×

รังสิมันต์เชิญ ธรรมนัส-นฤมล-วรภัค แจงความเชื่อมโยง เบน สมิธ ชี้ทุกหน่วยงานรัฐรู้จัก ‘นักการเมือง ช.’ แต่ไม่ดำเนินการ

โดย THE STANDARD TEAM
29.10.2025
  • LOADING...
รังสิมันต์เชิญ ธรรมนัส-นฤมล-วรภัค แจงความเชื่อมโยง เบน สมิธ ชี้ทุกหน่วยงานรัฐรู้จัก ‘นักการเมือง ช.’ แต่ไม่ดำเนินการ

วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการการประชุมกรรมาธิการฯ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีการเชิญ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาธิการ เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ

 

รังสิมันต์ระบุว่า เราให้เกียรติทุกคนทำหนังสือเชิญให้มาชี้แจง ในเรื่องที่มีข้อมูล จะให้คนอื่นมาชี้แจงแทนไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ. ธรรมนัส กับ เบน สมิธ รวมถึงคนอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับ เบน สมิธ ซึ่งไม่สามารถมอบหมายให้คนอื่นมาชี้แจงแทนได้ พรุ่งนี้ (30 ตุลาคม) ทางกรรมาธิกาคงจะได้รับคำตอบว่าจะมาหรือไม่ ซึ่งการตอบรับต้องรอดูนาทีสุดท้ายก่อนที่จะเข้าประชุม

 

ทั้งนี้ ฝากถามไปยัง ร.อ. ธรรมนัส และนฤมล ว่าจะมาหรือไม่ รวมถึง วราห์ สุจริตกุล รองประธานกรรมการบริษัทฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ วรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เท่านั้นที่จะมาตอบคำถามเรื่องนี้ได้ ทั้งนี้ หากไม่มาในครั้งที่ 2 คงต้องคุยในกรรมาธิการอีกครั้ง

 

“บุคคลที่ท่านเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ได้ถูกเฝ้าระวังแค่ประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่ถูกเฝ้าระวังจากหน่วยงานทั่วโลก อาจจะคิดว่าอยู่เหนือกฎหมายไทยได้ กฎหมายไทยอาจจะทำอะไรท่านไม่ได้ แต่จงรู้ไว้ว่าเรื่องนี้ใหญ่ระดับโลก ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากความยุติธรรมที่ทั่วโลกพร้อมจะจัดการอย่างแน่นอน ส่วนตัวยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา ท่านมาให้ข้อมูลกับเราอย่างตรงไปตรงมา ข้อมูลเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้าไม่มาก็ต้องตอบคำถามกับสังคม” รังสิมันต์กล่าว

 

เชื่อหน่วยงานรัฐมีข้อมูลนักการเมือง ช. อยู่แล้ว

 

ส่สนกรณีที่นายกรัฐมนตรีท้าให้เปิดชื่อนักการเมือง ช. นั้น รังสิมันต์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมาท้าว่าเปิดชื่อ เชื่อว่าหน่วยงานของรัฐมีข้อมูลอยู่ เช่นกรณีของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พูดชื่อ ช. ถามว่าพล.ต.อ. สุรเชชษฐ์จะมีข้อมูลคนเดียวหรือ ตำรวจจำนวนมากก็มีข้อมูล แต่ทำไมยังเงียบอยู่ ยังไม่มีการดำเนินการอะไร ทำไมต้องให้ภาระการพิสูจน์ความเสี่ยงตกอยู่กับฝ่ายค้าน ทำราวกับว่าเครื่องมือของฝ่ายค้านมีมากกว่าฝ่ายบริหาร

 

”ผมยินดีให้ความร่วมมือนายกรัฐมนตรี ถ้าจะเชิญผมไปพูด หรือให้ข้อมูลในคณะกรรมการที่ท่านตั้ง ผมยินดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกันเมื่อกรรมาธิการความมั่นคงฯ ขอความร่วมมือให้ท่านมาให้ข้อมูลกับเรา เพื่อให้เรามีการสอบข้อเท็จจริง เราก็คาดหวังความร่วมมือเช่นเดียวกัน” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเชิญนักการเมือง ช. จริงๆ คิดว่าจับเลยก็ได้ เชื่อว่าหน่วยงานรัฐมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมไม่มีการดำเนินการในการเอาผิด ตอนนี้หลายตัวละครสามารถดำเนินการได้ทันที ที่แปลกใจคือ มีผลประโยชน์ได้เสียอะไรกัน ทำไมถึงไม่ยอมดำเนินการ

 

“เราไม่อยากจะจัดการปลาซิวปลาสร้อยแล้ว อยากจะเอาตัวที่เป็นตัวสำคัญอาชญากรรมข้ามชาติ ประเด็นคือทำไมตัวอาชญากรรมข้ามชาติ ถึงไม่มีการจัดการ ช. ก็ใหญ่ระดับหนึ่ง แต่ก็มีใหญ่กว่า สาวถึงอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทางสหรัฐอเมริกา เขาจะดำเนินการได้อย่างไร เขาอยู่ไกลแต่ทำไมดำเนินการได้ ประเทศไทยอยู่ใกล้แค่นี้ ทำไมเราดำเนินการไม่ได้” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ย้ำว่า มีบุคคลที่ใหญ่จริงๆอยู่ ใหญ่มาก ซึ่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้หลายคนก็รู้อยู่กันอยู่แล้วว่ามีนักการเมืองคนไหนบ้าง เท่าที่นั่งนับตอนนี้เกิน 7 คนแล้ว บางคนไม่เป็นนักการเมืองก็เข้ามาเป็นนักการเมืองแล้ว ดังนั้น ความเกี่ยวพันกับสแกมเมอร์แล้วเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจ ที่อยู่ภายในประเทศมีอยู่จริงๆ และเป็นหนึ่งในต้นตอของปัญหา กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินระดับโลก

 

ย้ำไม่มีโจรปราบโจร มีแต่โจรอุ้มโจร

 

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องทุนเทายึดประเทศ วันนี้เราเห็นเงินเทาเหล่านี้เข้ามาซื้อห้างร้านต่างๆในไทย เข้ามาตั้งธุรกิจแข่งในไทย และเงินเหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเงินผู้มีอำนาจ ที่จะเอามาใช้ในการแข่งขันทางการเมือง เพื่อยึดอำนาจของรัฐ และนำไปสู่การใช้อำนาจรัฐเพื่อปกป้องบรรดาทุนสีเทาทั้งหลาย

 

“วันนี้เรากำลังเจอทุนสีเทายึดประเทศไทยแล้ว ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีข้อมูล ไปดูเส้นทางการเงินได้ เทคนิคไม่ได้ยาก เส้นทางการเงินเป็นตัวพิสูจน์ แต่สงสัยการทำหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ทำงานเฉื่อยช้า เป็นการทำงานตั้งรับไม่ใช่การทำงานเชิงรุก ต้องรอให้มีการดำเนินการโดยตำรวจก่อน จึงมองว่าหากทำงานในลักษณะนี้ อาจจะมีการแยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินของแก๊งสแกมเมอร์ที่มีอยู่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการหรือจับกุมได้ จนจึงต้องการให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ ปปง. ทำงานเชิงรุก”

 

สำหรับกรณีที่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และประธานวิปรัฐบาล ระบุว่ามใช้โจรปราบโจรนั้น รังสิมันต์กล่าวว่า แสดงว่าชาดา รู้ว่าใครเป็นโจร และเชื่อว่าโจรไม่สามารถปราบโจรได้ มีแต่โจรอุ้มโจร

 

“คุณชาดาในฐานะประธานวิปรัฐบาล รู้ว่าใครเป็นโจร คำถามก็คือคนระดับนายกรัฐมนตรี คุณอนุทินเคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง และวันนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่รู้หรือครับว่าใครเป็นโจร ขนาดคุณชาดายังรู้เลย” รังสิมันต์กล่าว

 

ส่วนที่รังสิมันต์ระบุว่า มีนักการเมืองไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสแกมเมอร์ ยืนยันว่าทั้งหมดที่พูดมาไม่ใช่เรื่องลอยๆ แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติ วันนี้คนที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือตน ตกลงคือได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ใช่หรือไม่ ได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่ พร้อมตั้งคำถามเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงไม่อนุมัติสัญชาติไทยให้กับ เบน สมิท หากเป็นคนดีและบริสุทธิ์จริง ขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบเรื่องนี้ดีกว่า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising