คุณลองคิดดูว่าเทคโนโลยีในโลกยุคนี้พัฒนาไปมากขนาดไหนแล้ว ถึงขนาดที่เมื่อเราได้ยินคำว่าโทรทัศน์ความละเอียดแบบ 8K แล้วเราไม่เข้าใจว่า ‘คนเราจำเป็นจะต้องดูทีวีชัดขนาดนั้นเลยหรือ?’ แน่นอนว่า ความคมชัดที่มากกว่าจะมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีขึ้นให้กับคุณอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่เราสงสัยนั้นแหละว่า แล้วเจ้าคีย์เวิร์ด ‘8K’ นั้นมันคืออะไร? และแตกต่างจากสิ่งที่เราดูอยู่ในทุกวันนี้อย่างไร?
โลกสองใบที่แตกต่างของ 4K และ 8K
แท้จริงแล้วการมาถึงของความคมชัดระดับ 4K หรือที่เรียกว่า Ultra-High-Definition (UHD) นั้นก่อกำเนิดมาได้สักพักแล้ว และคุณลองสังเกตดูว่า เวลาคุณเดินผ่านแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโทรทัศน์มากมายตั้งเรียงราย แน่นอนว่าเราจะพบเห็นโทรทัศน์ที่ขายความคมชัดระดับ 4K ตั้งเรียงรายจนเป็นมาตรฐานของโทรทัศน์ในบ้านเราไปแล้ว ซึ่งความละเอียดของ 4K นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านพิกเซล หรือสเกลภาพที่ 3,840 x 2,160 ลองเทียบง่ายๆ ว่าถ้าหากคุณเปิดมิวสิกวิดีโอใน YouTube ที่ความชัดสูงสุด Full HD 1080p เท่ากับว่าความคมชัดแบบ 4K จะมีความชัดมากกว่าถึง 4 เท่า
ส่วนความคมชัดแบบ 8K จะมีความละเอียดที่ราว 33 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่า 4K ไปอีก 4 เท่า โดยความคมชัดดังกล่าวนั้นแสดงออกผ่านพิกเซลของหน้าจอที่มีขนาดเล็กจนมองไม่เห็น จึงทำให้ได้รายละเอียดของภาพที่มากกว่า คมชัดกว่า ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีความคมชัดนี้ในการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์และการถ่ายภาพยนตร์แล้ว เช่นในประเทศญี่ปุ่นที่เตรียมถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก ปี 2020 ในรูปแบบ 8K หรือภาพยนตร์อย่าง Yesterday หนังเรื่องใหม่ล่าสุดของผู้กำกับ แดนนี่ บอยล์ ก็ใช้กล้อง RED Camera 8K ในการถ่ายทำแล้ว และกับเทคโนโลยีล่าสุดจากซัมซุงที่พัฒนาความละเอียดระดับ 8K ให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการรับชมโทรทัศน์ ซึ่งคุณเองก็จะได้รับประสบการณ์เช่นนั้นได้แล้วที่บ้านของคุณ
ไม่ใช่แค่ความคมชัด แต่ยังฉลาดทันโลก
Samsung QLED 8K มีเทคโนโลยีมากมายที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับที่ไม่ใช่แค่ความคมชัดที่เพิ่มขึ้นด้วย Quantum Processor 8K ของ QLED ที่ใช้อัลกอริทึมการอัปสเกลที่ไม่เหมือนใคร เพื่อมอบภาพที่ชัดขึ้น พร้อมปรับความสว่างของหน้าจอและเสียง เพื่อให้เข้ากับห้องของคุณและฉากที่แสดงอยู่ในหน้าจอ
ถ้าหากคุณไม่มีไฟล์ที่มีความคมชัดระดับ 8K ก็ไม่เป็นไร เพราะทีวีเครื่องนี้มีระบบ AI Upscaling ที่สามารถจะยกระดับภาพในทุกสิ่งที่คุณอยากชมให้กลายเป็นความละเอียดแบบ 8K ได้ ซึ่งผ่านขั้นตอนหลักๆ 3 อย่าง นั่นคือ Detail Creation เพิ่มจำนวนพิกเซลโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ความละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งระบบจะอ้างอิงจากพิกเซลรอบๆ, Noise Cancellation และ Edge Resolution ที่จะปรับความชัด ความสว่าง ความคมให้กับพิกเซลที่เบลอ สามารถสังเกตเห็นได้จากพวกตัวอักษรที่คมชัดขึ้น ซึ่งจะมีความใกล้เคียงกับภาพแบบ 8K มากที่สุด
นอกจากนี้คุณยังสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ผ่านระบบ Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวจากซัมซุง ที่จะสามารถค้นหาและจัดการทุกคำถามให้คุณได้อย่างชาญฉลาด และถ้าหากคุณมีผลิตภัณฑ์สมาร์ทอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับทีวีอยู่ด้วย คุณก็แทบไม่ต้องลุกไปไหนให้วุ่นวายด้วยระบบ SmartThings ที่จะทำให้ทีวี QLED 8K ของคุณ เป็นศูนย์กลางของการสั่งการ จะสั่งเปิดปิดไฟ สั่งให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงาน หรือเช็กของในตู้เย็นก็ทำได้จากทีวีของคุณเอง
อีกหนึ่งความพิเศษของทีวีเครื่องนี้คือ การสั่งงานการค้นหาใน YouTube ที่จะกลายเป็นเรื่องง่ายดายของคุณเมื่อคุณอยากจะดูวิดีโออะไรก็ตามบน YouTube เพียงแค่กดปุ่มไมโครโฟนบนรีโมตและพูดชื่อเพลง หนัง ศิลปิน หรือคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการได้ทันที ที่สำคัญ คุณสามารถค้นหาด้วยภาษาไทยได้ด้วย เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ เอ็ด ชีแรน หรือจะค้นหาศิลปินหรือวิดิโอของไทยก็ง่ายนิดเดียว ลองพูดชื่อ เบิร์ด ธงไชย เดอะทอยส์ หรือคลิปสอนแต่งหน้าก็ค้นหาได้ทันที! และถ้าหากว่าที่บ้านคุณมีผู้ช่วยคนอื่นๆ อยู่แล้วทั้ง Google Assistant, Amazon Alexa ก็สามารถใช้ร่วมกับทีวีเครื่องนี้อย่างไร้ปัญหา นอกจากนี้แอปพลิเคชัน Apple TV ก็สามารถใช้งานได้แล้ว พร้อมรองรับ AirPlay 2 สำหรับใช้มือถือ iOS ในการเชื่อมต่อด้วย สะดวกสบายมาก!
Tried & Tested
- วันนี้ THE STANDARD จึงถือโอกาสทดสอบความคมชัดด้วยสายตาของตัวเอง ผ่านการนั่งชมภาพยนตร์และมิวสิกวิดีโอที่เราอยากลองทดสอบความสวยงามของภาพ ควรค่าแก่การสัมผัสความแตกต่างอย่างแท้จริง และแน่นอนว่าความสวยงามของภาพสุดคมชัดนี้ ทำให้เราอยากมีติดบ้านไว้สักเครื่องเชียว!
เราเริ่มต้นจากหนังที่คิดว่าน่าจะมีภาพที่สวยงามก่อนเป็นลำดับแรก และเรานึกถึง Life of Pi ของผู้กำกับมากฝีมือ อังลี ที่รังสรรค์ความเวิ้งว้างของมหาสมุทรได้ออกมาทั้งสวยงามและน่าเกรงขามในที รวมไปถึงกราฟิกที่สมจริงทุกรายละเอียด โดยเฉพาะ เจ้าริชาร์ด ปาร์กเกอร์ เสือโคร่งเบงกอลตัวยักษ์ที่เป็นหนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง และเมื่อชมผ่าน Samsung QLED 8K แล้ว ทำให้รู้สึกได้รับประสบการณ์ที่มากกว่า ทั้งเรื่องความคมชัดของภาพและสีสัน
Cross Me คือมิวสิกวิดีโอจากอัลบั้มล่าสุดของ เอ็ด ชีแรน ซึ่งมีความน่าสนใจ โดยการใช้เทคโนโลยีโมชันแคปเจอร์บวกกับเทคโนโลยีเสมือนจริงหรือ VR (Virtual Realtiy) และเราเองก็อยากจะลองสัมผัสระบบ AI Upscaling ของทีวีเครื่องนี้ด้วย เพราะเราลองเปิดมิวสิกวิดีโอนี้ในแอปพลิเคชัน YouTube ในความคมชัดเพียง 1080p แต่คุณจะเห็นได้ว่า Samsung QLED 8K เครื่องนี้ก็จะแสดงภาพออกมาในรูปแบบที่คมชัด พิกเซลไม่แตก ถึงจะไม่ได้ชัดขนาดต้องว้าว แต่ว่ามันทำให้ภาพลื่นไหล ทั้งยังไม่ขัดตากับการไล่เฉดสีหลังจากอัปสเกลภาพแล้ว ยังคงความน่าชมของภาพไว้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญ หากคุณอยากชมวิดีโอจาก YouTube คุณก็สามารถใช้ระบบคำสั่งค้นหาด้วยเสียงภาษาไทยได้ทันทีอีกด้วย
ข้ามมาที่ภาพยนตร์สั้นของผู้กำกับ พอล โทมัส แอนเดอร์สัน เรื่อง Anima ที่ได้ ทอม ยอร์ก มาแสดงนำ ซึ่งงานภาพที่ตระการตาและการวาดลีลาตามจังหวะเพลงในรูปแบบภาพยนตร์มิวสิคัลนั้นมีความน่าสนใจอย่างมาก และการเปิดภาพยนตร์เรื่องนี้กับทีวีเครื่องนี้ก็ทำให้เราตื่นตากับมิติของความตื้นลึกที่ชัดเจนมากๆ ที่ให้เราได้เห็นทุกรายละเอียดของภาพมากขึ้น ราวกับเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย
ทีนี้เราลองปิดไฟในห้องเพื่อให้ได้เห็นความละเอียดของจอแบบชัดเจนที่สุด เราจึงเลือกแอนิเมชันชื่อก้องโลกอย่าง Frozen สำหรับการชื่นชมความคมชัดที่เหนือกว่า ซึ่งแน่นอนว่ามันสดใสเต็มตา ทั้งในขณะที่ปิดไฟเอง Intelligence Mode ของ QLED 8K ก็ทำให้ไม่รู้สึกว่าแสงจากจอแทงตาจากระบบการตรวจวัดความสว่างอัตโนมัติ และคุณลองมองเข้าไปใกล้ๆ สิ คุณจะพบว่าความละเอียดของหน้าจอมันละเอียดมากจนคุณไม่เห็นเม็ดพิกเซลด้านในจอ
ยกระดับการรับชมโทรทัศน์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สัมผัสประสบการณ์ความคมชัดที่สุดได้แล้ววันนี้กับ Samsung QLED 8K สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/qled8k
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
