×

“ถ้าเชื่อใจสมคิด ขอให้เลือกทีมสมคิด” สร้างอนาคตไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ชูนโยบายพักหนี้ 5 ปี ปุ๋ยคนละครึ่ง

โดย THE STANDARD TEAM
05.11.2022
  • LOADING...
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) ที่จังหวัดอุบลราชธานี พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, สุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคอีสาน และ วิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการพรรค เปิดเวทีปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 32 คน โดยมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 3,500 คน

 

ดร.สมคิดกล่าวเปิดนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทยว่า วันนี้ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่สบายจึงไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ได้ฝากมาบอกว่าพวกท่านไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว พวกเราอยู่กับท่านเสมอ ตนไม่ใช่คนพูดมาก พูดคำไหนไม่เคยลืม จะพยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ได้สัญญาไว้ไม่ว่าในยุคสมัยไหน สำหรับที่มาในวันนี้ ตนไม่ได้บอกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตนบอกว่าขอให้ชาวอีสานพ้นทุกข์ เพราะความทุกข์ที่มีอยู่นี้เราเห็นมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว

 

ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่มาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อพบกับพี่น้องประชาชน ทุกครั้งที่มาภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีทั้งสุขและทุกข์ ความสุขคือทำให้คิดถึงความหลังเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา สมัยนั้นที่ได้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ด้วยอุดมการณ์ว่าจะทำให้มีพรรคการเมืองที่ดี ทำประโยชน์ให้พี่น้อง ไม่มีการแบ่งแยกฝ่าย ไม่แบ่งแยกคนรวย คนจน คนชั้นกลาง ทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน วันนั้นมีความสุขมาก เป็นความสุขในชีวิตที่ได้พยายามคิดค้นสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับชาวบ้านและมีโอกาสเข้าไปทำจริง มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้าน

 

ดร.สมคิดกล่าวต่อไปว่า สมัยนั้นได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ได้มีการดำเนินนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี แต่พักหนี้อย่างเดียวไม่พอ เพราะส่วนใหญ่จะมีหนี้นอกระบบ ในฐานะที่กำกับดูแลธนาคารออมสิน จึงได้ประกาศนโยบายธนาคารประชาชน ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับคนยากจน นำหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในธนาคารออมสิน และยังได้รับมอบหมายให้จัดสรรงบประมาณเพื่อประกันราคาข้าว แต่ไม่ใช่จำนำตะบี้ตะบัน เราทำเพื่อชี้นำตลาด ไม่ให้พ่อค้าคนกลางกดราคา เราไม่เอาประกันรายได้ เพราะจุดรั่วไหลมีเยอะมาก ซึ่งได้กำชับหน่วยงานในกำกับดูแลไม่ให้มีการทุจริตเรื่องข้าว และกำหนดราคามาตรฐาน ไม่เปิดช่องโหว่ให้พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบชาวนา และยังมีการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน ใช้งบประมาณ 76,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการกระจายเงินสู่ชนบทหมู่บ้านละ 1 ล้านบาททั่วประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเราละลายเงินไปสู่สิ่งที่สูญเปล่า แต่เขาไม่รู้ว่าที่จริงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ คนยากจน ได้เริ่มต้น ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย แต่ถ้าเมื่อไรข้อดีมากกว่าข้อเสีย ตนจะลืมตรงนั้นแล้วดำเนินการไปให้ถึงที่สุด และยังมีสิ่งที่ภูมิใจคือการเริ่มโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP เพื่อให้ชุมชนเริ่มผลิตสินค้าชุมชน รวมถึงการสร้างมาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับประชาชน และตั้งใจว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจ OTOP จะต้องดีกว่านี้ โดยขอให้ทุกคนร่วมมือกัน โดยโครงการที่กล่าวมาดำเนินไปได้ด้วยดี

 

จนกระทั่งมีการยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งแม้พรรคไทยรักไทยถูกยุบไปแล้ว และตัวเองต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่อยากจะบอกว่าถึงแม้พรรคถูกยุบไปแล้วแต่สมคิดยังอยู่ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตให้กับลูกหลานได้ ให้เขาใฝ่ดี ใฝ่รู้ รักการศึกษา ไม่เสเพล ไม่ติดยาเสพติด ทุกคนก็สามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานได้

 

“สำหรับอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคน มี ส.ส. 132 คน ถ้ามี ส.ส. มากแล้วยังช่วยพี่น้องไม่ได้แปลว่าอะไร ต้องให้เขามาแก้ปัญหา เช่น เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ถ้าตั้งใจจริงทำไมจะทำไม่ได้ ส.ส. ทั้งหมด 132 คน แค่วอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมสภาก็ล่มแล้ว ส่วนสถานการณ์การเมืองขณะนี้ มีการซื้อนักการเมืองหัวหนึ่ง 50 ล้านบาท อย่างกับการซื้อม้าแข่ง ผมไม่อยากจะเชื่อ แล้วมาซื้อเสียงกับประชาชนคนละแค่ 1,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าภาคประชาชนแข็งแรง เรารู้ว่าใครซื้อเสียงก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแต่ไม่ต้องเลือก

 

“ต้องถามตัวเองว่าเราเลือกถูกต้องหรือยัง หากต้องการเลือกเพื่อให้ได้เศษเงิน 500 บาท 1,000 บาท ก็อย่าโทษใคร ถ้าชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น แต่ถ้าต้องการสร้างอนาคตของลูกหลาน จงเลือกพรรคที่มุ่งมั่นทำงานให้ท่าน ผมไม่บอกว่าพรรคไหน ท่านตัดสินใจได้ ปัญหาของประเทศไทยมีมากมาย ทุกอย่างอยู่ที่ผู้นำ ถ้าผู้นำเอาจริง ข้าราชการก็พร้อมช่วย แต่ถ้าผู้นำไม่เอาจริง ข้าราชการก็จะทำงานไม่เต็มที่” ดร.สมคิดกล่าว

 

ดร.สมคิดกล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทยที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสานดีขึ้น เราจะพักหนี้ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย เป็นเวลา 5 ปี และต้องมีการเติมเงินใหม่ มีการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งไม่ใช่นำเงินที่ได้จากการปล่อยสินเชื่อไปตัดดอก แต่ต้องนำเงินไปชำระเงินต้นเพื่อให้ดอกเบี้ยลดลง ทุกอย่างอยู่ที่นโยบาย ส่วนการประเมินผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. จะพิจารณาจากการที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนให้เข้มแข็งขึ้นได้กี่ราย ไม่ใช่วัดจากกำไรหรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อย่างในปัจจุบัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา ธ.ก.ส. มี NPL 17% ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำให้ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้ เพราะต้องรักษาระดับ NPL ไว้ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ถ้าทำแบบนี้แล้วชาวนาครึ่งประเทศอดตายคุณก็อยู่ไม่ได้

 

ดังนั้นจึงจะมีการเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. เพื่อแก้ปัญหา NPL ซึ่งหาก ธ.ก.ส. มีวงเงินปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรได้ 50,000 ล้านบาท ก็จะสามารถต่อยอดให้กับเกษตรกรได้ถึง 100,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยเจรจาลดดอกเบี้ยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วม เพื่อลดภาระให้เกษตรกร รวมถึงผลักดันให้มีกระทรวงน้ำ เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

 

ดร.สมคิดกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จะมีการต่อยอด OTOP ให้ไปถึงระดับหมู่บ้าน OTOP ไปถึงแหล่งผลิต นำนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อจำหน่ายไปต่างประเทศ รวมทั้งจะมีการเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งกลไกของกองทุนหมู่บ้านไม่ใช่มีหน้าที่แค่ปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาให้แต่ละชุมชนต้องมีสินค้าชุมชน โรงสีชุมชน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนภายในหมู่บ้านด้วย

 

“สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาก็จะดำเนินการต่อยอด แต่ยังไม่บอกในขณะนี้ จะเก็บไว้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพวกท่าน ตนไม่ได้เป็นคู่แข่งกับพรรคพลังประชารัฐ ใครจะคิดแข่งก็สามารถคิดนโยบายแข่งมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้ได้ประโยชน์ นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนอย่ามาบอกว่าพรรคนี้ประชาธิปไตย พรรคนี้เผด็จการ ทุกคนคือประชาธิปไตยทั้งนั้น อยู่ที่การนำเสนอนโยบาย ต้องถามประชาชนว่าคุณเชื่อมั่นพรรคไหน คุณมั่นใจคนไหน ถ้ามั่นใจสมคิดก็เลือกพรรคสร้างอนาคตไทยพรรคเดียว เราไม่สร้างแลนสไลด์ แต่เราจะสร้างสึนามิ” ดร.สมคิดกล่าว

 

ดร.สมคิดกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังจะใช้นโยบายคนละครึ่งกับเรื่องปุ๋ย โดยในหนึ่งฤดูการผลิต รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อสนับสนุนปัจจัยการผลิต ซึ่งมองว่าราคาปุ๋ยมีโอกาสจะแพงขึ้นอีก จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ขณะเดียวกัน ยังจะมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร นี่คือคำสัญญา รวมถึงจะมีการสร้างรายได้จากพลังงานชุมชน จะมีการต่อยอดกองทุนหมู่บ้านที่มีมากกว่า 70,000 หมู่บ้าน โดยให้การศึกษาเพื่อให้เกิดเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ จะมีการประกาศนิคมอุตสาหกรรมการเกษตร ทำเกษตรสีเขียว เกษตรแปรรูป นี่คือวิธีการเอางานมาให้คนอีสาน ไม่ใช่ให้คนอีสานออกไปหางานข้างนอก ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยนโยบายนี้ไม่เปลี่ยน ถ้าเชื่อใจสมคิด ขอให้เลือกทีมสมคิด เลือก ส.ส. ที่มีรูปถ่ายกับสมคิดและอุตตม ขอให้ช่วยกันเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising