ตลาดคริปโตซื้อขายผันผวน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) ฟ้องร้องเว็บเทรดคริปโตหลายแห่ง รวมถึง Binance.US และ Coinbase ด้วยเหตุนี้แพลตฟอร์มซื้อขาย Robinhood จึงอาจได้ประโยชน์จากส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้น เนื่องจากนักเทรดรายย่อยย้ายมาเทรดที่ Robinhood มากขึ้น และการเพิ่มค่าธรรมเนียมซื้อขายรายย่อยของ Coinbase
Robinhood อาจได้ประโยชน์จากคดีฟ้องร้องของ ก.ล.ต. และ Coinbase
นักวิเคราะห์ Dan Dolev จาก Mizuho ตั้งข้อสังเกตว่า Robinhood อาจมีส่วนแบ่งตลาดธุรกรรมคริปโตจากรายย่อยมากขึ้นในระหว่างที่ Coinbase และ Binance.US เจอการฟ้องร้องกับ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ซึ่ง Robinhood ได้รับความนิยมอยู่แล้วในหมู่นักเทรดหุ้นรายย่อย
Dolev วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ยังไม่แน่ชัดว่าการสูญเสียส่วนแบ่งทางตลาดของ Coinbase มาจากความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบ หรือมาจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายรายย่อยของ Coinbase ที่เพิ่มสูงขึ้นกันแน่ แต่นี่เป็นสิ่งที่น่าจับตามองต่อไป
แม้ Robinhood อาจได้เปรียบทางส่วนแบ่งตลาดเนื่องจากคดีฟ้องร้องของ Coinbase จะยังคงดำเนินต่อไป แต่แพลตฟอร์มซื้อขายก็เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายคริปโตของ Robinhood ลดลง 43% จากเดือนก่อนหน้านั้น และร่วงลง 68% จากปีที่แล้ว นอกจากนี้รายได้จากการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็ลดลงอย่างมากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Robinhood ยังประกาศเพิกถอนโทเคน 3 รายการ ได้แก่ Cardano (ADA), Polygon (MATIC) และ Solana (SOL) ซึ่ง ก.ล.ต. มองว่าเหรียญดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์ หลังจากการฟ้องร้อง Coinbase และ Binance เมื่อเร็วๆ นี้
ส่วนแบ่งตลาดคริปโตของ Binance.US ร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี
นอกจาก Coinbase แล้ว Binance.US ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ข้อมูลล่าสุดจาก Kaiko แสดงให้เห็นว่า Binance.US มีส่วนแบ่งตลาดคริปโตในสหรัฐอเมริกาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี ซึ่งเหลือเพียง 2.7% เท่านั้น
ข้อมูลจาก The Block ยังชี้ว่าปริมาณการซื้อขาย Binance.US ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนมีนาคม มีการซื้อขายสินทรัพย์มูลค่า 17.6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การซื้อขายในเดือนเมษายนอยู่ที่ 15.2 ล้านดอลลาร์ และเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 9 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้วอลุ่มการซื้อขายลดลงมาจากการประกาศเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาที่ให้ลูกค้าถอนเงินดอลลาร์สหรัฐออกจากแพลตฟอร์มก่อนที่บัญชีจะถูกระงับ
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: