×

ทายาท Samsung วางหุ้นเป็นหลักประกันมูลค่ากว่า 4.3 แสนล้านบาท เพื่อทยอยชำระภาษีมรดกจำนวนมหาศาล โดยที่ไม่เสียอำนาจความเป็นเจ้าของ

27.11.2021
  • LOADING...
ทายาท Samsung

ทายาทของ Samsung Group ได้วางหลักประกันเป็นหุ้นมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.3 แสนล้านบาท) เพื่อซื้อเวลาในการจ่ายภาษีมรดก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการวางหลักประกันใหญ่ที่สุดในโลก รองจาก แลร์รี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งบริษัท Oracle Corp. 

 

เนื่องจาก อีกอนฮี ประธานของ Samsung Group เสียชีวิตลงเมื่อปีที่แล้ว และจากมรดกที่ตกทอดมาสู่รุ่นหลัง ส่งผลให้ต้องจ่ายภาษีเป็นมูลค่ามากกว่า 12 ล้านล้านวอน (3.3 แสนล้านบาท) ดังนั้นเหล่าทายาทจึงต้องวางหลักประกันไว้ที่ศาลก่อนที่จะหาเงินมาจ่าย โดยจะแบ่งชำระเป็น 6 งวด ในเวลา 5 ปี

 

ชุงซุนซุบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทวิเคราะห์องค์กรอย่าง Chaebul.com ในกรุงโซลกล่าวว่า “นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทายาท Samsung ในการจ่ายภาษีที่มหาศาลขนาดนี้ ทายาทกลุ่ม Samsung มีความสามารถในการจ่ายอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่อยากเสียอำนาจในความเป็นเจ้าของบริษัทไปจากการขายหุ้น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้พวกเขายังมีสิทธิ์ในการออกเสียงในบริษัทเท่าเดิมอยู่”

 

วิธีวางหลักประกันนี้ถือเป็นวิธีที่ใช้กันเป็นปกติในหมู่คนรวยในเกาหลีใต้ เนื่องจากภาษีมรดกอาจสูงถึง 60% เลยทีเดียว ซึ่งการที่จะขอแบ่งชำระเป็นงวดๆ กฎหมายในเกาหลีใต้กำหนดให้วางหลักประกันมูลค่า 120% ของจำนวนเงินที่ต้องชำระ ซึ่งหากวางเป็นหุ้น มูลค่าจะถูกคำนวณด้วยราคาปิดของวันก่อนหน้าที่จะทำการตกลง

 

อีแจยง ทายาท Samsung Group ผู้ที่จะขึ้นนำ Samsung ต่อจากประธานคนก่อนหน้า มีการวางหลักประกันที่ศาลกว่า 1.07 พันล้านดอลลาร์ (3.5 แสนล้านบาท) ซึ่งคิดเป็น 96% ของหุ้นทั้งหมดที่เขาถืออยู่ใน Samsung C&T, Samsung Electronics และ Samsung SDS Co. ทางด้านฮงราฮี แม่ของเขา และโซฮยอน และบูจิน พี่สาวและน้องสาว ก็ได้วางหุ้นบางส่วนต่อศาลเพื่อเป็นหลักประกันเช่นกัน 

 

ทั้งแม่และ 2 พี่สาวน้องสาว ได้วางหุ้นเป็นหลักประกันเป็นมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ (8.6 หมื่นล้านบาท) เพื่อที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงินอีกด้วย ซึ่งการวางหลักประกันเพื่อกู้เงินนั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกบังคับขายหุ้นเมื่อราคาหุ้นตกลง หรือที่เรียกว่า ‘Margin Call’ ซึ่งจะส่งผลต่ออำนาจความเป็นเจ้าของและสิทธิ์ในการออกเสียงในที่ประชุมอีกด้วย

 

โดยในปีนี้หุ้น Samsung Electronics ร่วงลงถึง 7.7% ซึ่งถือเป็นการลดลงรายปีครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2018 สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องราคาที่ซบเซาของชิปหน่วยความจำ (Memory-Chip) แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองว่าหุ้นจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ด้วยความต้องการชิปจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟน, 5G และ AI ซึ่งคาดการณ์โดย มาซาฮิโร วาคาสึงิ นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence 

 

อีแจยง ผู้นำ Samsung คนต่อไป มีความมั่งคั่ง 8 พันล้านดอลลาร์ (2.67 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าหลังจากหักมูลค่าหุ้นที่ใช้เป็นหลักประกันไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ อีแจยง ถูกตัดสินจำคุกฐานติดสินบน และได้รับการปล่อยตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม และสูญเสียตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของเกาหลีใต้ให้กับ ไบรอัน คิม จากบริษัท Kakao Corp.

 

ภาพ: Bloomberg/SeongJoon Cho/Pool/Anadolu Agency via Getty Images 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising