วันนี้ (1 สิงหาคม) ช่างภาพ THE STANDARD ลงพื้นที่บันทึกภาพการฝึกซ้อมของกำลังพลจำนวน 2,200 นาย ที่จะร่วมในพิธีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน
พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวมอบโอวาทแก่กำลังพลตอนหนึ่งว่า ขอให้กำลังใจกำลังพลทุกนายในการซ้อม เป็นขบวนเรือครั้งแรก จากนี้ไปจะซ้อมอีก 10 ครั้ง และการซ้อมใหญ่วันที่ 15 และ 22 ตุลาคมนี้ และวันเสด็จพระราชดำเนินจริง 27 ตุลาคมนี้ ซึ่งทุกคนคือความภูมิใจของกองทัพเรือ ทุกคนคือความภูมิใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติที่จะได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่ง และจงทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ เพื่อให้การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ ขอให้ดูแลเรื่องอุบัติเหตุ อย่าให้เกิดขึ้น ให้มีความระมัดระวัง และขอให้รักษาสุขภาพอนามัย ยิ่งช่วงใกล้งานพระราชพิธีขอให้ดูแลสุขภาพร่างกาย ป้องกันโรคระบาดต่างๆ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมการป้องกันให้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับรูปแบบการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 2,200 นาย และเจ้าหน้าที่รวม 2,340 นาย ซึ่งการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ รูปขบวนเรือแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ
- ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก, เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน
- ริ้วสายใน ขนาบข้างฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของริ้วซ้ายกลาง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้า, เรือเสือทยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์เป็นเรือพิฆาต, เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก
- ริ้วสายนอก อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของริ้วสายใน ประกอบด้วยเรือดั้งและเรือแซง สายละ 14 ลำ รวม 52 ลำ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชมการฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่าน โดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิดมีดังนี้ ฝั่งธนบุรี บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่มเคลื่อนขบวนบริเวณสะพานพระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
