×

แม้แต่ ‘Waste Management’ ของโครงการที่อยู่อาศัยก็ต้องเป็น ‘New Normal’ เปิดมาตรการจัดการขยะติดเชื้อช่วงโควิด-19 ของ แสนสิริ ต้นแบบการคัดแยกขยะอย่างปลอดภัยและยั่งยืนของวงการอสังหาฯ ไทย [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
02.07.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • ตัวเลขการคัดแยกรีไซเคิลใน T77 Community พบว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2020 จำนวนรีไซเคิลสูงถึง 10,463.4 กิโลกรัม ซึ่งเดือนที่มีตัวเลขสูงสุดคือเดือนมีนาคม มีปริมาณ 4,315.2 กิโลกรัม น่าจะเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น
  • สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ สองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ประเมินว่ามีหน้ากากอนามัยใช้แล้วเฉลี่ย 55,000 ชิ้นใน T77 Community
  • แสนสิริตั้งแผนรับมือ เพิ่ม ‘ขยะติดเชื้อ’ เป็นหนึ่งในประเภทขยะคัดแยกของโครงการ พร้อมชูการจัดการขยะติดเชื้อเป็น New Normal ด้าน Waste Management ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ และต้นแบบการคัดแยกขยะอย่างปลอดภัยและยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

ใครจะคาดคิดว่าขยะติดเชื้อที่เคยพบเห็นในโรงพยาบาล อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือ ขวดแอลกอฮอล์ และขยะอื่นๆ ที่สัมผัสกับสารคัดหลั่งของเรา จะกลายเป็นขยะที่พบมากขึ้นในที่อยู่อาศัย

 

 

การรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน หรือในกลุ่มคนที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านและอยู่ร่วมกับคนในครอบครัว การสวมใส่หน้ากากอนามัยก็เป็นสิ่งจำเป็น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ปริมาณขยะประเภทกล่องพลาสติก ถุงพลาสติก กระป๋อง ที่เกิดจาก Food Delivery เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงขยะติดเชื้อ ซึ่งถือเป็นขยะรูปแบบใหม่ที่กลายเป็นโจทย์ใหม่ของผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ในการจัดการขยะเหล่านี้

แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ไทยที่เดินหน้าใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดอย่าง แสนสิริ เอง ก็นำร่องเซต New Normal ด้าน Waste Management ของโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อมาตรการจัดการขยะติดเชื้อช่วงโควิด-19

ตัวเลขความสำเร็จการคัดแยกรีไซเคิลใน T77 Community พบว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2020 จำนวนรีไซเคิลสูงถึง 10,463.4 กิโลกรัม แบ่งเป็น มกราคม 2,272 กิโลกรัม, กุมภาพันธ์ 3,041.7 กิโลกรัม และมีนาคม 4,315.2 กิโลกรัม หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ตัวเลขรีไซเคิลในเดือนมีนาคมสูงกว่าเดือนมกราคมถึง 2043.2 กิโลกรัม มีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขขยะที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น 

 



 

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ สองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม พบหน้ากากอนามัยใช้แล้วเฉลี่ย 55,000 ชิ้นใน T77 Community จริยากล่าวว่า “นอกจากปริมาณขยะจาก Food Delivery เพิ่มขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นรีไซเคิลประเภทพลาสติกและกระป๋องอะลูมิเนียมเพิ่มสูงขึ้นถึง 1 หมื่นกิโลกรัมต่อเดือน ยังพบขยะติดเชื้อประเภทหน้ากากอนามัยใช้แล้วกว่า 55,000 ชิ้นใน T77 Community”

 

 

 

เพิ่ม ‘ขยะติดเชื้อ’ เป็นหนึ่งในประเภทขยะคัดแยกของโครงการแสนสิริ
“แสนสิริเตรียมเซต New Normal ใหม่ด้านการจัดการขยะในโครงการที่อยู่อาศัย โดยผนึกกำลังกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ยกระดับมาตรการเข้มข้น เพื่อจัดการขยะติดเชื้อช่วงโควิด-19 อย่างจริงจัง เริ่มต้นจากแนะนำวิธีจัดการหน้ากากอนามัยใช้แล้วที่ถูกต้องกับลูกบ้าน และจัด Training โดยกรมควบคุมมลพิษให้กับนิติบุคคล เพื่อการจัดการขยะติดเชื้ออย่างรัดกุม ก่อนจะนำส่งให้กรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานภาครัฐนำไปจัดการอย่างปลอดภัยต่อไป

“ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงอนาคตได้ นอกจากการส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อชะลอขยะไปสู่ Landfill ให้น้อยที่สุดแล้ว เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดการขยะรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 จึงเพิ่มหน้ากากอนามัยใช้แล้วและขยะจากลูกบ้านกักตัวเป็นขยะคัดแยกประเภทติดเชื้อ พร้อมวางมาตรการจัดการให้เป็น New Normal ด้าน Waste Management ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ และเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะอย่างปลอดภัยและยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย”

ในฐานะผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย แสนสิริวางเป้ารุกภารกิจด้าน Waste Management เป็นภารกิจหลัก และผลักดันการจัดการขยะอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมทั้งในโครงการที่อยู่อาศัย องค์กร และไซต์ก่อสร้าง

โดยเริ่มจากสังคมที่ใกล้ตัวที่สุดคือ ‘ลูกบ้าน’ ตั้งแต่การสร้างที่อยู่อาศัย สร้างสภาพแวดล้อม และบริหารจัดการความเป็นอยู่ของลูกบ้าน โดยเฉพาะเรื่องการจัดการขยะ

เมื่อโควิด-19 เปลี่ยนพฤติกรรมคน ในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องปรับตัวตาม ต้องจัดการให้ได้ และต้องจัดการให้ดี ทั้งขยะติดเชื้อและขยะเศษอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดโรคอื่นๆ ตามมา การจัดการต้องยั่งยืนและสะดวกกับผู้อยู่อาศัย นี่เป็นสิ่งที่แสนสิริโฟกัสในปีนี้และในอนาคต  

 

จริยา จันทร์เจิดศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

เตรียมยกระดับ Sansiri Green Mission สู่ Sansiri Sustainability
หลังประกาศเป้าหมายที่จะสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ในปี 2019 แสนสิริตั้งเป้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ 2,000 ตัน ภายใน 3 ปี แต่ภายในปีเดียว (วัดผลปลายปี 2019) แสนสิริสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ไปแล้วกว่า 1,917 ตัน หรือกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเป้าที่วางไว้

จริยา จันทร์เจิดศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากจุดยืนชัดเจนที่เน้นการลดและจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมศึกษาพฤติกรรมการคัดแยกขยะของลูกบ้านอย่างจริงจัง เพื่อค้นหาแนวทางการคัดแยกขยะที่เหมาะสมกับลูกบ้าน เริ่มต้นจากลดการใช้ขวดพลาสติกในองค์กรถึง 900,000 ขวด หรือคิดเป็นพื้นที่ป่าสีเขียว 70 ไร่ และเปลี่ยนจากการแจกน้ำดื่มในขวดพลาสติกเป็นการเสิร์ฟน้ำอินฟิวส์คู่กับแก้วกระดาษที่เซลแกลเลอรี”

ตลอดการดำเนินงาน แสนสิริ ยังได้จับมือกับ บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมศึกษาทดลองทางเศรษฐศาสตร์เพื่อสร้างพฤติกรรมการแยกขยะของลูกบ้านใน T77 Community และนำผลการวิจัยมาปรับใช้ร่วมกับผลการศึกษาของแสนสิริ เพื่อออกแบบห้องพักขยะและถังขยะรูปแบบใหม่ในทุกโครงการแนวสูงที่จะแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป รวมถึงการร่วมมือกับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ นำร่องคัดแยกรีไซเคิลมากถึง 16 ตัน หรือเทียบเท่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เฉลี่ย 11.6 ตันใน  29 โครงการ

จริยาเชื่อว่า หากการปรับพฤติกรรมมันยุ่งและยังยาก ย่อมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน “จากผลวิจัยเราพบว่า ถังขยะใสทำให้คนทิ้งไม่ผิดและไม่กล้าทิ้งผิด เราแค่เปลี่ยนรูปแบบถังขยะเท่านั้น ลองนำไปปรับใช้ใน T77 Community ทั้ง 8 โครงการ การแยกขยะดีขึ้นมาก”

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising