สนามรบตลาดพรีเมียมเอเนอร์จี้ดริงก์ดุเดือดขึ้นไปอีก เมื่อผู้เล่นที่มีมากกว่า 7 รายเร่งเครื่องทำตลาดจับคนรุ่นใหม่ ไม่เว้นแม้แต่ TCP ทุ่มงบคว้า แบมแบม GOT7 ขึ้นเป็นพรีเซนเตอร์เปิดตัว เรดบูล โซดา หวังดึงฐานแฟนทั้งในและต่างประเทศ
วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ตลาดเอเนอร์จี้ดริงก์ในปี 2567 มีมูลค่า 6.1 พันล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโต 5% โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนสินค้ากลุ่มนี้จะขายดี ซึ่งหากแบ่งเป็นเซ็กเมนต์พรีเมียมเอเนอร์จี้ดริงก์อย่างเดียวจะมีมูลค่า 2 พันล้านบาท ถือว่าตลาดยังไม่ใหญ่มาก แต่มีแนวโน้มเติบโตกว่าเอเนอร์จี้ดริงก์ระดับแมสทั่วไป
สิ่งที่เห็นได้ชัดในตลาดมีทั้งผู้เล่นรายเก่าและรายใหม่ที่แข่งกันพัฒนาเครื่องดื่มเอเนอร์จี้ดริงก์ออกมาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ทำให้แบรนด์เรดบูลที่อยู่ภายใต้ TCP ต้องเผชิญการแข่งขันสูงมาก และแม้จะเป็นผู้นำตลาดแต่ต้องไม่หยุดสร้างความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ออกมา แต่กลุ่มพรีเมียมส่วนใหญ่จะไม่แข่งกันเรื่องของราคา จะเน้นแข่งเรื่องคุณภาพของตัวสินค้ามากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สิ่งที่น่าสนใจในปีนี้เรดบูลได้เปิดตัวเรดบูล เอ็กซ์ตร้า และเรดบูล โซดา 4 รสชาติ จุดแข็งคือเป็นสูตรไม่มีน้ำตาล พร้อมทุ่มงบคว้าตัว แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ แบมแบม GOT7 เข้ามารับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด พร้อมวางทิศทางการเติบโตของแบรนด์ผ่านกลยุทธ์ ‘Recharge และ Refresh’ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้และขยายฐานลูกค้าใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่น Gen Z
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เรดบูลเติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา ส่วนปีที่ผ่านมาเรดบูล เอ็กซ์ตร้า เติบโต 40% เรดบูล โซดา เติบโต 30% ยังคงความเป็นผู้นำตลาดพรีเมียมเอเนอร์จี้ดริงก์
เนื่องจากที่ผ่านมา เรดบูลได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ผ่านการคอลแลบกับแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวเรดบูล ฮอลล์ เอ็กซ์เอส, เอเนอร์จี้ดริงก์ เม็ดอม, หมากฝรั่งเดนทีน สแปลช เรดบูล และไอศกรีม Molto x Red Bull โดยถือว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของยอดขายและแบรนด์ เป็นที่รู้จักมากขึ้น
“แม้กำลังซื้อในปีนี้ยังอยู่ในระดับทรงตัว แต่เรามั่นใจว่าความโด่งดังของแบมแบม GOT7 ที่มีฐานแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศจะช่วยสร้าง Awareness และความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้ และด้วยจุดขายของเรดบูล โซดา สูตรไม่มีน้ำตาลก็สามารถรองรับเทรนด์ความต้องการเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและยังช่วยลดต้นทุนจากภาษีความหวานด้วยเช่นกัน” วรวุฒิย้ำ