การปีนป่ายขึ้นไปบนยอดเขาอันสูงชัน
การปลูกดอกไม้ในที่ที่แสงแดดไม่เคยส่องถึง
การพิสูจน์ความเชื่อภายใต้การดูถูกของใครบางคน
เรากำลังพูดถึงหนังสั้นโฆษณาในโอกาสครบรอบ 40 ปีบางจาก ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ #กระจกกับดอกไม้ หนังที่ให้คุณค่ากับทุกกระบวนการ นับตั้งแต่การคราฟต์ไอเดียมาสู่เนื้อหา ตลอดจนการลงทุนกับโปรดักชันให้ออกมาตระการตาและละเมียดละไมที่สุด
เพื่อแทนคำบอกเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์บางจาก ก่อนมาถึงวันนี้ ‘บางจาก’ ผ่านอุปสรรคท้าทายและบททดสอบโหดหินไม่ต่างจากฉากต่างๆ ที่เราได้เห็น
เริ่มต้นจากความฝันอันยิ่งใหญ่
เนื้อหาในช่วงแรกของหนังเล่าเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง เขามีน้องสาวที่นอนป่วยอยู่แต่ในบ้าน วันหนึ่งเมื่อมองเห็นโอกาสที่จะทำให้น้องสาวได้เห็นแสงอาทิตย์ ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ฝันของเด็กชายสะท้อนถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ของบางจาก มันคือความฝันที่มุ่งไปไกลกว่าแค่การทำกำไรสู่ธุรกิจ แต่ต้องการให้ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อม
ปี 2527 หรือในยุคโชติช่วงชัชวาลของไทย บางจากริเริ่มจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ก่อนจะแปรรูปเป็นบริษัทธุรกิจเอกชนในปี 2544 แต่หนทางมาสู่วันนี้ของบางจากไม่ง่าย หากเต็มไปด้วยอุปสรรคท้าทายและถ้อยคำสบประมาทมากมาย ไม่ต่างจากสายตาของชายชราที่มองไปยังเด็กชาย
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า
“ฉากที่เล่าถึงการเย้ยหยันของคุณลุงคนนั้น สะท้อนถึงสิ่งที่บางจากได้รับมาตลอด นับตั้งแต่วันที่เราแยกตัวเป็นอิสระจากการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่ ช่วงนั้นคนตั้งคำถามกับเราต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น ‘บางจากจะอยู่ได้สักกี่น้ำ’, ‘ภายใน 2-3 ปีก็คงไม่รอดแล้ว’ วันนี้คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่เรายังมีศักยภาพมากขึ้น”
ขับเคลื่อนความฝันด้วยการลงมือทำ
เพราะความฝันอยากให้น้องสาวหายป่วยและกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง เด็กชายตัดสินใจแบกกระจกเดินขึ้นไปที่ยอดเขา หวังให้กระจกสะท้อนแสงอาทิตย์มายังหมู่บ้าน
ในที่สุดเด็กชายก็ไปถึงจุดหมาย กระจกบานนั้นได้สะท้อนแสงลงมาที่หมู่บ้าน เปลี่ยนพื้นที่ที่เคยถูกความมืดปกคลุมให้สว่างสดใสขึ้นทันตา จนชาวบ้านที่เห็นต่างตกใจและประหลาดใจ
การดำเนินธุรกิจของบางจากที่ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้างลอยๆ แต่ตลอด 4 ทศวรรษ บางจากได้พิสูจน์ให้เห็นผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เช่น ปั๊มชุมชน การพัฒนานวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว และบางจากดีเซล 357 กำมะถันต่ำรายแรกของไทย และการคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนมาเป็นของสมนาคุณเพื่อความยั่งยืนของเศรษฐกิจชุมชน ฯลฯ
ถึงวันนี้ ธุรกิจภายใต้แบรนด์บางจาก ไม่ได้พึ่งพาแค่ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน แต่ครอบคลุมไปถึงกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว เป็นส่วนสำคัญในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และเปลี่ยนแปลงโลกสู่ความยั่งยืน อาทิ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ฯลฯ
นับเป็นบทพิสูจน์ของการขับเคลื่อนความฝันให้กลายเป็นจริง ผ่านการลงมือทำด้านความยั่งยืนอย่างเอาจริงเอาจังและเป็นรูปธรรม
ความยั่งยืนเกิดจากการร่วมมือรวมพลัง
แม้ความสว่างสดใสจะมาเยือนหมู่บ้าน แต่แสงส่องลงมาได้เพียงครู่เดียวก็ดับลง ก่อนจะกลับไปสู่ความมืดมิดดั่งเดิม
สะท้อนให้เห็นว่า ความมุมานะพยายามของคนคนหนึ่ง อาจนำพาความสำเร็จมาให้ แต่ความสำเร็จนั้นอาจไม่ใช่ความสำเร็จที่ยั่งยืน เพราะบนยอดเขาที่สูงชันย่อมมีอุปสรรคนานัปการที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นลมพัดแรง พายุฝน รวมถึงบริบทแวดล้อมที่ไม่สามารถควบคุมได้
คงเปรียบได้กับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ที่การเติบโตเพียงลำพังอาจทำให้เติบโตช้ากว่าการมีพันธมิตรหรือคู่ค้าที่ดี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของหนึ่งดีลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจพลังงาน
ความตั้งใจของเด็กชายเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เด็กชายนำทางพาคนในหมู่บ้านเดินไปยังยอดเขา ทั้งหมดร่วมมือกันสร้างกระจกบานใหม่ขึ้นมา กระจกบานใหม่นี้ใหญ่กว่าเดิม และสามารถตั้งสะท้อนแสงไปยังหมู่บ้านได้
หมู่บ้านสว่างสดใสตลอดไป ผู้คนในหมู่บ้านสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข และน้องสาวของเขาก็สุขภาพดีขึ้น หายจากอาการป่วย
บางจากในวันนี้ไม่ได้เดินเพียงลำพัง แต่ได้เติบโตไปพร้อมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม และด้วย ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ อันเป็นหลักคิดที่พนักงานทุกระดับในองค์กรยึดถือร่วมกัน ส่งผลให้ธุรกิจที่เคยถูกสบประมาทกลับมาแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงจนสามารถผนึก Esso เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การ ‘รังสรรค์โลกที่ยังยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ ที่นับเป็นความฝันครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
ความยั่งยืนคือธรรมชาติ
การทำหนังโดยย้อนกลับไปเล่าเรื่องในยุคก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการใช้ไฟ ที่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอดด้วยวิถีทางธรรมชาติ รวมถึงการใช้สัญญะอย่างเช่น ดอกไม้ ภูเขา และรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติของเด็กหญิง นอกจากจะเป็นการปักหมุดการพัฒนาธุรกิจที่มุ่งสู่การส่งเสริมธรรมชาติมากขึ้น ยังเป็นการนำเสนอมุมมองที่บางจากมีต่อเทรนด์ ‘ความยั่งยืน’ ที่ทุกวันนี้ไม่มีธุรกิจไหนไม่พูดถึง
ชัยวัฒน์กล่าวว่า ในทศวรรษที่ 4 บางจากไม่เพียงแต่ขยายศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ยังมุ่งไปสู่การสร้าง ‘สมดุล’ ของการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ และการสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยแนวคิด Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สร้างพลังไม่สิ้นสุด
“บางจากใช้คำว่า Regenerative แทนคำว่าความยั่งยืน เวลาพูดถึงความยั่งยืน หลายคนเข้าใจว่าหมายถึงสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป แต่จริงๆ แล้วเรามองว่า ความยั่งยืนคือธรรมชาติ ที่มีการเกิดขึ้น ผลิบาน คงอยู่ และดับไป นับตั้งแต่มนุษยชาติกำเนิดขึ้นในโลกใบนี้ ธรรมชาติได้สอนถึงสัจธรรมเหล่านี้ให้เราตลอดมา”
การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบางจากได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากนี้จะมีการผลิดอกออกผลอย่างไร หรือจะก่อเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในภาคพลังงานไทยอย่างไร เชื่อว่าอีกไม่นาน เราน่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เกิดขึ้น
รับชมหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?si=nTwGutJbe-pFbWxd&v=EmkWEhC9hjs&feature=youtu.be