×

ส่องปัญหาภายในรัสเซียผ่านขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ ที่มีรถถังแค่ ‘คันเดียว’

10.05.2024
  • LOADING...
รัสเซีย

9 พฤษภาคมของทุกปีคือวันแห่งชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในอดีตที่ผ่านมา รัสเซีย จะใช้โอกาสนี้ในการเฉลิมฉลองและแสดงแสนยานุภาพกองทัพผ่านขบวนสวนสนามทางทหารยิ่งใหญ่ ด้วยทหารเหล่าต่างๆ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เป็นความภูมิใจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถถัง เครื่องบินรบ หรือแม้แต่ระบบขีปนาวุธที่สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์

 

แต่สำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นการรำลึกวันแห่งชัยชนะปีที่ 79 ภาพความแข็งแกร่ง ยิ่งใหญ่ และน่าเกรงขามของกองทัพรัสเซียกลับดูถดถอยลง ทั้งในแง่จำนวนทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ลดลง อันเป็นผลกระทบจากการเปิดฉากทำสงครามในยูเครน

 

โดยหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากสงครามรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 พิธีสวนสนามในวันแห่งชัยชนะก็มีการปรับลดขนาดลง เช่น ยกเลิกเครื่องบินทหารบินเหนือจัตุรัสแดง และมีรถถังในขบวนสวนสนามเพียงคันเดียวคือรถถัง T-34 ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของโซเวียตเหนือนาซี

 

อย่างไรก็ตาม หากมองในอีกมุมหนึ่ง การปรับลดต่างๆ ในขบวนสวนสนามก็สะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อทัพรัสเซียในแนวหน้า ซึ่งภาพรวมการสู้รบช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเป็นฝ่ายรัสเซียเริ่มชิงความได้เปรียบ

 

ทั้งนี้สิ่งที่น่าสังเกตคือการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวสุนทรพจน์ก่อนเริ่มขบวนสวนสนาม โดยยอมรับตามตรงว่า “รัสเซียกำลังก้าวผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านอันยากลำบาก

 

“ชะตากรรมของมาตุภูมิ อนาคตของมันขึ้นอยู่กับเราแต่ละคน เราเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในบริบทของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ผู้เข้าร่วมทุกคน ผู้ที่อยู่ในแนวหน้า ในแนวรบ คือวีรบุรุษของเรา เราขอคารวะให้กับความอุตสาหะ ความเสียสละ และการอุทิศตนของคุณ รัสเซียทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกคุณ”

 

ภาพที่เกิดขึ้นในขบวนสวนสนามและท่าทีของปูตินสะท้อนปัญหาใหญ่ที่รัสเซียกำลังเผชิญ ทั้งจากสงครามในยูเครน ขณะเดียวกันยังมีปัญหาภายในเครมลินที่ร้าวลึกในระดับโครงสร้าง

 

ความสูญเสียของรัสเซีย

 

ข้อมูลจากสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษาระหว่างประเทศ (The International Institute for Strategic Studies: IISS) ที่เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาระบุว่า รัสเซียสูญเสียรถถังไปกว่า 3,000 คัน และรถหุ้มเกราะอีกจำนวนมาก นับตั้งแต่ทำสงครามบุกยูเครน ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากขีปนาวุธต่อต้านรถถังกับระเบิดและโดรน โดยช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กองทัพยูเครนอ้างว่าได้ทำลายรถถังรัสเซียหลายสิบคันในสมรภูมิที่แคว้นโดเนตสก์

 

รถถังรุ่นใหม่ๆ ของรัสเซีย ทั้ง T-14, T-72, T-80 และ T-90 ไม่สามารถชิงความได้เปรียบ ขณะที่หลายครั้งทัพรัสเซียต้องส่งรถถังยุคโซเวียตไปแนวหน้า

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสูญเสียรถถังและรถหุ้มเกราะไปมากมาย แต่ IISS ประเมินว่ารถถังที่รัสเซียมียังคงมากกว่ากองทัพยูเครนกว่า 2 เท่า

 

ในขบวนสวนสนามยังปรากฏสิ่งที่ดูเหมือนเครื่องรบกวนสัญญาณโดรน (Drone Jammer) ซึ่งอาจเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีด้วยโดรนจากยูเครนที่มีการโจมตีข้ามแดนระยะไกลเข้าไปในรัสเซีย แม้แต่ในมอสโก

 

แต่ถึงแม้รถถังที่นำมาแสดงจะมีน้อย รัสเซียยังคงมีอาวุธทันสมัยที่ทั่วโลกยังต้องยำเกรง โดยเฉพาะขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missiles) ที่บรรจุหัวรบนิวเคลียร์ได้

 

ปัญหาภายในเครมลิน

 

เบื้องหลังของวันแห่งชัยชนะในปีนี้ปรากฏข่าวอื้อฉาวในเครมลินเกี่ยวกับกรณีการติดสินบนที่สร้างความเสียหายให้แก่กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย หลังทิมูร์ อิวานอฟ (Timur Ivanov) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ถูกจับในข้อหารับสินบน ‘ก้อนใหญ่เป็นพิเศษ’

 

เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวขยายวงกว้างขึ้นด้วยการจับกุมนักธุรกิจรัสเซีย 2 คน ฐานต้องสงสัยพัวพันกับการติดสินบน ขณะที่สำนักข่าว TASS สื่อทางการรัสเซีย รายงานว่าอิวานอฟปฏิเสธข้อหาดังกล่าว และแสดงความพร้อมให้การเป็นพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

 

ด้านเจ้านายของอิวานอฟคือ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังแสดงบทบาทหน้าที่ของเขาตามปกติในการเข้าชมขบวนสวนสนาม ตรวจสอบกองทหาร และรายงานตัวต่อปูติน ก่อนที่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์

 

แต่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมลูกน้องคนสนิทของชอยกูกำลังก่อให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับการขับเคี่ยวอำนาจกันในกลุ่มผู้มีอำนาจระดับสูงของเครมลิน ขณะเดียวกันก็เริ่มทำให้หลายฝ่ายเพ่งเล็งไปยังวัฒนธรรมการติดสินบนในกองทัพรัสเซีย

 

ในฐานะหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อิวานอฟรับผิดชอบการดูแลโครงการต่างๆ เช่น การฟื้นฟูเมืองท่ามาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าทางใต้ของยูเครน ที่ถูกกองทัพรัสเซียบุกยึดและทำลายล้างในปี 2022

 

การบูรณะอาคารอพาร์ตเมนต์ในมาริอูโปลถือเป็นหนึ่งในวิธีการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลมอสโก ขณะที่ปูตินได้ลงพื้นที่เยือนเมืองแห่งนี้เมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์รัสเซียในแง่บวก

 

Financial Times เผยรายงานเชิงสืบสวนแสดงให้เห็นว่า การก่อสร้างและฟื้นฟูเมืองนี้กำลังดำเนินการโดยแรงงานด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าเงินทุนสำหรับการฟื้นฟูเมืองนี้กำลังถูกดูดกลืนไปกับการคอร์รัปชันโดยบริษัทที่ชนะสัญญาโครงการก่อสร้างจากรัฐบาล

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเชื่อว่ายังเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยในการคอร์รัปชันที่กัดกินภายในเครมลิน

 

ทั้งนี้การต่อต้านการคอร์รัปชันในเครมลินก็ยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตอนนี้ไร้นักการเมืองฝ่ายค้านที่กล้างัดข้อตรวจสอบอำนาจของปูตินและคนใกล้ชิด เพราะเกรงกลัวอันตรายที่อาจตามมาแบบเดียวกับ อเล็กเซ นาวาลนี อดีตผู้นำฝ่ายค้านที่โดนข้อหาฉ้อโกงและเสียชีวิตในเรือนจำขั้วโลก

 

และแม้ว่ารัสเซียจะสูญเสียกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากในการทำสงครามที่ยูเครน แต่เมื่อดูผลงานที่ผ่านมา รัฐบาลของปูตินยังคงสามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจและ GDP ให้เติบโตได้ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากนานาชาติ

 

แน่นอนว่าปูตินยังคงครองอำนาจประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ต่ออีก 6 ปี แต่ยังยากจะคาดเดาว่า ภายใต้การนำของเขาต่อจากนี้ รัสเซียจะสามารถชนะสงครามและกลับมายืนหยัดอีกครั้ง หรือเผชิญวันแห่งความพ่ายแพ้ที่พาให้ประเทศล้มเหลว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising