อเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซีย โดยระบุว่ารัสเซียอาจเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ หากสหภาพยุโรป (EU) ยังคงมาตรการคว่ำบาตรห้ามการนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซีย ซึ่งจะกระทบทำให้ปริมาณงานของโรงกลั่นลดลง ดังนั้น รัสเซียจำเป็นต้องเพิ่มการนำเข้าเพื่อรักษากำลังการผลิตของโรงกลั่นไว้
โนวักกล่าวว่า หากมีปัญหาเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม การกลั่นน้ำมันในระดับหนึ่งสามารถถูกแทนที่ด้วยปริมาณการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้
กระนั้น รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียก็เห็นว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่การแบนของสหภาพยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบต่อการกลั่นน้ำมันของรัสเซียเลย
ทั้งนี้ มาตรการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันรัสเซียของสหภาพยุโรปมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ และอยู่นอกเหนือข้อจำกัดการนำเข้าน้ำมันดิบที่บังคับใช้เมื่อต้นเดือนธันวาคม
รองนายกรัฐมนตรีโนวักประเมินว่า รัสเซียจะผลิตน้ำมันอย่างน้อย 490-500 ล้านตันในปีหน้า ถือเป็นการยืนกรานตัวเลขการประมาณการณ์ก่อนหน้าของตนเอง ซึ่งปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับการผลิตน้ำมันประมาณ 9.84-10.04 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามอัตราส่วน 7.33 บาร์เรลต่อตัน โดยโนวักประเมินว่า ปีนี้รัสเซียน่าจะผลิตน้ำมันได้ 535 ตัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
- ยุโรปเลื่อนหารือกำหนดเพดานราคาน้ำมันจากรัสเซียเป็นสัปดาห์หน้า เหตุสมาชิกเสียงแตก
- คาด ‘จีน’ กำลังตุนทองคำ ‘อย่างเงียบๆ’ หวังลดการพึ่งพาดอลลาร์ และเตรียมพร้อมกรณีถูกคว่ำบาตร หลังเห็นรัสเซียโดนเชือด
อ้างอิง: