ความโดดเด่นที่ทำให้ Raya and The Last Dragon ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องล่าสุดจาก Walt Disney Animation Studios กลายเป็นผลงานที่แฟนๆ เจ้าหญิงดิสนีย์เมืองไทยต่างตั้งตารอ คือการที่ทีมสร้างได้ออกมาเปิดเผยว่า เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงวัฒนธรรมของประเทศไทย
และสิ่งแรกที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ชมตั้งแต่ตัวอย่างแรกคงหนีไม่พ้น เจ้าตุ๊กตุ๊ก สัตว์พาหนะของ รายา ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถตุ๊กตุ๊กที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น เราทราบข่าวมาว่า Raya and The Last Dragon มีชาวไทยเป็นส่วนหนึ่งในทีมสร้าง โดย ฝน วีระสุนทร เป็นผู้รับตำแหน่ง Head of Story ที่ดูแลในส่วนของการเล่าเรื่องผ่านภาพของหนังเรื่องนี้
ทั้งหมดนี้จึงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษและเฝ้ารอการมาถึงของ Raya and The Last Dragon อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อเข้าไปสำรวจว่าเหล่าทีมสร้างจะหยิบนำวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เราคุ้นเคยมาตีความใหม่และสร้างสรรค์ออกมาเป็นภาพเหนือจินตนาการอย่างไร
Raya and The Last Dragon บอกเล่าเรื่องราวของ นครคูมันตรา โลกที่มนุษย์และมังกรใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง ดรูน สัตว์ประหลาดลึกลับที่สามารถทำให้มนุษย์กลายเป็นหิน ได้บุกรุกเข้ามาเเพื่อหมายจะยึดครองนครคูมันดรา เหล่ามังกรจึงยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องมนุษย์เอาไว้
วันเวลาผ่านไปกว่า 500 ปี นครคูมันตราที่เคยอยู่รวมกันอย่างเป็นปึกแผ่นกลับแตกแยกออกเป็น 5 เผ่าและทำสงครามกันมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งความขัดแย้งเหล่านั้นส่งผลให้ดรูนปรากฏตัวอีกครั้ง จึงทำให้ รายา นักรบหญิงผู้สันโดษต้องออกเดินทางไปทั่วนครคูมันตราเพื่อตามหา ซิซู มังกรตัวสุดท้ายเพื่อต่อสู้กับดรูนและนำความสงบสุขกลับมายังนครคูมันดราอีกครั้ง
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของ Raya and The Last Dragon ขอกล่าวถึงหนังสั้นที่ฉายปะหน้าก่อนหนังจริงจะเริ่ม นั่นคือ Us Again ผลงานการกำกับของ แซ็ค ปาร์ริช หนึ่งในทีมแอนิเมเตอร์จาก Moana (2016) โดยถือเป็นหนังสั้นเรื่องแรกในรอบ 5 ปีของ Walt Disney Animation Studios
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นหนังสั้นความยาวไม่กี่นาที แต่กลับเป็นแอนิเมชันที่เปี่ยมล้นไปด้วยสีสันของชีวิตและเสียงดนตรีฟังสนุกที่เชิญชวนให้เราโยกไปตามจังหวะ ไม่เพียงเท่านั้น เนื้อหาที่สื่อผ่านตัวละครภายในเรื่องยังชวนให้เรามองหาแง่งามของชีวิตอีกด้วย เราจึงไม่อยากให้แฟนๆ ดิสนีย์พลาดชม Us Again ด้วยประการทั้งปวง
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของแอนิเมชันเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกเรื่องที่ใครหลายคนต่างเฝ้าจับตา คือผู้ที่จะมารับหน้าที่พากย์เสียงภาษาไทย โดยผู้ที่มารับบทเป็น รายา ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธอคือ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ นักแสดงหญิงเจ้าบทบาทที่คอละครรู้จักเธอเป็นอย่างดี
ซึ่งแม้ว่า Raya and The Last Dragon จะเป็นผลงานการพากย์ครั้งแรกของญาญ่า แต่หากมองโดยภาพรวมแล้ว เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของรายาออกมาได้ดีและกลมกลืนไปกับเหล่านักพากย์มืออาชีพพอสมควร โดยเฉพาะฉากดราม่าที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงทักษะการแสดงของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เราอยากเชิญชวนให้แฟนๆ ลองรับชม Raya and The Last Dragon ฉบับพากย์ไทยด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบงานพากย์ไทยของญาญ่าอย่างไร เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณก็ได้พิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง
หนึ่งในองค์ประกอบของเรื่องที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัวคือดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ได้ เจมส์ นิวตัน ฮาวเวิร์ด คอมโพสเซอร์มากฝีมือผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบให้กับแฟรนไชส์ยอดฮิตอย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) ซึ่งครั้งนี้เขานำเสียงเครื่องดนตรีอันมีเอกลักษณ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเรียบเรียงดนตรีให้มีกลิ่นอายความแฟนตาซีเข้าไป เพื่อเสริมให้บรรยากาศของนครคูมันตราตระการตายิ่งขึ้น
ขณะที่บรรยากาศของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหล่าทีมสร้างใส่เข้ามาภายในเรื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งความสนุกสนานในการชมหนังเรื่องนี้พอสมควร เพราะเราจะได้เห็นบ้านเรือน เสื้อผ้า อาหาร และผลไม้ที่เราคุ้นเคยตลอดทั้งเรื่อง เช่น ลองกอง, ทุเรียน, ข้าวสวย, วัดวาอาราม, ไปจนถึงบรรยากาศของตลาดน้ำที่คับคั่งไปด้วยผู้คน
และสิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ คือการที่สองผู้กำกับอย่าง ดอน ฮอลล์ (Big Hero 6) และ คาร์ลอส โลเปซ เอสตราดา (Blindspotting) นำ ‘สายน้ำ’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ชีวิต’ ที่อยู่คู่กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน มาตีความใหม่และสอดแทรกลงไปในเนื้อเรื่องได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย
ในด้านของตัวละครภายในเรื่องเรียกได้ว่าถูกออกแบบมาได้อย่างมีเสน่ห์ ตั้งแต่ รายา เจ้าหญิงแห่งเผ่าหัวใจที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ของหญิงแกร่ง แต่อีกด้านหนึ่งเธอก็มีมุมอ่อนโยนชวนให้เราหลงใหล ซึ่งบทบาทของเธอนั่นถือเป็นตัวแทนที่ถ่ายทอดความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และความอ่อนโยนที่อยู่ภายในตัวผู้หญิงออกมาได้อย่างชัดเจน
และเหล่าตัวละครที่เราไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ คือแก๊งมิตรสหายของรายาอย่าง บุญ ทอง และ น้อย ที่เรียกได้ว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขโมยซีนตัวละครหลักอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะ น้อย เจ้าเด็กตัวน้อยน่ารักน่าชังที่มีความสามารถพิเศษคือการย่องเบา ซึ่งเรียกเสียงฮาให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
โดยภาพรวมแล้วเรียกได้ว่า Raya and The Last Dragon ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Walt Disney Animation Studios ที่สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกให้กับผู้ชมได้อย่างกลมกล่อม โดยเฉพาะบรรยากาศของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ชวนให้เราคอยสังเกตว่ามีสิ่งของหรืออาหารอะไรบ้างที่เรารู้จัก และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แฟนๆ เจ้าหญิงดีสนีย์ชาวไทยไม่ควรพลาด
ว่าแล้ว เราก็ขอไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำต้มยำทานสักหน่อยดีกว่า
ภาพประกอบ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
