×

ผวาภัยสงคราม นักลงทุนแห่ขายสินทรัพย์เสี่ยงกดตลาดหุ้นทั่วโลกแดงเดือด Bitcoin ร่วง สวนทาง ‘ทองคำ-น้ำมัน’ พุ่ง

24.02.2022
  • LOADING...

นักลงทุนกังวลภัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังเริ่มมีเหตุการณ์ปะทะกันบ้างแล้ว ส่งผลตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงหนัก ขณะที่ Bitcoin ดิ่งแตะระดับ 35,500 ดอลลาร์ สวนทางกับราคาทองคำและน้ำมันที่ปรับขึ้นแรง นักวิเคราะห์แนะถือเงินสดพักเงินรอซื้อช่วงตลาดพักฐานหนัก

 

จากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกเคลื่อนไหวไปในทิศทางคล้ายกันในวันนี้ (24 กุมภาพันธ์) โดยเป็นภาพของการที่สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายออกมา ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและพันธบัตรมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า ส่วนราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นมาแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในรอบ 7 ปี 

 

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า จากความเสี่ยงในเรื่องของสงครามที่เกิดขึ้น ทำให้โดยธรรมชาติแล้วเงินทุนจะไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้น รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ไปเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอ เช่น หุ้นกู้ที่ผลตอบแทนสูง 

 

ในขณะที่การถือครองเงินสดจะเป็นลักษณะของการพักเงินในช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพื่อรอดูจังหวะสำหรับการจัดสรรเงินลงทุนอีกครั้ง เพราะในปัจจุบันราคาของสินทรัพย์ต่างๆ เริ่มปรับตัวทั้งขึ้นและลงมาแล้วพอสมควร 

 

“สำหรับหุ้น ณ ระดับราคาปัจจุบันไม่ใช่ระดับที่ควรจะขายแล้ว เพราะราคาที่ลดลงมีอารมณ์แพนิกเข้ามาผสมมากพอสมควร อย่าง Dow Jones Futures ที่ลดลง 700 จุดในช่วงแรก ก็เริ่มฟื้นกลับมาเหลือติดลบ 500 จุด และกลับกันในสินทรัพย์อย่างทองคำ ซึ่ง ณ ระดับนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นราคาที่สูงเกินไปแล้วในระยะสั้น”  

 

สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ได้เหนือไปกว่าความคาดหมายนัก แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปว่าหลังจากนี้จะมีพันธมิตรของทั้งสองฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมหรือไม่ 

 

ด้าน ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า มองว่า เงินลงทุนมีโอกาสจะถูกโยกกลับมาที่ตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีความน่าสนใจมากกว่าสหรัฐฯ และยุโรป ในส่วนของยุโรปนั้นมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ค่อนข้างมาก ขณะที่สหรัฐฯ เองยังถูกกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ย และการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว 

 

สำหรับสินทรัพย์อย่างน้ำมันและทองคำ มองว่าเป็นลักษณะของการซื้อขายเก็งกำไรเท่านั้น หากปัญหาเริ่มผ่อนคลายลง ราคาจะลดลงไปตาม แต่ในระยะสองสัปดาห์ข้างหน้านี้อาจจะยังพอเก็งกำไรได้ จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณของการคลี่คลาย 

 

“สิ่งสำคัญในช่วงนี้ ซึ่งตลาดผันผวนสูง นักลงทุนควรสำรองเงินสดไว้ โดยอาจจะพักเงินในตราสารตลาดเงินซึ่งเน้นคุ้มครองเงินต้น เพื่อรอจังหวะในการเข้าลงทุน ซึ่งตลาดที่น่าสนใจจริงๆ แล้วก็คือตลาดหุ้นไทย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปหากสถานการณ์ยืดเยื้อจนทำให้ปรับฐานลงไปมากกว่านี้ก็จะเริ่มน่าสนใจ” 

 

สำหรับตลาดหุ้นเอเชียที่สำคัญโดยภาพรวม 

ดัชนี BSE Sensex อินเดีย ลดลง 4.7%

ดัชนี Hang Seng ฮ่องกง ลดลง 3.2% 

ดัชนี KOSPI เกาหลีใต้ ลดลง 2.6% 

ดัชนี Taiwan Weighted ไต้หวัน ลดลง 2.5% 

ดัชนี PSEi Composite ฟิลิปปินส์ ลดลง 2.1%

ดัชนี Nikkei 225 ญี่ปุ่น ลดลง 1.8%

ดัชนี Shanghai จีน ลดลง 1.7% 

ดัชนี IDX Composite อินโดนีเซีย ลดลง 1.5%

ดัชนี VN 30 เวียดนาม ลดลง 1.1%

ดัชนี SET ไทย ลดลง 2% 

 

ขณะที่ตลาดหุ้นในฝั่งยุโรปที่สำคัญที่เปิดตลาดมาในช่วงแรก ณ เวลา 16.55 น. ตามเวลาประเทศไทย 

 

ดัชนี MOEX รัสเซีย ในช่วงแรกติดลบไปถึง 45% ก่อนจะฟื้นตัวลดช่วงลบมาเหลือ 23.5%

ดัชนี DAX เยอรมนี ลดลง 3.8%

ดัชนี CAC 40 ฝรั่งเศส ลดลง 3.8% 

ดัชนี FTSE 100 อังกฤษ ลดลง 2.7%

 

ด้านสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ ได้แก่ 

น้ำมันดิบเบรนต์ เพิ่มขึ้น 7.6% เป็น 101 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทองคำ เพิ่มขึ้น 2.5% เป็น 1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

Bitcoin ลดลง 8.8%   เป็น 35,500 ดอลลาร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising