สหพันพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย (SAFF) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงองค์กรกีฬาระดับโลก โดยยอมรับว่าเป็นความรับผิดชอบขององค์กรในการร่วมกันต่อสู้ในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในเวลานี้
จากกรณีที่กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการเข้ามาขอเทกโอเวอร์ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จนทำให้ถูกต่อต้านอย่างหนัก โดยเริ่มจากการที่ beIN SPORTS บริษัทผู้ให้บริการช่องกีฬาระดับโลกได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพรีเมียร์ลีกและทุกสโมสรว่า ซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างร้ายกาจของช่องเถื่อนที่ชื่อว่า beoutQ ซึ่งนอกจากลักลอบถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแล้ว ยังลักลอบถ่ายการแข่งขันระดับโลกทุกรายการ
ต่อมาทางด้านองค์การการค้าโลก (WTO) ได้มีรายงานที่มีการสรุปว่าซาอุดีอาระเบียล้มเหลวในการที่จะจัดการแก้ไขปัญหาการที่ beoutQ ละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬา จนทำให้อาจกระทบต่อเรื่องการเทกโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งนับตั้งแต่มีการตกลงซื้อขายสโมสรกันในเดือนเมษายน ขณะนี้กระบวนการพิจารณายังไม่เสร็จสิ้น
ล่าสุดทางด้านยาสเซอร์ ฮัสซัน อัลมิเซฮาล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป (UEFA) รวมถึงสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA), คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และพรีเมียร์ลีกโดยเนื้อหาระบุถึงความตั้งใจที่จะให้ความร่วมมือในการจัดการแก้ไขปัญหา
“ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาคือเส้นเลือดใหญ่ที่จะหล่อเลี้ยงอนาคต ไม่เฉพาะสำหรับสโมสรใหญ่ แต่คือโครงสร้างของกีฬาทุกระดับ
“ด้วยความตั้งใจในทางกีฬาของเรา จึงเป็นความรับผิดชอบที่เราจะต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ และในฐานะประเทศชาติเรารู้ว่ามีกรอบการทำงานของรัฐบาลที่จะสามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้”
อย่างไรก็ดี The Times สื่อในอังกฤษระบุว่า ท่าทีของซาอุดีอาระเบียครั้งนี้มาจากการที่ต้องการให้การเทกโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิลเกิดขึ้นให้ได้ เนื่องจากการได้มีส่วนร่วมกับพรีเมียร์ลีกเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: