×

รมว.พม. เผย เตรียมขึ้นค่าอาหารกลางวันเด็กแรกเกิด – 18 ปี เตรียมศึกษาความต้องการของแต่ละช่วงวัยก่อนเริ่ม ธ.ค. นี้

โดย THE STANDARD TEAM
24.10.2023
  • LOADING...
วราวุธ ศิลปอาชา

วันนี้ (24 ตุลาคม) วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาขึ้นค่าอาหารกลางวันเด็กแรกเกิด – อายุ 18 ปี ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ทำหนังสือไปถึงกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับเรื่องของการรับค่าอาหารเด็กที่อยู่ในการดูแลของกระทรวงที่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าได้ตามที่ขอ โดยจะเริ่มจ่ายได้ในเดือนธันวาคม

 

วราวุธกล่าวว่า จากเดิมเด็กแรกเกิด – 2 ขวบ ได้ 66.50 บาท เพิ่มเป็น 81.87 บาท เด็กอายุ 3-6 ขวบ จากเดิมได้ 57 บาท เพิ่มเป็น 71 บาท เด็กในสถานสงเคราะห์ของกระทรวงตั้งแต่อายุ 7-18 ปี จาก 57 บาท เพิ่มเป็น 71 บาท ส่วนเด็กที่อยู่ในสังกัดกระทรวง พม. แต่อยู่นอกสถานสงเคราะห์ จะได้เพิ่มจาก 57 บาท เป็น 83 บาท โดยค่าอาหารนี้จะรวมไปถึงนมกล่อง UHT ซึ่งเป็นอัตราที่กระทรวงขอปรับในเบื้องต้น แต่การที่เราจะขอเพิ่มเท่าไร ต้องศึกษาว่าเด็กในแต่ละช่วงวัยต้องการสารอาหารเช่นไร ปริมาณเท่าใด ขณะนี้กรมฯ กำลังเร่งศึกษา คาดว่าจะได้ผลการศึกษาก่อนสิ้นปี ซึ่งจะเพิ่มจากเดิมในอัตราไม่เกิน 16 บาท

 

ส่วนที่มีผู้เสียหายหลายรายออกมาร้องเรียนว่าถูกนักการเมืองของบางพรรคการเมืองคุกคามทางเพศ วราวุธกล่าวว่า ผู้ที่ถูกคุกคามทางเพศในแต่ละราย หากติดต่อมาที่ พม. เรายินดีไปพูดคุยและให้คำปรึกษา แต่ไม่ได้จะตัดสินว่าใครเป็นผู้กระทำ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรณีลักษณะนี้ในแต่ละรายย่อมส่งผลกระทบทางจิตใจ ซึ่งกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวยินดีให้คำปรึกษาและเข้าไปพูดคุยเพื่อดูแลสภาพจิตใจของผู้เสียหายแต่ละราย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคหรือไม่ วราวุธกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาก็เป็นสิทธิของแต่ละกรณี ซึ่งจะดำเนินการและมีขั้นตอนตามกฎหมายอยู่แล้ว โดยการดำเนินการด้านจริยธรรมและการดำเนินการตามกฎหมายก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ

 

ส่วนการดูแลแรงงานที่เดินทางกลับจากอิสราเอล วราวุธกล่าวว่า พม. ได้ให้คำปรึกษา พูดคุยเพื่อบรรเทาความเครียดด้านจิตวิทยา จนถึงขณะนี้กระทรวงได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต 8 รายที่มีการยืนยันอัตลักษณ์ และอีก 254 รายที่ได้รับผลกระทบและบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ได้เยี่ยมพูดคุย และพบว่าผู้ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ มีภาคใต้เพียง 2 จังหวัด คือ จังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราช ภาคกลางและภาคตะวันออกเล็กน้อย จนถึงวันนี้พูดคุยไปทั้งหมด 300 ราย โดยประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising