ้น ว่าวัยใด ชั้นใด ควรไปไกลแค่ไหน อย่างไร แต่ได้โปรด อย่าตัดสินแก้ปัญหาโดยวิธีหนีปัญหา คือต่อไปนี้ไม่พาเด็กออกไปแล้ว เหมือนต้นไม้ล้ม 1 ต้น เกิดรถเสียหาย โค่นต้นไม้ตลอดแถวทั้งถนน วิธีนี้ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แต่เป็นการหนีปัญหา ขอท่านผู้ปกครองและโรงเรียนทั้งหลายทำความเข้าใจ อย่าหนีปัญหาครับ เราเผชิญปัญหา เพียงแต่เราใช้เหตุการณ์นี้เป็นวิธีการที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก” ชวนกล่าว
ชวนอภิปรายต่อว่า รถบัสคันที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้อายุมากกว่าเพื่อนสมาชิกในห้องประชุมนี้เป็นส่วนใหญ่ ตอนที่จดทะเบียนใช้รถคันนี้ มีตนอยู่คนเดียวที่เป็นผู้แทนสมัยแรก รถอายุ 54 ปีที่ยังใช้ได้ หากมองในทางที่ดีคงมีการดูแลรักษาคุณภาพได้ดี แต่หากมองอายุรถ ไม่มั่นใจนัก จึงขอฝากกรรมาธิการไปศึกษาต่อว่า สภาพรถเป็นอย่างไร ยานพาหนะที่ใช้ต้องระมัดระวัง ขอฝากว่าอย่างไรก็ตามฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องดูแลต่อไป
ชวนกล่าวต่อว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราก็หวังว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย แต่ในที่สุดมันก็ไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกับครั้งนี้ หากเรายังคงมีวิธีการเหมือนเดิม ไม่ยกระดับขึ้นมา เหตุการณ์ที่อาจจะรุนแรงกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ในอนาคตก็อาจจะเกิดขึ้นมาอีก ก็ต้องกราบเรียนว่าหน่วยงานทั้งหลายที่มีหน้าที่ดูแลกฎเกณฑ์ต้องเข้มงวดกวดขันและปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
“ขอให้เจ้าหน้าที่นึกว่า ถ้านักเรียนที่เสียชีวิตไปเป็นลูกหลานท่าน ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่ลูกหลานท่าน ท่านก็รู้สึกแหละครับว่ากระทบกระเทือนแน่ แต่ถ้าเป็นลูกหลานท่าน ท่านจะคิดอย่างไรต่อกรณีที่ท่านละเลย ปล่อยให้มีการใช้ยานพาหนะที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นสิ่งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่จะทำให้เรื่องการดูแลเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาดีขึ้น พวกเราได้ร่วมแสดงความเสียใจ แล้วผมขอให้กำลังใจกับครอบครัวนักเรียน” ชวนกล่าว
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร
พริษฐ์เสนอ ปฏิรูปงบประมาณด้านการศึกษา
ขณะที่ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายแสดงความเสียใจ และขอส่งกำลังใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน ให้ทุกคนกลับมาเข้มแข็งโดยเร็ว ในสภาวะที่ประเทศกำลังเผชิญกับโศกนาฏกรรมเป็นเวลาที่เราทุกฝ่ายไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดในสภาแห่งนี้ต้องร่วมสนับสนุนกันและกัน ในการหามาตรการและวางแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต พร้อมเสนอ 3 แนวทางดังนี้
- การเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียอย่างรวดเร็วและอย่างทั่วถึง ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติเงินเยียวยาแล้ว สิ่งที่ตนเองต้องการจะเสนอเพิ่มเติมคือ การฟื้นฟูสภาพจิตใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียนหรือครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะการฟื้นฟูสุขภาพจิตใจระยะกลางและระยะยาว
หากเราพิจารณาจากกรณีศึกษาในต่างประเทศที่เคยประสบกับโศกนาฏกรรมเช่นนี้ จะเห็นว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะส่งผลต่อสุขภาพจิต ทั้งภาวะซึมเศร้าหรือภาวะวิตกกังวลหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
- การตรวจสภาพความปลอดภัยของยานพาหนะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เฉพาะยานพาหนะที่ส่งเด็กเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถโดยสารสาธารณะทุกคันทุกประเภทต้องมีความปลอดภัย มีการเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินที่สามารถใช้งานได้ตลอด รวมถึงแนวทางในการอบรมคนขับรถและรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
ส่วนมาตรการเฉพาะสำหรับรถยนต์รับส่งเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นรถรับส่งโรงเรียนหรือรถที่พานักเรียนไปทัศนศึกษา ต้องมีการฝึกซ้อมให้เด็กรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอ หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยีในการติดตั้ง GPS บนยานพาหนะ เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถติดตามสถานการณ์ได้
- การวางแผนเกี่ยวกับการทัศนศึกษา ในสภาวะที่ประเทศไทยมีแหล่งการเรียนรู้ที่กระจุกอยู่ในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่เท่านั้น ตนเองเข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ที่อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ เมื่อทุกคนเห็นตรงกันว่าการทัศนศึกษาจะเป็นประโยชน์ และการทัศนศึกษายังต้องมีความปลอดภัยด้วย
พริษฐ์เสนอให้ทบทวนกฎเกณฑ์มาตรการการดูแลให้รัดกุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนอายุของเด็กที่จะเดินทางไปทัศนศึกษา การพูดคุยถึงระยะทาง และระยะเวลาในการเดินทาง การหาสัดส่วนของครูที่เหมาะสมต่อจำนวนนักเรียน หรือแม้แต่ข้อเสนอแผนต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องมีการบรรจุในตัวหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมถึงต้องมีการประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะออกเดินทางไปทัศนศึกษา
แต่นอกจากกฎเกณฑ์การดูแลแล้ว งบประมาณก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความจำเป็น งบประมาณของแต่ละโรงเรียนถูกจัดสรรแบบงบรายหัว ซึ่งจะทำให้โรงเรียนที่มีขนาดเล็กเสียเปรียบ และมีงบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการในการออกแบบกิจกรรมการทัศนศึกษา
ดังนั้นการจะทำให้ทุกโรงเรียนมีงบประมาณที่เพียงพอในการรับประกันความปลอดภัยให้กับนักเรียนทุกคน เราต้องปฏิรูปงบประมาณด้านการศึกษา เปลี่ยนจากการคำนวณแบบรายหัวให้คำนึงถึงหลายปัจจัยมากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับแต่ละคนในการใช้ดุลพินิจของตัวเองมากขึ้น
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร
ผู้นำฝ่ายค้านเสนอ 3 มาตรการต่อรัฐบาล
ขณะที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายเป็นคนสุดท้าย โดยกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งภายใต้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน ในเวลานี้เป็นเวลาที่ผู้มีอำนาจของรัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ต้องใช้อำนาจที่มีความอ่อนโยนและอำนาจที่มีความเข้มแข็งที่มาพร้อมกับความยืดหยุ่นอย่างถูกต้อง
ณัฐพงษ์กล่าวว่า การใช้อำนาจที่อ่อนโยน คือการแสดงความเห็นอกเห็นใจ และการรับฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ เพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของประชาชน มากกว่าวิพากษ์วิจารณ์เพื่อหวังผลทางการเมือง ขณะเดียวกันผู้ที่มีอำนาจต้องมีความเข้มแข็งที่จะใช้อำนาจเพื่อจะกอบกู้วิกฤต
เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แม้เราจะสามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่เหตุลักษณะเช่นเดียวอาจจะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารบนรถบัสคันอื่นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ในอนาคตอีก ขอเสนอ 3 มาตรการที่ต่อรัฐบาลดังนี้
- มาตรการด้านความปลอดภัยของรถโรงเรียน ควรเป็นการโดยสารที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ปกครองทุกคนสามารถฝากบุตรหลานของเขามายังโรงเรียนด้วยความอุ่นใจ ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาทบทวนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ. 2562 รวมถึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น GPS หรืออบรมครูและบุคลากรของสถานศึกษาให้มีความรู้ในการตรวจเช็กสภาพรถก่อนการออกเดินทางทุกครั้ง
- มาตรการด้านความปลอดภัยของรถโดยสาร โดยกล่าวชมกระทรวงคมนาคมที่ได้มีการสั่งการไปยังกรมขนส่งทางบกให้มีการเรียกรถโดยสารสาธารณะที่มีการดัดแปลงการใช้แก๊สกว่า 13,000 คันมาตรวจสภาพรถซ้ำภายใน 60 วัน นอกจากนี้บริษัทเดินรถจะต้องมีการแนะนำข้อมูล และแนะแนวทางในการเผชิญเหตุแก่ผู้โดยสารก่อนการออกรถ เหมือนเช่นที่สายการบินทำกันอยู่ทุกครั้ง
- มาตรการด้านการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเด็กที่ทำอย่างไรให้เด็กสามารถเรียนรู้และปลอดภัยได้ รวมถึงสนับสนุนโครงการท้องฟ้าจำลองที่ออกไปตั้งในสถานศึกษาต่างๆ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการควรส่งเสริมโครงการแบบเดียวกันนี้ให้เกิดขึ้นและขยายผลไปในหลายจังหวัดทั่วทั้งประเทศ เพื่อลดระยะทางในการเดินทางของเด็ก
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ของเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่มีโอกาสพาบุตรหลานไปศึกษานอกสถานที่ได้
“ผมขอปิดการอภิปรายครั้งนี้ด้วยการส่งกำลังใจ และการแสดงความขอบคุณไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หน้างาน รวมถึงครูและพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน ผมอยากให้ทุกท่านรับรู้ว่า การใช้อำนาจอย่างถูกต้องเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล” ณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้าย