เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 449 ล้านบาท ลดลง 79%YoY และ 76%QoQ ต่ำกว่าคาดอย่างมาก หากตัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวออกไปพบว่า กำไรปกติ 4Q65 อยู่ที่ 627 ล้านบาท ลดลง 54%YoY และ 59%QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง เนื่องจากปริมาณการขายลดลงและค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงสูง
ทั้งนี้ หลังจ่ายเงินปันผลงวด 1H65 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น SCGP ก็ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H65 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 4 เมษายน)
สำหรับรายการสำคัญใน 4Q65 ดังนี้
- ยอดขายลดลง 5%YoY เนื่องจากยอดขายในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ลดลง 17%YoY (ปริมาณการขายลดลงในทุกประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์ลดลงทั้งในตลาดส่งออกและตลาดภายในประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการนำเข้าที่ลดลงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังจีน) ไปหักล้างยอดขายในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่เพิ่มขึ้น 30% YoY
- ปริมาณการขายของ SCGP (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) ลดลง 17% YoY สำหรับสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (75% ของยอดขาย) และลดลง 6% YoY สำหรับสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (19% ของยอดขาย)
- Core EBITDA Margin ลดลงสู่ 11.7% (ลดลง 140bps YoY และ 190bps QoQ) โดยเกิดจากปริมาณการขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษจำนวน 300 ล้านบาท และต้นทุนพลังงานที่สูงต่อเนื่อง (7% ของต้นทุนทั้งหมดใน 2H65 เทียบกับ 5% ในปี 2564 และ 6% ใน 1H65)
กระทบอย่างไร:
ในวันนี้ราคาหุ้น SCGP ปรับลดลง 2.81%DoD สู่ระดับ 52.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.20% DoD สู่ระดับ 1,686.30 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
SCGP วางเป้าหมายรายได้ปี 2566 ที่ 1.6 แสนล้านบาท และตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท (9 พันล้านบาทสำหรับการทำ M&P ที่ยังไม่ได้ประกาศ, 3 พันล้านบาทสำหรับการขยายกำลังการผลิต และ 6 พันล้านบาทสำหรับการซ่อมบำรุง)
ขณะที่ใน 1Q66 SCGP คาดว่าจะรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำ (ปรับตัวตามหลัง Spot Price อยู่ 4 เดือน) และปริมาณการขายจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นใน 1H66 โดยจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้นใน 2H66 จากการเปิดประเทศของจีน การทำสัญญาล็อกราคาถ่านหินที่ต้องใช้ไว้ล่วงหน้า 4 เดือน
ทำให้ SCGP คาดว่า ต้นทุนพลังงานจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ที่ 7% ของต้นทุนรวมใน 1Q66 และบริษัทตั้งเป้าที่จะใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นอีก 2% เพื่อลดปริมาณการใช้ถ่านหิน
อย่างไรก็ดี InnovestX Research คาดว่า กำไรของ SCGP จะเติบโต 22%YoY ในปี 2566 จากการรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำใน 1H66 และปริมาณการขายที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยคงเรตติ้ง Outperform สำหรับ SCGP ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 65 บาทต่อหุ้น
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ แรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราค่าระวางผันผวน และเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คัด 10 หุ้นราคาต่ำ 10 บาท P/E ต่ำ ปันผลสูง ราคา YTD ยังบวก
- ทองคำ กำลังไหลเข้าเอเชีย ท่ามกลางดอกเบี้ยโลกที่กำลังขึ้นต่อเนื่อง
- เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 16 ปี