บาร์ค็อกเทลแห่งใหม่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายไทยเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานมีชื่อว่า เสพย์บาร์ (Sape Bar) บาร์แห่งนี้มีจุดกำเนิดจากธุรกิจของครอบครัวที่ดูแล Jam Hostel ซึ่งตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากป้อมพระสุเมรุมากนัก เลยเกิดเป็นไอเดียว่าภายในโรงแรมควรมีบาร์ให้ลูกค้าที่เข้ามาพักได้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจและดื่มกินกันตามอัธยาศัย ไหนๆ หนึ่งในผู้ก่อตั้งก็เป็นดีไซเนอร์อยู่ด้วยแล้ว ร้านนี้จึงถูกตกแต่งอย่างร่วมสมัยควบคู่ไปกับเมนูค็อกเทลและอาหารที่มีความเป็นไทยนำสมัยไม่แพ้กัน
The Vibe
การตกแต่งค่อนข้างโมเดิร์น หนักไปทางป๊อปอาร์ต โดดเด่นด้วยการนำโปสเตอร์ย้อนยุคสมัยนักแสดงผู้ล่วงลับอย่าง ‘มิตร ชัยบัญชา’ มาทำเทคนิคที่ดูคล้ายกับงานอาร์ตของแอนดี้ วอร์ฮอล ร่วมด้วยพาเลตต์สีของผ้าสามสีไทยๆ ที่ให้ทั้งความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและร่วมสมัย นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ยังผ่านการจัดวางและเลือกสรรมาแล้ว เช่น แคร่ไม้ไผ่ หมอนสามเหลี่ยมที่เป็นตัวแทนของความพื้นบ้านแบบไทยๆ ขัดแย้งกับโต๊ะและเก้าอี้สไตล์มินิมัล ซึ่งเป็นตัวแทนของความสากล ทั้งหมดนี้ผสมสานกันอย่างลงตัวในเสพย์บาร์
(บน) หมอนอิงที่กลายเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของร้าน, (ล่าง) โปสเตอร์สีสดๆ ดูป๊อปอาร์ต
The Music
นอกจากจะเปิดเพลงสากลอย่าง Bad Romance ของเลดี้ กาก้า และเพลงป๊อปของไทยอย่าง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ของแม็กซ์ เจนมานะ ซึ่งคัฟเวอร์ให้กลายเป็นเพลงบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีไทยแล้ว บางวันเสพย์บาร์ยังเล่นสดด้วยระนาดกับคีย์บอร์ดเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ไทยร่วมสมัยให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
(บน) กุ้งคั่วพริก, (ล่าง) เข้หนุ่ม
The Dishes
อาหารไทยถูกออกแบบให้ไม่ตกยุคและเข้าถึงคนไทยและต่างชาติ จานแรก กุ้งคั่วพริก (165 บาท) มีความเผ็ดร้อนพอเหมาะกำลังดี เข้าถึงง่าย ส่วนความสดหวานของกุ้งถูกแต่งเพิ่มด้วยเกลือเล็กน้อยเพื่อให้จานนี้มีรสชาติที่เปี่ยมด้วยมิติ จานต่อมาได้แก่ เข้หนุ่ม (150 บาท) ที่ใช้เนื้อจระเข้บ้องตัน ซึ่งเป็นส่วนหางที่เนื้อแน่นมาแดดเดียว เคียงกับน้ำพริกหนุ่มรสชาติจัดจ้าน
เสพย์ยาดอง
The Drinks
ปกติยาดองในมุมมองของคนไทยโดยทั่วไปมักจะเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนชนชั้นล่าง แต่เนื่องจากหนึ่งในผู้ก่อตั้งชื่นชอบและอยากเรียนรู้รสชาติดริงก์ในหลากหลายสังคม ทำให้เกิดไอเดียอยากนำยาดองมาเป็นตัวชูโรงในบาร์ โดยมีเมนูน่าสนใจอย่าง เสพย์ยาดอง (220 บาท) ยาดองสูตรพิเศษของทางร้านที่อัดแน่นด้วยสมุนไพรไทย แกล้มด้วยมะม่วงดอง ซึ่งจะจิ้มพริกเกลือหรือไม่ก็แล้วแต่ศรัทธา ตบด้วยน้ำใบเตยเพื่อตัดรสชาติหวาน ขม และกลิ่นเครื่องเทศ ซึ่งการกินลักษณะนี้คือหลักการกินยาดองที่มีมาช้านานของไทย
ตัวต่อมาได้แก่ ลงแขก (280 บาท) ใช้เบสเป็นยาดองโด่ไม่รู้ล้ม ซึ่งมีกลิ่นของอบเชยชัดเจน ตามด้วยวอดก้า บาร์เทนเดอร์ต้องเทสต์สปิริตสองตัวนี้ให้เป็นชั้นแยกกัน ก่อนที่จะราดด้วยซัมบูกาที่จุดไฟโชติช่วง สาดด้วยผงอบเชยให้มีกลิ่นไหม้เล็กน้อย จากนั้นจึงปิดฉากด้วยสไปรท์เพิ่มความซ่าหวานให้กับดริงก์
ลงแขก
นอกจากดริงก์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นยาดองแล้ว ยังมีดริงก์ชนิดอื่น เช่น นวลนาง (180 บาท) ที่เบสด้วยวอดก้าและลิเคียวร์ส้มในชื่อ ทริปเปิลเซก (Triple Sec) เพิ่มความหอมและรสขมๆ ด้วยการนำไปอินฟิวส์ (infused) กับเปลือกส้ม ผสมน้ำลิ้นจี่ สับปะรด และสตรอว์เบอร์รี นับเป็นดริงก์ที่มีความหวานของผลไม้ชัดเจน แต่ไม่เลี่ยนแสบคอ เพราะการตัดรสที่ดีของความขมและเบสแอลกอฮอล์ที่มีความดราย
นวลนาง
ตัวสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เงาะป่า (180 บาท) ค็อกเทลกึ่งขนมไทยที่นำเฉาก๊วยมาเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้การดื่ม เฉาก๊วยสีดำลื่นๆ ถูกแช่ในน้ำแข็งที่มีขันเงินเป็นภาชนะ ใส่มาในถาดสานที่เคียงมากับช็อตของคาห์ลัวผสมกับเบย์ลีส์ (Baileys) และน้ำเฉาก๊วยสำหรับคนชอบความหวาน เพราะความหวานครีมมี่และความเป็นกาแฟเข้ากันได้ดีกับเฉาก๊วยเป็นอย่างยิ่ง
เงาะป่า
เสพย์บาร์ [ปิดกิจการแล้ว]
Open: วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-01.00 น.
Address: ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
Budget: 200-300 บาท
Contact: 09 8956 0088
Page: www.facebook.com/sapebarbkk
Map:
- Baileys คือไอริชวิสกี้ที่ผสมครีม มีความสโมกกี้และความหวานในตัว
- ร้านนี้ทำยาดองทุกตัวเองโดยอาศัยสูตรพื้นบ้าน