×

ธนาคารไทยพาณิชย์คาด สินเชื่อปีนี้โต 0-2% คุมเข้มปล่อยกู้รายย่อย

06.03.2024
  • LOADING...
ธนาคารไทยพาณิชย์

ในปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในปีที่ธนาคารพาณิชย์ไทยมีผลประกอบการค่อนข้างโดดเด่น รวมทั้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่มีผลกำไรประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท ส่วนบริษัทแม่อย่างเอสซีบีเอกซ์ หรือ SCBX มีกำไรสุทธิ 4.35 หมื่นล้านบาท 

 

กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รายได้และกำไรส่วนใหญ่ของ SCB ยังคงมาจากธุรกิจแบงก์ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ถูกวางไว้จากการปรับโครงสร้างบริษัทว่า “ไทยพาณิชย์จะเป็นเรือใหญ่ที่ทำหน้าที่หาเงิน หลังจากนั้นจึงแบ่งเงินไปให้บริษัทแม่เพื่อนำไปลงทุนต่อ” 

 

ทั้งนี้ อัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ของแบงก์โดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 2566-2570) มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนหน้านี้ 

 

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของสินเชื่อของแบงก์ในปีนี้อาจจะทำได้เพียง 1-2% หรืออาจจะไม่เติบโตเลย 

 

“เมื่อสินเชื่อไม่ได้เติบโตสูง โจทย์คือ ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ หมายความว่า ความเข้มข้นในการปล่อยสินเชื่อจะมีมากขึ้น ต้องคัดเลือกลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มั่นใจว่าหากปล่อยสินเชื่อไปแล้วจะไม่เป็นความเสี่ยงให้กับแบงก์” 

 

โดยทั่วไปแล้วธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะมีสัดส่วนระหว่างสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจใกล้เคียงกัน แต่ในปีนี้สัดส่วนของสินเชื่อธุรกิจน่าจะมากขึ้น 

 

กฤษณ์กล่าวต่อว่า “ปีนี้สินเชื่อรายย่อยมีความท้าทายจากเศรษฐกิจฝืด หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น เก็บหนี้ได้ยากขึ้น ทำให้การปล่อยสินเชื่อของแบงก์เข้มงวดขึ้น ทำให้เราคงจะตั้งการ์ดสูง แต่สินเชื่อรายย่อยบางกลุ่มก็อาจจะยังเติบโตได้ เช่น สินเชื่อบ้านแนวราบราคาเกิน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ได้”

 

ส่วนสินเชื่อ SMEs จะทรงตัวเช่นกันในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่รู้จัก

 

อย่างไรก็ดี สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จะยังเติบโตได้ แต่การแข่งขันด้านราคาจะสูงขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า จึงเป็นเป้าหมายของทุกแบงก์ 

 

บุกเวียดนาม เปิดโอกาสใหม่

 

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขายส่วนของทุนในสัดส่วน 100% ของ Home Credit Vietnam Finance Company ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเวียดนาม 

 

กฤษณ์กล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์ของ SCB ที่ต้องการเป็นบริษัท FinTech ในระดับภูมิภาค ทำให้บริษัทมองหาการลงทุนที่เข้าเงื่อนไขหลัก 3 ส่วน คือ

 

  1. ประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่ 
  2. เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่อง 
  3. ประชากรมีอายุไม่มากนักและคุ้นชินกับเทคโนโลยี 

 

“ทำให้เวียดนามมีความเหมาะสม จากประชากร 100 ล้านคน และ GDP โตเฉลี่ย 7-8% นอกจากนี้ Home Credit ยังมีฐานลูกค้ามากถึง 15 ล้านคน”

 

อย่างไรก็ตาม ดีลการซื้อ Home Credit คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2568 โดยจะใช้เงินลงทุนราว 3.1 หมื่นล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising