วานนี้ (7 พฤศจิกายน) ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวในที่ประชุมโลกร้อน COP27 ที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ ว่าสงครามในยูเครนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ประชาคมโลกต้องจัดการกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศและความมั่นคงทางด้านพลังงานมีความเกี่ยวเนื่องกัน
ขณะนี้ยูเครนกำลังประสบกับวิกฤตด้านพลังงานในช่วงฤดูหนาว หลังกองทัพรัสเซียมุ่งโจมตีแหล่งผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าและพลังงานน้ำในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเคียฟ เป็นเหตุให้ทางการสั่งประชาชนเตรียมพร้อมอพยพออกจากเมืองหลวงชั่วคราวแล้ว หากวิกฤตพลังงานมีทีท่ายืดเยื้อยาวนาน โดยสถานการณ์การขาดแคลนพลังงานในยูเครนอาจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเร่งที่สำคัญ
ซูนัคยังระบุอีกว่า “สงครามที่น่าชิงชังของปูตินในยูเครน และการพุ่งสูงขึ้นของราคาพลังงานทั่วโลก ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอัตราที่ช้าลง
ประชาคมโลกเคยรวมตัวกันที่เมืองกลาสโกว์ เพื่อใช้หนึ่งในโอกาสสุดท้ายจัดทำแผนที่จะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม คำถามวันนี้คือ เรายังจะทำตามเจตจำนงที่เคยให้คำมั่นสัญญานั้นได้หรือไม่
“จากคำมั่นที่เราให้ไว้ที่กลาสโกว์ เราสามารถเปลี่ยนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กลายเป็นภารกิจระดับโลก เพื่องานใหม่และการเติบโตที่สะอาด อีกทั้งเรายังสามารถส่งต่อโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเต็มไปด้วยอนาคตให้กับลูกหลานของเราได้ ยังคงมีพื้นที่ว่างสำหรับความหวังอยู่จริงๆ”
การเดินทางเข้าร่วมการประชุม COP27 ในครั้งนี้ นับเป็นการเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติครั้งแรกของซูนัค ในฐานะนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนใหม่ หลังเข้ารับตำแหน่งได้เพียงราว 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยเขาได้รับแรงกดดันและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจว่าจะไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมโลกร้อนในปีนี้ที่อียิปต์ เพราะติดพันภาระงานจำนวนมากภายในประเทศ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจในท้ายที่สุด
โอกาสนี้ ผู้นำสหราชอาณาจักรยังเตรียมจัดสรรงบประมาณ 200 ล้านปอนด์ (ราว 1.67 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุนนโยบายปกป้องผืนป่า และพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวในประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย
ภาพ: Ahmad Garabli / AFP
อ้างอิง: