วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) 4 ประเทศสมาชิก NATO อย่าง เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส เตรียมส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน ต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่พยายามเดินหน้าขยายขอบเขตของความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การตัดสินใจจะส่งอาวุธทางทหารช่วยเหลือยูเครน นับเป็นการปรับแนวนโยบายครั้งใหญ่ของเยอรมนี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เยอรมนีเคยเห็นพ้องว่าจะไม่ส่งความช่วยเหลือทางทหาร รวมถึงอาวุธให้แก่ภูมิภาคที่มีความขัดแย้ง แต่ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพรัสเซียสร้างจุดเปลี่ยนที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี จึงตัดสินใจเตรียมส่งอาวุธให้กับพันธมิตรอย่างยูเครน เพื่อใช้รับมือกับกองทัพรัสเซีย
ทางด้าน ปีเตอร์ เฟียลา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก ก็เตรียมจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครนมูลค่าราว 8.5 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 275 ล้านบาท) พร้อมระบุว่า “เราจะทำทุกวิถีทางที่เราทำได้ เพื่อช่วยเหลือยูเครน”
นอกจากนี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์และโปรตุเกสก็ส่งมอบความช่วยเหลือทางทหาร โดยเฉพาะบรรดาอาวุธต่างๆ แก่พันธมิตรอย่างยูเครนเช่นเดียวกัน โดย อันโตนิโอ กอสตา นายกรัฐมนตรีโปรตุเกสระบุว่า โปรตุเกสตัดสินใจเตรียมจัดส่งอาวุธช่วยกองทัพยูเครนปกป้องประเทศของตน โดยสงครามครั้งนี้ไม่เพียงทำลายเสรีภาพในการกำหนดอนาคตของประเทศประชาธิปไตยเพียงประเทศหนึ่งเท่านั้น หากแต่เป็นสงครามที่ยังมุ่งทำลายหลักความเป็นประชาธิปไตยอีกด้วย
หลายฝ่ายคาดว่า บรรดาประเทศในยุโรปที่มีความสัมพันธ์อันดีกับยูเครน โดยเฉพาะภายใต้การนำของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี จะส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนและร่วมดำเนินมาตรการกดดันแก่รัสเซียที่กำลังละเมิดและทำลายหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้งในขณะนี้
ภาพ: Horacio Villalobos Corbis / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: